บทสัมภาษณ์ของ Ren Zhengfei กับ CBS

19 กุมภาพันธ์ 2019

Ren Zhengfei ผู้ก่อตั้งหัวเว่ยให้สัมภาษณ์กับ CBS ต่อไปนี้คือบทบันทึกฉบับเต็ม (บทบันทึกในส่วนของ Ren ถูกแปลจากเทปบันทึกเสียงบทสัมภาษณ์ของหัวเว่ย):

คำถาม 1: ขอบคุณค่ะที่ให้สัมภาษณ์กับเรา คุณแทบไม่ให้สัมภาษณ์กับที่ไหนเลย ทำไมคุณถึงตัดสินใจที่จะให้สัมภาษณ์ตอนนี้คะ

Ren: ส่วนใหญ่ผมจะพูดภายในบริษัท ที่จริงแล้วผมพูดกับทีมต่างๆ แทบทุกวัน ผมมักจะให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการภายในของหัวเว่ยมากกว่า และผมก็รู้สึกว่าไม่จำเป็นที่ผมจะต้องรับหน้าที่สื่อสารกับภายนอก เพราะผมคิดว่าประธานกรรมการบริหารแบบหมุนเวียนตามวาระ ผู้ที่ลงไปทำงานจริงๆ ควรเป็นผู้สื่อสารกับภายนอก ผมต้องการทำงานบริหารจัดการภายในมากกว่า ผมจึงไม่ได้ออกมาพูดกับสื่อบ่อยนัก

เรากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เหมือนใครในตอนนี้ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของเราคิดว่าผมมีอิทธิพลอย่างมาก ดังนั้นพวกเขาจึงขอให้ผมออกมาพูดมากขึ้นเพื่อช่วยให้เราสื่อสารกับโลกภายนอกได้ดีขึ้น

คำถาม 2: ชื่อบริษัทของคุณกำลังปรากฏในพาดหัวข่าวมากมาย มีข้อกล่าวหาและการใส่ร้ายบริษัทของคุณเกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อลูกสาวของคุณ ผู้ที่ถูกกักบริเวณในบ้านที่แวนคูเวอร์ ในข้อหาละเมิดการคว่ำบาตรอิหร่าน เธอเป็นอย่างไรบ้างคะ

Ren: ในอดีตหัวเว่ยไม่ได้เป็นบริษัทที่รู้จักกันโดยทั่วไป เราสร้างเครือข่ายโทรคมนาคม และลูกค้าของเราก็มีเพียง 300 บริษัทใหญ่ๆ ทั่วโลก เมื่อเราเริ่มสร้างผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภค ชื่อของเราก็เริ่มเป็นที่รู้จัก ตอนนี้ผู้คนมากมายรู้จักเราในฐานะผู้ผลิตสมาร์ทโฟน แน่นอนว่ามีคนส่วนหนึ่งที่ชอบโทรศัพท์ของเรา และมีอีกส่วนหนึ่งที่ไม่ชอบ ผู้ที่ไม่ชอบสินค้าของเราก็ไม่ได้สนใจเรามากนัก ตอนนี้สหรัฐฯ กำลังฟ้องร้องเรา สหรัฐฯ เป็นประเทศที่มีอำนาจมาก และในแง่หนึ่ง สหรัฐฯ ก็ได้ทำให้โลกทั้งโลกรู้จักหัวเว่ยไปในตัว แน่นอนว่าในขณะนี้สหรัฐฯ อาจไม่สามารถบอกได้ว่าหัวเว่ยเป็นบริษัทที่ดีหรือไม่ แต่เหตุการณ์นี้ก็ช่วยให้ชื่อของเราเป็นที่รู้จักไปทั่ว ตอนนี้ทุกคนรู้จักบริษัทที่เรียกว่าหัวเว่ย ดังนั้นเราอยากจะขอบคุณสหรัฐฯ ที่ช่วยโฆษณาให้

ข้อกล่าวหาที่มีต่อเราไม่ใช่คำตัดสิน ยังเป็นเพียงขั้นตอนแรกๆ ในกระบวนการทางกฎหมาย เราสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ผ่านกระบวนการทางกฎหมาย ปล่อยให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน ผมเชื่อว่าการจับกุม Meng Wanzhou ที่แคนาดามีแรงจูงใจทางการเมือง ลูกสาวของผมเป็นคนดีมาก เธอเรียนหนักและทำงานหนัก เธอเป็นผู้รับผิดชอบในการสร้างระบบบริหารจัดการการเงินของหัวเว่ยซึ่งเป็นระบบที่ดีที่สุดระบบหนึ่งของโลก

Wanzhou ยังกล้าหาญมากอีกด้วย หลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ญี่ปุ่น ครั้งที่เกิดสึนามิและวิกฤตนิวเคลียร์ เธอก็ขึ้นเครื่องบินจากฮ่องกงไปยังโตเกียวเพื่อช่วยงานบรรเทาทุกข์ มีผู้โดยสารเพียงสองคนบนเที่ยวบินนั้น และเธอก็เป็นหนึ่งในนั้น หลังจากที่ Wanzhou ถูกจับกุมที่แคนาดา เด็กสาวในโตเกียวถึงกับเขียนจดหมายขอบคุณ ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ในสื่อญี่ปุ่น ขณะนี้ Wanzhou ถูกกักบริเวณในบ้านและกำลังใช้ช่วงเวลานี้เรียนหลักสูตรทางออนไลน์หลายหลักสูตรเพื่อพัฒนาตนเอง เธอรู้สึกว่าเวลามีค่า และเธอไม่ต้องการใช้เวลาอย่างสูญเปล่า

บางครั้งเราคุยกันทางโทรศัพท์ สายของเราไม่ได้เป็นส่วนตัว ดังนั้นเราจึงคุยกันเรื่องทั่วไปและพูดเล่นใส่กัน เท่าที่ผมบอกได้ เธอมีกำลังใจที่ดี

คำถาม 3: และดิฉันทราบว่าวันคล้ายวันเกิดของเธอคือเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คุณคงจะเสียใจที่พลาดวันคล้ายวันเกิดของลูกสาวไป

Ren: ผมคิดว่าวันคล้ายวันเกิดปีนี้มีความหมายกับเธอมาก ดังคำกล่าวโบราณของจีนที่ว่า "ผู้ยิ่งใหญ่เกิดจากความยากลำบาก" รอยแผลเป็นเหล่านี้จะทำให้ผิวหนังของเธอหนาขึ้นในที่สุด ความยากลำบากที่เธอต้องเผชิญในตอนนี้จะเป็นจุดเปลี่ยน จะติดปีกให้เธอ และผมคิดว่าหลังเหตุการณ์นี้ เธอจะเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

Wanzhou เป็นคนขยันมากตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก แต่เธอก็ไม่เคยประสบกับอุปสรรคครั้งใหญ่มาก่อน อุปสรรคครั้งนี้จะทำให้เกิดร่องรอยที่ติดแน่นในความทรงจำของเธอ และทำให้เธอเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เธอจะแข็งแกร่งขึ้น ถ้าคิดในแง่นี้ วันคล้ายวันเกิดปีนี้ก็มีความหมายอย่างมากสำหรับเธอ

