หัวเว่ยเผยผลวิจัย การพัฒนาเทคโนโลยีช่วยยกระดับความยั่งยืนของประเทศ ด้านสุขภาพ การศึกษา และโครงสร้างพื้นฐาน รับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ

2018.06.25

ลอนดอน, สหราชอาณาจักร / 12 มิถุนายน 2561 – เมื่อเร็ว ๆ นี้  หัวเว่ยได้เผยรายงาน Huawei ICT Sustainable Development Benchmark 2018 ระบุว่า ประเทศที่มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีจะสามารถก้าวรุดหน้าได้เร็วกว่าและมีศักยภาพที่เหนือกว่าในการบรรลุสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (United Nations Sustainable Development Goals: SDG) รายงานฉบับดังกล่าวได้ประเมินความเชื่อมโยงระหว่างเทคโนโลยีไอซีทีกับความก้าวหน้าตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติใน 49 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย

รายงานของหัวเว่ยเผยว่า การพัฒนาด้านไอซีทีมีส่วนสัมพันธ์กับระดับความก้าวหน้าสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติถึงร้อยละ 91 แสดงให้เห็นว่า เทคโนโลยีไอซีทีเป็นปัจจัยบ่งชี้หลักที่ส่งผลต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และสะท้อนผลการประเมินที่ดีขึ้นจากปีก่อน แม้จำนวนประเทศที่นำมาวิเคราะห์จะเพิ่มขึ้นจาก 15 เป็น 49 ประเทศในปีนี้ก็ตาม

สำหรับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนฯ ที่นำมาพิจารณานั้นประกอบด้วย 6 เป้าหมายสำคัญ ได้แก่ สุขภาพและความกินดีอยู่ดี (SDG 3), คุณภาพการศึกษา (SDG 4), ความเท่าเทียมกันทางเพศ  (SDG 5), พลังงานสะอาด (SDG 7), อุตสาหกรรม นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน (SDG 9) และความเป็นเมืองที่ยั่งยืน (SDG 11)

รายงานพบว่า เป้าหมายที่ 3 (สุขภาพและความกินดีอยู่ดี) เป้าหมายที่ 4 (คุณภาพการศึกษา)  และเป้าหมายที่ 9 (อุตสาหกรรม นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน) มีความเชื่อมโยงกับเทคโนโลยีไอซีทีมากที่สุด คือ ร้อยละ71 , 73 และ 65 ตามลำดับ สะท้อนให้เห็นว่า เทคโนโลยีดิจิทัลมีส่วนช่วยให้เกิดการพัฒนาก้าวหน้าไปสู่ความสำเร็จในเป้าหมายดังกล่าว และยังช่วยเร่งผลักดันขีดความสามารถของประเทศ โดยเฉพาะในแง่การพัฒนาเศรษฐกิจ ที่แม้การลงทุนด้านไอซีทีเพียงเล็กน้อยก็ส่งผลให้คะแนนสู่ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนฯ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

รายงานยังบ่งชี้ด้วยว่าการเข้าถึง การใช้งาน และทักษะด้านเทคโนโลยีไอซีทีนั้นเชื่อมโยงกับการพัฒนาที่ยั่งยืนของแต่ละประเทศอย่างชัดเจน  โดยในรายงานได้จัดกลุ่มประเทศต่าง ๆ ออกเป็นสามระดับด้วยกันคือ ระดับชั้นนำ ระดับก้าวหน้า และระดับแรกเริ่ม  ประเทศที่มีศักยภาพด้านไอซีทีที่ดีจะมีระดับพัฒนาการสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติที่ดีด้วยเช่นกัน ในทางกลับกัน ประเทศที่ขาดการพัฒนาด้านไอซีทียังคงรั้งท้ายในการบรรลุสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนฯ โดยประเทศไทยจัดอยู่ในระดับก้าวหน้า ด้วยคะแนน 60.5 คะแนน

“หัวเว่ยเชื่อว่า การเร่งยกระดับขีดความสามารถของเทคโนโลยีดิจิทัล จะช่วยแก้ไขปัญหาด้านการพัฒนาที่เร่งด่วนที่สุดของสังคมได้” มร. เควิน (จิงเหวิน) เทา ประธานคณะกรรมการการพัฒนาองค์กรที่ยั่งยืน บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ จำกัด กล่าว พร้อมเสริมว่า “หากประเทศใดไม่คว้าโอกาสที่เกิดจากเทคโนโลยีดิจิทัลเอาไว้ การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศนั้นย่อมช้าลงไปด้วย”

“รายงานนี้แสดงให้เห็นว่า โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเป็นกุญแจสำคัญที่ไขไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนในปี 2573 หรืออีกเพียง 12 ปีข้างหน้าเท่านั้น” มร. เทากล่าว “เราได้ขยายขอบเขตรายงานให้ครอบคลุมมากขึ้นจากปีที่แล้ว โดยเน้นตอบคำถามที่ว่า การเชื่อมโยงด้านเทคโนโลยีดิจิทัลสามารถสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนให้เกิดขึ้นในสังคมได้หรือไม่ เป็นต้นว่า เทคโนโลยีไอซีทีจะช่วยส่งเสริมการศึกษาตลอดชีวิต เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้สูงขึ้น รวมไปถึงสร้างงานและลดความเหลื่อมล้ำลงได้”

“เราหวังว่ารายงานฉบับนี้จะช่วยให้ผู้คนหันมาตระหนักเห็นความสำคัญของเทคโนโลยีไอซีทีกันอย่างจริงจัง และหวังว่าจะช่วยส่งเสริมการวิเคราะห์นโยบายที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรรค์สร้างโลกที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น และมาพร้อมกับความเจริญก้าวหน้า การเปิดกว้างทางความคิด และการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไปในภายภาคหน้า” มร. เทากล่าว

สามารถดูรายงานฉบับเต็มได้ที่ www.huawei.com/en/sustainability