คำถาม 4: คุณพูดว่าข้อกล่าวหาที่มีต่อเธอนั้นมีแรงจูงใจทางการเมือง เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังเผชิญหน้ากับการถูกส่งตัวข้ามแดนไปยังสหรัฐอเมริกา ข้อกล่าวหาที่รุนแรงเหล่านี้พุ่งเป้าไปที่เธอ หากถูกตัดสินว่าทำผิดจริง เธออาจต้องใช้เวลา 30 ปีในคุกของสหรัฐอเมริกา ทำไมคุณถึงเรียกข้อกล่าวหาเหล่านี้ว่ามีแรงจูงใจทางการเมืองคะ

Ren: ระบบกฎหมายในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาโปร่งใส ยุติธรรม และเสมอภาค ในที่สุดพวกเขาจะเปิดเผยหลักฐานและรักษาความโปร่งใสตลอดทั้งกระบวนการ ผมเกรงว่าผมจะตอบคำถามของคุณได้ก็ต่อเมื่อศาลมีคำตัดสินแล้วเท่านั้น

คำถาม 5: คำฟ้องอ้างว่าหัวเว่ย ฉ้อโกงธนาคารขนาดใหญ่สี่แห่ง รวมถึง เอชเอสบีซีในการอนุมัติให้ทำธุรกรรมกับอิหร่าน และแน่นอนว่าการกระทำเช่นนี้เป็นการฝ่าฝืนการคว่ำบาตรระหว่างประเทศ และหัวเว่ย ทำเช่นนี้ผ่านบริษัทในเครือที่ชื่อ สกายคอม คุณมีความสัมพันธ์อย่างไรกับ สกายคอมคะ

Ren: ปัญหาเหล่านี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการทางกฎหมาย เราจะต้องรอคำตัดสินก่อนที่เราจะสามารถตอบคำถามเช่นนี้ได้

คำถาม 6: คุณอยากจะชี้แจงอะไรเกี่ยวกับการฝ่าฝืนการคว่ำบาตรระหว่างประเทศของหัวเว่ยไหมคะ

Ren: ผมยังคงยืนยันว่าต้องรอให้ศาลตัดสินครับ

คำถาม 7: คุณเคยพูดในอดีตว่าคุณรู้สึกผิดเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ลำบากของลูกสาว ทำไมคุณถึงพูดเช่นนั้นคะ

Ren: ผมคิดว่าผมไม่ได้ใช้เวลากับลูกๆ ของผมในตอนที่พวกเขายังเด็ก ผมใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำงาน

คำถาม 8: คุณบอกว่าคุณรู้สึกผิดในฐานะพ่อ เพราะอะไรหรือคะ

Ren: ผมเข้าร่วมกองทัพเมื่อลูกๆ ของผมยังเด็กมาก และผมก็ไม่ได้อยู่บ้านถึง 11 เดือนต่อปี ในเดือนที่ผมอยู่บ้าน พวกเขามีการบ้าน พวกเขาต้องไปโรงเรียน ผมไม่ได้ใช้เวลาร่วมกับพวกเขามากนัก แม่ของพวกเขารับผิดชอบการศึกษาและการเลี้ยงดูพวกเขาเป็นหลัก ผมกับลูกๆ ไม่ได้สนิทสนมกันมากนัก

หลังจากที่ผมเริ่มสร้างหัวเว่ย การรับประกันความอยู่รอดของบริษัทนั้นเป็นเรื่องยากมาก ผมต้องทำงานในสำนักงาน 16 ชั่วโมงต่อวัน หรือทำกิจกรรมทางธุรกิจอื่นๆ แปลว่าผมไม่สามารถดูแลลูกๆ ของผมได้ในตอนที่พวกเขากำลังเติบโตและไปโรงเรียน นั่นคือสิ่งที่ผมขาดไป

คำถาม 9: คงจะเป็นเรื่องยากสำหรับคุณ ไม่เพียงแต่ในฐานะซีอีโอ ผู้ที่อาจจะสูญเสียซีเอฟโอไป แต่ยังในฐานะพ่อที่เห็นลูกสาวของตนเผชิญกับการถูกส่งตัวข้ามแดนและอาจต้องติดคุก คุณรู้สึกอย่างไรบ้างคะกับการสวมหมวกทั้งสองใบในฐานะ ซีอีโอและในฐานะพ่อ

Ren: ที่จริงแล้ว ผมคิดว่าผมรู้สึกโอเค เพราะผมเชื่อว่าระบบกฎหมายจะเคารพข้อเท็จจริงและหลักฐาน และศาลจะยึดมั่นในหลักการแห่งความโปร่งใส ความยุติธรรม และความเที่ยงธรรม ผมจะรอคำตัดสินของศาล เรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการประกอบกิจการของบริษัทแม้แต่น้อย เพราะเราดำเนินกิจการตามกระบวนการและระบบที่มีความสมบูรณ์ ไม่มีบุคคลใดเพียงคนเดียวที่จะสามารถส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจการของทั้งบริษัทได้

คำถาม 10: ดิฉันอยากกลับไปที่สิ่งที่คุณพูดไว้ก่อนหน้านี้ ที่คุณบอกว่าการจับกุมลูกสาวของคุณมีแรงจูงใจทางการเมือง ดิฉันสงสัยว่าคุณคิดเห็นอย่างไรกับจังหวะเวลาการจับกุมเธอในระหว่างการเจรจาการค้าและสงครามการค้าที่อาจเกิดขึ้นระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา คุณรู้สึกว่าตัวคุณ บริษัทของคุณ หรือลูกสาวของคุณถูกใช้เป็นเครื่องมือหรือไม่คะ

Ren: ทั้งจีนและสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศมหาอำนาจ เหมือนลูกบอลทำลายล้างขนาดใหญ่สองลูก หัวเว่ยเป็นเหมือนมะเขือเทศลูกเล็กๆ หากลูกบอลทั้งสองลูกต้องการปะทะกัน เราจะไปยืนขวางทางได้อย่างไร เป็นไปไม่ได้หรอก และการพยายามทำเช่นนั้นก็ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ Meng Wanzhou ไม่ใช่เครื่องมือที่มีค่าในสมการนั้น ในความคิดเห็นของผมคือกรณีของเธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ เท่าใดนัก ทั้งสองประเทศจำเป็นต้องปรับความสัมพันธ์ระหว่างกันและกันผ่านการเมือง กฎหมาย และสถาบันต่างๆ บุคคลทั่วไปอย่างเราไม่ได้มีบทบาทสำคัญในเรื่องเช่นนี้

ในขณะเดียวกัน ขณะที่สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ทวีความรุนแรงขึ้น หัวเว่ยเห็นการเติบโตที่สูงขึ้นมากๆ ในเดือนมกราคม 2019 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ดังนั้นสงครามการค้าจึงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเรามากนัก และเป็นไปไม่ได้เลยที่หัวเว่ยจะสามารถส่งผลกระทบต่อสงครามการค้าได้เช่นกัน

คำถาม 11: มีรายงานว่าประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่าเขาจะพิจารณาแทรกแซงให้ความช่วยเหลือลูกสาวของคุณ และหลายคนเชื่อว่านั่นเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการค้า คุณมีปฏิกิริยาอย่างไรคะเมื่อคุณได้ยินเช่นนั้นจากประธานาธิบดีทรัมป์

Ren: ผมไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ต่อคำกล่าวนั้น ประธานาธิบดีทรัมป์ชอบทวีตความคิดเห็นของเขา เขาเป็นประธานาธิบดีที่ตรงไปตรงมา แต่ผมก็ยังคิดว่าเรื่องของ Meng Wanzhou ควรได้รับการจัดการตามกฎหมาย

คุณทรัมป์เป็นประธานาธิบดีที่ยอดเยี่ยม เขาสามารถลดภาษีของสหรัฐอเมริกาได้ในเวลาอันสั้น การลดภาษีนั้นทำได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศระบอบประชาธิปไตย ทุกประเทศในระบอบประชาธิปไตยเห็นว่าการอภิปรายเป็นสิ่งสำคัญ: ผู้คนถกเถียงโต้แย้งกันเป็นเวลานานกว่าจะบรรลุฉันทามติได้ ภาษีของสหรัฐอเมริกาจากเดิมที่สูงก็ต่ำลง และพวกเขาก็บรรลุฉันทามติได้ค่อนข้างรวดเร็ว และผ่านเป็นกฏหมายได้ในที่สุด การลดภาษีจะเป็นเรื่องดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในอีกหนึ่งร้อยปีข้างหน้า เมื่ออัตราภาษีต่ำลง บริษัทต่างๆ ก็มีภาระน้อยลง พวกเขาจึงเติบโตได้เร็วขึ้น การลดภาษีจะเตรียมความพร้อมของสังคมที่นำไปสู่การเติบโตอย่างรวดเร็ว แนวทางจัดการ [กับภาษี] ของประธานาธิบดีทรัมป์เป็นความคิดริเริ่มที่ยอดเยี่ยม

ผมพูดมาตลอดว่าจีนควรลดภาษี เพราะจะทำให้บริษัทมีช่องว่างให้ได้หายใจหายคอ จากนั้นบริษัทต่างๆ จะสามารถรวบรวมความแข็งแกร่งและแข่งขันกันอย่างคึกคักยิ่งขึ้น การลดภาษีในประเทศจีนค่อนข้างเชื่องช้า ประเทศจีนมีภาระหนัก ภูมิภาคหลายแห่งในจีนยังคงยากจน ประเทศต้องการเงินมากพอสมควรเพื่อช่วยแก้ปัญหานี้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถลดภาษีทั้งหมดได้ในคราวเดียว ต้องลดทีละนิดทีละหน่อย ดังนั้นในแง่นี้ สิ่งที่ประธานาธิบดีทรัมป์ทำจึงยอดเยี่ยมมาก

มีอีกสิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะพูด หากประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงข่มขู่ประเทศและบริษัทอื่นๆ และจับกุมผู้คนมั่วๆ ต่อไป นักลงทุนก็จะหนีหาย แล้วสหรัฐฯ จะหารายได้จากไหนมาแทนภาษีที่หายไป

สหรัฐฯ ลดภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุน รายได้จากภาษีจากนักลงทุนหน้าใหม่สามารถช่วยเติมเต็มช่องว่างนั้นได้ และสหรัฐฯ จะยังคงเติบโตต่อไปได้ ผมคิดว่าสหรัฐฯ ควรเปลี่ยนนโยบาย ให้เป็นนโยบายที่เป็นมิตรต่อธุรกิจมากขึ้น หากไม่ทำเช่นนั้น คงไม่มีใครอยากลงทุนเพราะมีความเสี่ยง มันมีผลกระทบ การแก้ไขปัญหานี้สำคัญต่อภาพลักษณ์ของสหรัฐอเมริกาในต่างประเทศเช่นกัน

คำถาม 12: คุณหวังว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะเข้ามาแทรกแซงให้ความช่วยเหลือลูกสาวของคุณหรือไม่คะ

Ren: ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะผมไม่รู้จักเขา ผมไม่เคยติดต่อกับเขาโดยตรง ดังนั้นผมจึงไม่คิดว่าผมจะสามารถแสดงความคิดเห็นในทางใดทางหนึ่งได้ ถ้าเขาเป็นเพื่อนของผม ผมก็อาจจะเข้าใจเขา ความจริงก็คือผมรู้จักเขาจากทวีตและสุนทรพจน์ของเขาเท่านั้น ผมคิดว่ามีหลายประเด็นของเขาที่สมเหตุสมผลในการแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภาครั้งล่าสุด ผมอ่านแล้ว ดีทีเดียว

คำถาม 13: คุณชื่นชมประธานาธิบดีทรัมป์อย่างมาก แต่เขากลับมีแนวโน้มที่จะออกคำสั่งของฝ่ายบริหารที่สั่งห้ามบริษัทของคุณไม่ให้ทำธุรกิจในสหรัฐอเมริกา คุณพิจารณาทั้งสองด้านนี้อย่างไรคะ

Ren: พูดตามตรง เราไม่ได้ทำธุรกิจอะไรมากมายในสหรัฐอเมริกาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่เราก็ไม่ล้มเลิกความพยายามกับประเทศนี้ เราพยายามไปเรื่อยๆ เพราะเราเคารพสหรัฐฯ หากพวกเขาไม่ให้เราค้าขายที่นั่น เราก็จะไม่ค้าขายที่นั่น

แต่นักการเมืองสหรัฐฯ บางคนกล่าวว่า หัวเว่ยเป็นภัยคุกคามด้านความปลอดภัย ที่นั่นแทบไม่มีอุปกรณ์ของเราอยู่เลย แล้วเราจะเป็นภัยคุกคามด้านความปลอดภัยได้อย่างไร ถ้าสหรัฐฯ ปลอดภัยโดยไม่มี หัวเว่ยบางทีสหรัฐฯ สามารถใช้ข้อเท็จจริงนี้เพื่อโน้มน้าวประเทศอื่นๆ ทั่วโลกได้ แต่เครือข่ายในสหรัฐอเมริกามีความปลอดภัยจริงๆ หรือ ข้อมูลของพวกเขาปลอดภัยหรือไม่

ถ้าพวกเขาไม่สามารถจัดการการรักษาความปลอดภัยได้แม้ว่าจะไม่มีหัวเว่ยอยู่ที่นั่นก็ตาม การเชื่อว่าสหรัฐฯ สามารถรักษาความปลอดภัยให้ตัวเองได้โดยการกีดกันเราก็เป็นสิ่งที่ผิด ทุกประเทศและลูกค้าทุกคนเลือกได้ว่าจะทำงานกับเราหรือไม่ เราดำเนินธุรกิจในเศรษฐกิจแบบตลาด และเรายอมรับการตัดสินใจของลูกค้า เราขายผลิตภัณฑ์ของเราในหลายประเทศทั่วโลก และก็มีผู้ประกอบการอยู่มากที่ไม่ซื้อของของเรา แต่เราก็ไม่ถือโทษโกรธพวกเขา มีเหตุผลมากมายที่จะไม่ซื้อสินค้าจากคนๆ หนึ่ง และไม่มีทางที่หัวเว่ย จะสามารถยึดครองทุกตลาดได้ มีตลาดอยู่ทุกหนแห่ง แต่เราไม่มีผลิตภัณฑ์เพียงพอที่จะนำเสนอให้ทุกคน ถ้าสหรัฐฯ แบนเรา ก็หมายความว่ากฎหมายของสหรัฐอเมริกาไม่อนุญาตให้เราค้าขายที่นั่น และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เราก็จะไม่ค้าขายที่นั่น ก็เท่านั้นเอง

แต่บริษัทอื่นอาจไปตีตลาดสหรัฐฯ ซึ่งก็ดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่นกัน ผมเชื่อว่านโยบายทางภาษีใหม่ [ของสหรัฐฯ] นั้นดีเยี่ยม เป็นนโยบายที่ทำให้สำเร็จได้ยาก แต่สหรัฐฯ ก็ทำได้ ยากในทุกประเทศนั่นแหละ เมื่อลดภาษีแล้ว คุณต้องปรับปัจจัยอื่นๆ รวมถึงการใช้จ่าย โครงข่ายการคุ้มครองทางสังคม และสิ่งต่างๆ ในทำนองเดียวกันตามไปด้วยเพื่อคงดุลยภาพไว้ แต่สหรัฐฯ ก็ทำให้เป็นจริงได้ เป็นประเทศที่ยอดเยี่ยมจริงๆ

คำถาม 14: คุณพูดถึงปัญหาใหญ่ที่นี่ ซึ่งก็คือการที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาและหน่วยงานด้านความมั่นคงเชื่อว่าคุณติดตั้งช่องโหว่ให้แก่หน่วยข่าวกรองของจีน คุณมีหลักฐานมาหักล้างอย่างแน่ชัดว่าไม่เป็นเรื่องจริงได้หรือไม่คะ

Ren: อย่างที่ผมเคยกล่าวไว้ในการสัมภาษณ์ครั้งก่อนๆ ว่าเราไม่เคยทำอะไรแบบนั้น และเราจะไม่ทำเช่นนั้นเด็ดขาด ประการแรก เราไม่เคยเข้าไปมีส่วนร่วมในการจารกรรมทุกรูปแบบ และจะไม่อนุญาตให้พนักงานของเราเข้าไปมีส่วนร่วมในพฤติกรรมดังกล่าว ประการที่สอง เราไม่เคยและจะไม่ติดตั้งช่องโหว่ในอุปกรณ์ของเรา

บางคนถามว่าถ้ากฎหมายจีนบังคับให้คุณต้องติดตั้งช่องโหว่ คุณจะทำอย่างไร ผมจะปฏิเสธอย่างเด็ดขาด แน่นอนว่าผมจะไม่ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องให้เราติดตั้งช่องโหว่ใดๆ ก็ตาม

ที่การประชุมความมั่นคงมิวนิกเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2019 Yang Jiechi สมาชิกกรมการเมืองของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน (CPC) และผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศของคณะกรรมการกลาง CPC กล่าวอย่างชัดเจนว่า

ประการแรก กฎหมายของประเทศจีนไม่ได้กำหนดให้บริษัทติดตั้งช่องโหว่

ประการที่สอง รัฐบาลจีนกำหนดให้บริษัทสัญชาติจีนต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และกฎหมายสากลและข้อบังคับของประเทศที่เข้าไปประกอบกิจการ

รัฐบาลจีนได้กล่าวอย่างชัดเจนและผมเองก็ได้กล่าวอย่างชัดเจน สารของเราตรงกัน ไม่มีช่องโหว่ใดๆ ทั้งนั้น

ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา หัวเว่ยได้ให้บริการผู้คนสามพันล้านคนในกว่า 170 ประเทศและภูมิภาคต่างๆ เรามีประวัติที่ยอดเยี่ยมในแง่ของความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์มานานสามทศวรรษแล้ว และประวัติของเราก็ได้พิสูจน์ว่าอุปกรณ์ของเราไม่มีช่องโหว่ และจะเป็นเช่นนั้นต่อไปอีก 30 ปีข้างหน้า เรามีความชัดเจนในเรื่องนี้

ผมสามารถกล่าวได้อย่างชัดเจนตรงนี้ว่า ไม่มีใครเคยสั่งให้เราทำเช่นนั้น และจะไม่มีใครทำเช่นนั้น เราได้กล่าวอย่างชัดเจนมากๆ แล้ว และรัฐบาลจีนก็ได้กล่าวยืนยันในเรื่องนี้อีกครั้งในที่ประชุมความมั่นคงมิวนิค

คำถาม 15: คุณบอกว่าคุณจะไม่ทำตามคำสั่งทำนองนี้จากรัฐบาลจีน แม้ว่าพวกเขาจะเล่นงานคุณก็ตาม ฉะนั้นบริษัทของคุณจะไปรอดได้อย่างไร คุณจะปฏิเสธรัฐบาลจีนได้อย่างไรคะ

Ren: อย่างที่ผมเพิ่งพูดไป Yang Jiechi สมาชิกกรมการเมืองของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนได้กล่าวอย่างชัดแจ้งในที่ประชุมความมั่นคงมิวนิคไปแล้วว่าไม่มีข้อบังคับดังกล่าวอยู่ในกฎหมายจีน

เขาเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน และเขาก็พูดในนามของรัฐบาลจีน ดังนั้นเมื่อผมพูดว่า "ไม่มี" ก็ตรงกับที่รัฐบอกว่าไม่มีข้อบังคับดังกล่าว ไม่มีปัญหาด้านความปลอดภัยใดๆ

คำถาม 16: ประธานคนปัจจุบันของคุณกล่าวว่า หัวเว่ยถูกกล่าวหาว่าโกหก และถูกกลั่นแกล้งอย่างอยุติธรรมและไม่เหมาะสม คุณเชื่อหรือไม่ว่าสหรัฐอเมริกากำลังกลั่นแกล้ง หัวเว่ยอยู่ในตอนนี้

Ren: ผมคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่ประเทศจะตั้งคำถามกับบริษัท แต่ต้องดำเนินการผ่านกระบวนการทางกฎหมายและระบบกฎหมายของสหรัฐฯ เราต้องการกระบวนการที่โปร่งใสและยุติธรรมเพื่อชี้ว่าใครถูกและใครผิด

ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา เราได้เข้าไปมีส่วนร่วมในคดีความจำนวนหนึ่งในสหรัฐอเมริกา และเราก็ไม่เคยแพ้เลยสักคดีเดียว อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่าหัวเว่ยทำได้ค่อนข้างดีในด้านนี้

ถ้าเราสามารถใช้ศาลในการแก้ไขปัญหาเช่นนี้ได้ ผมคิดว่าความเห็นของประธานของเราจะได้รับการพิสูจน์ว่าถูกต้อง เราควรปล่อยให้กระบวนการทางกฎหมายดำเนินไปจนจบ เนื่องจากสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ยึดมั่นในกฎหมาย

คำถาม 17: คุณเชื่อหรือไม่ว่าสหรัฐอเมริกากำลังพยายามที่จะโค่นล้มกิจการของหัวเว่ย

Ren: หัวเว่ยจะถูกโค่นล้มงั้นเหรอ ผมไม่คิดเช่นนั้น บริษัทเราเต็มไปด้วยพลัง เป็นไปได้ว่าแรงกดดันจากสหรัฐฯ ทำให้เรามีแรงจูงใจมากขึ้นและผลักดันให้เราทำงานหนักขึ้น

มีคำกล่าวว่า "วิธีที่ง่ายที่สุดในการพังทลายป้อมปราการคือการโจมตีจากภายใน" ผมอยากจะบอกว่าแรงกดดันจากภายนอกมีแต่จะทำให้ป้อมปราการเป็นหนึ่งเดียวกัน มีความยืดหยุ่น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น จะพังทลายลงได้อย่างไร

ลูกค้าของเราหลายรายทำงานกับเรามานานกว่าสองทศวรรษ พวกเขารู้จักหัวเว่ยดีที่สุดและรู้ว่าแรงจูงใจของเราคืออะไร ผู้บริโภคตัดสินใจด้วยตัวเอง และพวกเขาก็ไม่ได้ตัดสินใจว่าจะซื้อสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงเพราะคนอื่นบอก เรามั่นใจว่าเราจะอยู่รอดและเติบโตต่อไปได้ เหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อเรามากนัก

คำถาม 18: ดิฉันถามคำถามนี้เพราะรองประธานาธิบดี Pence และเลขานุการ Pompeo อยู่ที่ยุโรปทั้งคู่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พวกเขาพยายามโน้มน้าวพันธมิตรสหรัฐฯ ให้ไม่ใช้สินค้าหัวเว่ยในระหว่างที่พวกเขาเปิดตัวเทคโนโลยี 5จี รองประธานาธิบดี Pence กล่าวที่การประชุมความมั่นคงมิวนิคว่า "เราไม่สามารถรับประกันได้ว่าเราจะปกป้องตะวันตกได้ หากพันธมิตรของเราหันไปพึ่งพาตะวันออกมากขึ้นเรื่อยๆ" คุณมองว่านั่นเป็นการคุกคามหรือไม่คะ

Ren: ก่อนอื่นผมต้องขอบคุณพวกเขา ทั้งคู่ต่างก็กำลังทำงานที่ยิ่งใหญ่เพื่อประเทศของตน ผมเคยอ่านการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินของ Mike Pence เขามีเงินออมส่วนตัวเพียงประมาณ 15,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และ 15,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับการศึกษาของลูกสองคน ในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐ เขากำลังต่อสู้เพื่อการเมืองและอุดมคติของเขา ในความเห็นของผม นี่ทำให้เขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ Mike Pompeo เป็นคนที่ยิ่งใหญ่เช่นกัน เขาจบปริญญาเอกด้านรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

พวกเขาช่วยโฆษณา 5จี ของหัวเว่ยไปทั่วโลก ก่อนหน้านี้ไม่มีใครรู้เลยว่า 5จี ทำอะไรได้ ตอนนี้คนทั้งโลกรู้จัก 5จี และเมื่อผู้คนศึกษาเพิ่มเติม พวกเขาก็รู้ว่ามีเพียงหัวเว่ยเท่านั้นที่ทำ 5จี ออกมาได้ดีที่สุด มีเพียง 5จี ของเราเท่านั้นที่ดีที่สุดในโลก ผลกระทบที่เรามีจึงขยายขอบเขตออกไปไกลขึ้น เราคว้าสัญญาได้มากขึ้น ไม่ใช่น้อยลง และเราก็คว้าสัญญาได้เร็วขึ้นกว่าเดิม รวมถึงในยุโรปด้วย

นั่นคือเหตุผลที่ผมบอกว่าผมต้องขอบคุณที่พวกเขาช่วยทำให้ชื่อของเราเป็นที่รู้จักไปทั่วฟรีๆ ดังนั้นผมจึงรู้สึกขอบคุณพวกเขามากๆ ฝากขอบคุณพวกเขาด้วยครับ

คำถาม 19: ดูเหมือนเป็นการพูดเหน็บแนมเล็กน้อยนะคะ

Ren: เปล่า ผมไม่ได้เหน็บแนมใครเลย หัวเว่ยเป็นแค่บริษัทแห่งหนึ่ง และสหรัฐอเมริกาก็เป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ ความขัดแย้งของเรากับสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ช่วยทำให้ชื่อของเราเป็นที่รู้จักไปทั่ว

คำถาม 20: ดิฉันมั่นใจว่าพวกเขาจะดูการสัมภาษณ์ของเรา และก็แล้วแต่พวกเขาจะตีความ ข้อกังวลหนึ่งที่พวกเขากำลังพยายามที่จะยกขึ้นมาโน้มน้าวพันธมิตรในยุโรปคือ 5จี ของหัวเว่ยนั้นเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีทางทหารอย่างใกล้ชิด ดูเหมือนสหรัฐอเมริกากำลังจะบอกว่าพวกเขาอาจพิจารณาส่งกองทหารสหรัฐฯ ไปในบางประเทศในยุโรป หากประเทศเหล่านั้นยังคงใช้เทคโนโลยีของหัวเว่ยต่อไป คุณมีคำตอบต่อเรื่องนี้อย่างไรคะ

Ren: ประการแรก ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเห็นว่า 5จี เป็นอุปกรณ์ประเภทหนึ่งสำหรับการควบคุมทางทหาร 5จี ไม่ใช่ระเบิดปรมาณู ระเบิดปรมาณูทำร้ายผู้คนและทำให้เกิดปัญหาด้านความปลอดภัย แต่ 5จี นำประโยชน์มาสู่ผู้คนและมอบช่องทางส่งผ่านข้อมูลให้กับเราเพิ่มเติม ช่องทางเหล่านี้ถูกควบคุมโดยผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือและรัฐบาล เราจัดหาอุปกรณ์ให้เท่านั้น คล้ายๆ กับท่อน้ำและก๊อกน้ำ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะไม่เป็นภัยคุกคามด้านความปลอดภัยที่ร้ายแรง หลังจากความตื่นตระหนกทั้งหลายนี้หายไป ผู้คนจะสงบสติอารมณ์ลงได้ในที่สุด และหันมาดูว่าที่จริงแล้วอุปกรณ์ของเราเป็นอย่างไร เราคิดว่ายุโรปจะทำการประเมินด้วยตนเอง ผมไม่ได้ประชดเหน็บแนมใครทั้งนั้น ผมไม่เคยพูดเช่นนั้นกับสื่อเลย เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่พวกเขาช่วยเราประชาสัมพันธ์ ในความเป็นจริง หลายประเทศไม่ได้ให้ความสำคัญกับหัวเว่ยมากนัก บางประเทศไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราเป็นใคร การประชาสัมพันธ์ครั้งนี้ได้ช่วย หัวเว่ยยกระดับชื่อเสียงและขยายตลาด เราคว้าสัญญาได้มากขึ้นและเร็วขึ้น เนื่องจากเหตุการณ์ต่างๆ ไม่นานนี้ ยอดขายสินค้าอุปโภคของเราในเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 68% ผมจึงเชื่อว่าเหตุการณ์นี้จะไม่กลายเป็นวิกฤติครั้งใหญ่สำหรับเราและจะไม่ส่งผลกระทบต่อเรามากนัก

ก่อนที่ประเทศตะวันตกจะพูดว่า หัวเว่ยเป็นภัยคุกคามต่อตะวันตก พวกเขาควรประเมินสิ่งที่หัวเว่ยมอบให้กับสังคมก่อน ประการแรก เราให้บริการคนสามพันล้านคนใน 170 ประเทศและภูมิภาค และเรามีส่วนช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงสารสนเทศและความรู้อย่างมาก เช่นมอบโอกาสในการเข้าถึงข้อมูลและโอกาสทางการศึกษาให้แก่ประเทศยากจน ประเทศจีนนำหน้าหลายประเทศในแง่ของการพัฒนาเครือข่าย และขณะนี้ปัญหาความยากจนของจีนก็กำลังทุเลาลง เพราะผู้คนสามารถเข้าถึงข้อมูลใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่ๆ งานใหม่ๆ และเทคนิคการขายใหม่ๆ ได้ เรานำประโยชน์มาสู่มนุษยชาติ เราไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อสังคม และจะไม่ทำร้ายสังคมเป็นอันขาด

ประการที่สอง เรามีสิทธิบัตรมากกว่า 80,000 ฉบับ สิทธิบัตรเหล่านี้คือความช่วยเหลือของเราต่อการวางรากฐานสังคมดิจิทัล รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ออกสิทธิบัตรหลักๆ มากกว่า 11,500 ฉบับให้แก่เรา เราจึงมีสิทธิ์ตามกฎหมาย เราเป็นผู้มีส่วนช่วยสนับสนุนการพัฒนาสารสนเทศรายใหญ่ในสหรัฐฯ ไม่ใช่ภัยคุกคาม

สำหรับคำถามเกี่ยวกับช่องโหว่ ผมได้ชี้แจงหลายครั้งแล้วว่าอุปกรณ์ทุกชิ้นของเราไม่มีช่องโหว่แน่นอน เราจะไม่ยอมรับความเสี่ยงนั้นและทำสิ่งที่เราไม่ควรทำ

คำถาม 21: คุณเคยให้ข้อมูลใดๆ ของลูกค้าของคุณ แม้ว่าจะเป็นลูกค้าในประเทศก็ตาม แก่รัฐบาลจีนหรือไม่คะ ไม่ว่าด้วยวิธีการ ลักษณะ หรือรูปแบบใดก็ตาม

Ren: ตลอด 30 ปีที่ผ่านมาหัวเว่ยไม่เคยทำเช่นนั้น และผมเชื่อว่าเราจะไม่ทำเช่นนั้นในอนาคต

คำถาม 22: เป็นไปได้ไหมว่าหัวเว่ยอาจมีช่องโหว่โดยที่คุณไม่ทราบ

Ren: เป็นไปไม่ได้ครับ ทุกแผนกตั้งแต่บนลงล่างได้ย้ำว่าไม่อนุญาตให้มีช่องโหว่ อุปกรณ์ของหัวเว่ยไม่มีช่องโหว่ครับ หากมีช่องโหว่อยู่จริง สหรัฐอเมริกาคงจะพบไปตั้งนานแล้ว เพราะสหรัฐอเมริกามีเทคโนโลยีขั้นสูงขนาดนั้น

คำถาม 23: แม้จะมีคำเตือนจากสหรัฐอเมริกา แต่คุณก็ได้รับการติดต่อจากสำนักข่าวกรองจากสหราชอาณาจักร กล่าวว่าพวกเขาสามารถลดความเสี่ยงได้ และเป็นไปได้ว่าพวกเขาจะยังคงทำธุรกิจกับหัวเว่ยต่อไปในขณะที่พวกเขาเปิดตัวเทคโนโลยี 5จี และนิวซีแลนด์ยังกล่าวด้วยว่าพวกเขาจะศึกษาข้อตกลงของคุณ ซึ่งพวกเขาได้แบนหัวเว่ยไป คุณเห็นว่านี่เป็นข้อพิสูจน์ว่าคำกล่าวหาจากสหรัฐอเมริกาเป็นเท็จหรือไม่คะ

Ren: ผมไม่คิดเช่นนั้น ผมคิดว่าสหรัฐฯ กำลังเตือนทุกคนว่าอาจมีปัญหาบางอย่าง และทุกคนจำเป็นต้องประเมินปัญหาเหล่านั้น เราได้จัดตั้งศูนย์ประเมินความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ในสหราชอาณาจักร ที่ซึ่งเราได้มอบซอร์สโค้ดให้รัฐบาลสหราชอาณาจักรทำการตรวจสอบ ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่เราได้ร่วมมือกับสหราชอาณาจักร ไม่เคยมีเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยใดๆ เกิดขึ้นมาก่อน หัวเว่ยได้สร้าง "กำแพง" ที่แข็งแกร่งมากขึ้นมา เรามีเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก บริษัท Cigital จากสหรัฐอเมริกาทำการประเมินว่าระบบของเราแข็งแกร่งที่สุดในแง่ของการป้องกันการโจมตี เมื่อรัฐบาลสหราชอาณาจักรตรวจสอบซอฟต์แวร์ของเราโดยละเอียด พวกเขาพบว่าโค้ดไม่เป็นไปตามมาตรฐาน แต่ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เพราะเมื่อ 30 ปีก่อนเราเป็นบริษัทขนาดเล็ก โค้ดที่เราเขียนในอดีตไม่เป็นไปตามมาตรฐานปัจจุบัน ตอนนี้พวกเขาขอให้เราทำการปรับปรุงโค้ดบนเครือข่ายที่ใช้งานอยู่ในสหราชอาณาจักร และปรับโครงสร้างเครือข่ายโดยใช้มาตรฐานซอฟต์แวร์ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อ 30 ปีข้างหน้า เราจึงตัดสินใจทุ่มเงิน 2 พันล้านดอลลาร์เพื่อปรับปรุงซอร์สโค้ดบนเครือข่ายเหล่านี้ สหราชอาณาจักรได้ข้อสรุปว่าสามารถจัดการปัญหาเกี่ยวกับหัวเว่ยได้เนื่องจากเราเป็นพันธมิตรกันมานานถึงสิบปี สหราชอาณาจักรได้ชี้ให้เห็นว่า มีคนบอกว่าอาจมีปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับหัวเว่ย แต่เป็นปัญหาที่สามารถจัดการได้

จากนี้ต่อไป เทคโนโลยีจะพัฒนาเร็วขึ้นเรื่อยๆ และปริมาณการรับส่งข้อมูลจะเพิ่มขึ้น จึงต้องใช้อุปกรณ์ที่มีความจุสูง เรายังคงระมัดระวังเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ ในอดีตต้องใช้อาคารหนึ่งชั้นเพื่อจัดเก็บอุปกรณ์ที่รองรับผู้ใช้ 100,000 คน ปัจจุบันนี้พื้นที่ขนาดเล็กกว่านั้นมากก็เพียงพอที่จะรองรับอุปกรณ์ที่ให้บริการผู้ใช้นับล้านคนแล้ว นอกจากนี้เรายังกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยหรือความผิดพลาดที่เกิดจากเทคโนโลยีเครือข่าย เหตุการณ์เล็กๆ อาจมีผลกระทบอย่างมาก แต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่เคยเกิดขึ้น

เมื่อเร็วๆ นี้ เครือข่ายของบางบริษัทประสบปัญหาสัญญาณขาดหายในหลายประเทศ ผมไม่คิดว่าบริษัทเหล่านี้สมควรถูกตำหนิอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ต้องยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นและทำการปรับปรุง ไม่มีบริษัทใดบริษัทหนึ่งที่จะประสบความสำเร็จในตลาดเครือข่ายตลอดไป รวมถึงหัวเว่ยด้วย แต่เรามีระบบที่ออกแบบมาอย่างดีเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาเครือข่าย ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลคือสองสิ่งที่แตกต่างกัน เราขายท่อเครือข่าย และเราขายอุปกรณ์ให้กับผู้ให้บริการเครือข่าย ซึ่งเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะอนุญาตให้สิ่งใดผ่านท่อเหล่านั้นบ้าง เราจึงไม่มีอำนาจเข้าไปควบคุม

คำถาม 24: ดังนั้นคำตอบของคุณคืออะไรคะ เมื่อคุณได้ยินว่า Gina Haspel ผู้อำนวยการของ CIA กล่าวว่าเธอจะไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ยเพราะความกังวลด้านความปลอดภัยและข่าวกรอง ผู้อำนวยการ NSA ยังบอกอีกด้วยว่าเขาจะไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ของคุณ และ Michael Hayden อดีตผู้อำนวยการ CIA กล่าวว่าเขามีหลักฐานเพียงพอที่จะโน้มน้าวผู้อำนวยการ NSA ว่า หัวเว่ยกำลังสอดแนมให้กับจีน

Ren: บุคคลเหล่านี้อาจไม่ได้ใช้อุปกรณ์ของเราโดยตรง อย่างไรก็ตามรัฐบาลสหรัฐอเมริกาใช้งบ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการซื้ออุปกรณ์ไอทีทุกปี และมีการนำสิทธิบัตรของหัวเว่ยจำนวนมากมาใช้ในการสร้างอุปกรณ์นี้ หัวเว่ยเป็นผู้ช่วยเหลือสนับสนุนรายใหญ่ต่อการพัฒนาด้านไอที และเราก็อาจเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำด้านไอทีด้วย 5จี จะถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางทั่วโลก และผลิตภัณฑ์ 5จี ไม่ว่าจะมาจากที่ใดก็ตาม จะถูกสร้างขึ้นจากรากฐานที่หัวเว่ยได้วางไว้ให้

เราคิดว่าเป็นที่เข้าใจได้หากลูกค้าบางคนจะบอกว่าพวกเขาจะไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา โลกใบนี้กว้างใหญ่มาก เราไม่สามารถคาดหวังให้ทุกคนใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา และเราก็ไม่มีกำลังที่จะให้บริการทุกคนเช่นกัน ความคิดเห็นของพวกเขานั้นเข้าใจได้ และเรายอมรับว่าผู้คนมีมุมมองเกี่ยวกับเราที่แตกต่างกัน เราเพียงแค่มุ่งมั่นที่จะให้บริการลูกค้าอย่างดีในกรณีที่มีโอกาส และจะถอนตัวออกมาเมื่อเราเผชิญกับการปฏิเสธ

คำถาม 25: ถึงแม้คุณจะปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า พวกเขาอาจเห็นว่าเป็นเรื่องที่เชื่อได้ยากว่าคุณจะปฏิเสธหรือมีทางเลือกให้ปฏิเสธคำขอเข้าใช้ช่องโหว่จากรัฐบาลจีนเพื่อเข้าถึงข้อมูลลูกค้า

Ren: เจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลจีนออกแถลงการณ์ในที่ประชุมความมั่นคงมิวนิกเมื่อไม่นานมานี้ นักการเมืองสหรัฐฯ เหล่านี้ควรเชื่อในสิ่งที่รัฐบาลจีนได้กล่าวไว้ การใช้สมมติฐานเป็นหลักฐานสำหรับความผิดที่กล่าวหานั้นไม่ถูกต้อง หลักฐานควรเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง เป็นเรื่องปกติหากมีบางคนปฏิเสธที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ย เนื่องจากข้อกังวลต่างๆ ไม่ต่างอะไรจากการเลือกซื้อเสื้อผ้าในห้างสรรพสินค้า คุณไม่ได้ชอบเสื้อผ้าทุกตัว และถ้าคุณไม่ชอบตัวไหน คุณก็ไม่ซื้อตัวนั้น

คำถาม 26: เราทราบแน่ชัดแล้วว่าประธานาธิบดีทรัมป์มักจะไม่เชื่อข่าวกรองที่คณะกรรมการข่าวกรองของเขาจัดหาให้ มีอะไรที่คุณอยากบอกประธานาธิบดีทรัมป์ไหมคะ เพื่อโต้แย้งข้อมูลเกี่ยวกับหัวเว่ยที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้รับจากที่ปรึกษาหน่วยข่าวกรองของเขา

Ren: ประการแรก รายงานทางการเงินของหัวเว่ยได้รับการตรวจสอบโดย KPMG บริษัทสัญชาติอเมริกัน และเป็นเช่นนี้มาหลายทศวรรษแล้ว รายงานการตรวจสอบบัญชีเหล่านี้มีให้อ่านทางออนไลน์และเปิดเผยปัญหาทางการเงินและการบริหารจัดการของหัวเว่ย

ประการที่สอง หัวเว่ยเป็นสมาชิกขององค์กรกำหนดมาตรฐานมากกว่า 300 แห่งและเคยยื่นข้อเสนอหลายหมื่นฉบับ การเป็นสมาชิกและการยื่นข้อเสนอเป็นเครื่องยืนยันถึงสิ่งที่เราได้ทำมาและการมีส่วนช่วยเหลือองค์กรเหล่านี้ คุณทรัมป์ไม่จำเป็นต้องถามผมว่า หัวเว่ยเป็นบริษัทแบบไหน เพียงแค่ไปพูดคุยกับบริษัทใหญ่ๆ และนักวิทยาศาสตร์ในสหรัฐอเมริกา เขาก็จะทราบ พวกเขาคุ้นเคยกับหัวเว่ยมากกว่านักการเมืองสหรัฐฯ เพราะพวกเขาได้ทำงานร่วมกับหัวเว่ยมานานหลายทศวรรษ นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการค้นหาตัวอย่างที่ถูกต้องเพื่อตัดสินหัวเว่ยได้อย่างถูกต้อง คุณทรัมป์ยังสามารถเชิญคู่แข่งของหัวเว่ยมาดื่มกาแฟสักถ้วยและเรียนรู้ว่าพวกเขาคิดอย่างไรกับหัวเว่ยได้เช่นกัน หัวเว่ยเป็นเหมือนหนังสือที่เปิดอยู่ และการเปิดกว้างก็ไม่ใช่งานง่าย

คำถาม 27: คู่แข่งในอดีตของคุณโดยเฉพาะอย่างยิ่ง T-Mobileได้กล่าวหาว่าคุณขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและเทคโนโลยี คุณตกลงระงับคดีความกับบริษัทแห่งนั้นเมื่อพวกเขากล่าวหาว่าคุณขโมยแขนหุ่นยนต์ชื่อ Tappy ของพวกเขาไปหนึ่งข้าง คุณบอกว่านี่เป็นฝีมือของตัวแทนไม่กี่คน แต่ FBI พบหลักฐานเป็นอีเมลภายในที่บอกเป็นนัยว่าบริษัทให้รางวัลแก่การขโมยทรัพย์สินทางปัญญา เป็นเช่นนั้นจริงไหมคะ

Ren: เราได้ชี้แจงแล้วว่าเราไม่เคยและจะไม่ให้รางวัลแก่พนักงานสำหรับการประพฤติผิดใดๆ เราจะดำเนินการทางวินัยกับทุกคนที่มีพฤติกรรมประเภทนี้ คดีความกับ T-Mobile และ San Diego เข้าสู่ขั้นตอนทางกฎหมายไปแล้ว เราจึงต้องรอคำตัดสินของศาล

คำถาม 28: ยืนยันอย่างชัดเจนอีกครั้งได้ไหมคะว่า คุณไม่เคยอนุมัติอีเมลภายในที่ให้รางวัลแก่พนักงานที่ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาจากคู่แข่ง

Ren: เราจะลงโทษทางวินัยกับพนักงานที่ทำเช่นนั้นอย่างแน่นอนครับ พนักงานคนใดก็ตามที่มีส่วนร่วมในการประพฤติมิชอบประเภทนี้จะต้องถูกจัดการ หากพฤติกรรมประเภทนี้ไม่ได้ถูกลงโทษ บริษัทของเราจะไม่สามารถอยู่รอดในโลกใบนี้ได้

หัวเว่ยเป็นบริษัทขนาดใหญ่ เรามีพนักงานมากกว่า 180,000 คนและมีรายได้จากการขายมากกว่า 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ หากเราอนุญาตให้มีการประพฤติมิชอบ เราจะมีปัญหามากกว่านี้รอเราอยู่ข้างหน้า ไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสองคดี เราจะไม่สามารถเปิดประตูของเราได้ นี่คือเหตุผลที่เราจะไม่ให้รางวัลแก่พฤติกรรมประเภทนี้ ไม่มีทาง

เราเคารพในทรัพย์สินทางปัญญาเป็นอย่างมาก เรากำลังผลักดันให้รัฐบาลจีนเสริมสร้างการคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา และผมคิดว่าจีนจำเป็นต้องปกป้องสิทธิ์เหล่านี้ต่อไป ประเทศจีนจะสามารถเป็นประเทศที่สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ได้ก็ต่อเมื่อจีนปกป้องสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาในลักษณะเดียวกันกับที่ปกป้องสิทธิในทรัพย์สินอื่นๆ

สหรัฐอเมริกาได้กลายเป็นประเทศที่มีอำนาจมากที่สุดในโลกในเวลาเพียง 200 ปี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มงวด เราจำเป็นต้องนับถือสหรัฐอเมริกาให้แง่นั้นและเรียนรู้จากพวกเขา

คำถาม 29: จีนก็กำลังเรียนรู้และไล่ตามอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ [จีน] ก็กลายเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองแล้ว น่าทึ่งมากเลยค่ะ กับขนาดของหัวเว่ยและการดำเนินกิจการอยู่ใน 170 ประเทศ และการเป็นบริษัทเอกชน ในปัจจุบันคุณยังได้รับหรือเคยได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลจีนหรือไม่คะ

Ren: หัวเว่ยไม่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลจีน ยกเว้นบางส่วนที่สนับสนุนการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ มีการระบุไว้อย่างชัดเจนในรายงานประจำปีของเราที่ผ่านการตรวจสอบโดย KPMG ครับ แต่ส่วนใหญ่แล้วเราไม่ยอมรับเงินอุดหนุนใดๆ จากโครงการอุดหนุนของรัฐบาล เรายอมรับบางส่วนสำหรับการวิจัยขั้นพื้นฐาน โครงการวิจัยมาตรฐานระดับชาติ หรือสิ่งอื่นๆ ที่ประเทศกำลังดำเนินการอยู่ แต่มีจำนวนน้อยมาก ดูได้ในรายงานการเงินของเราเหมือนเดิมครับ เรายังได้รับเงินอุดหนุนส่วนหนึ่งจากรัฐบาลยุโรปสำหรับการวิจัยขั้นพื้นฐาน

คำถาม 30: ข้อกล่าวหาคือคู่แข่งของคุณไม่ได้รับโอกาสเท่าเทียมกับคุณ และในความเป็นจริง หัวเว่ยได้รับการรับประกันว่าจะได้รับอย่างน้อยหนึ่งในสามของสัญญาเครือข่าย 5จี ของจีน ในขณะที่คู่แข่งต่างชาติไม่มีการรับประกันเช่นนั้น คุณคิดว่ายุติธรรมไหมคะ

Ren: ไม่มีใครได้รับการรับประกันส่วนแบ่งตลาดแบบนี้ ทุกบริษัทต้องแข่งขันกัน

คำถาม 31: ทำไมล่ะคะ ดิฉันสงสัย ดิฉันขอขยายประเด็นนี้นะคะ เหตุใดจึงไม่ควรเปรียบเทียบ หัวเว่ยกับ แซดทีอีคะ

Ren: เนื่องจากหัวเว่ยและ แซดทีอีเป็นบริษัทที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ผมไม่รู้เรื่องแซดทีอีมากเท่าไหร่ ทำไมทุกคนถึงจับหัวเว่ย และแซดทีอี มารวมกันอยู่ตลอด ผมไม่รู้จริงๆ ว่าพวกเขาเป็นบริษัทแบบไหน เราทำธุรกิจร่วมกับอีริคสัน และโนเกียมากกว่าด้วยซ้ำ ส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทหนึ่งนั้นขึ้นอยู่กับการแข่งขัน และส่วนแบ่งการตลาดของเราภายนอกประเทศจีนก็มีขนาดใหญ่กว่าภายในประเทศ เราให้ความสำคัญกับธุรกิจของเราในต่างประเทศเป็นหลัก

คำถาม 32: คุณคิดว่าตอนนี้คู่แข่งในจีนมีโอกาสในการแข่งขันที่เท่าเทียมกันไหมคะ

Ren: ผมคิดว่าเราแข่งขันกันโดยดูว่าใครสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ประวัติศาสตร์จะพิสูจน์สิ่งนั้น ในปี 1980 ตอนที่จีนเริ่มดำเนินการปฏิรูปและนโยบายเปิดประเทศ ผลิตภัณฑ์เกือบทั้งหมดในตลาดจีนมาจากบริษัทต่างประเทศ การตัดสินใจว่าผู้คนจะได้รับผลิตภัณฑ์มาจากที่ใดไม่ได้ขึ้นอยู่กับรัฐบาลอีกต่อไป การจัดซื้อทั้งหมดในวันนี้เป็นไปตามกฎเศรษฐกิจแบบตลาด การเสนอราคาได้รับการประเมินอย่างเปิดเผยและยุติธรรม ผมไม่คิดว่ามีการเลือกปฏิบัติสำหรับผู้ขายภายในประเทศจีน

คำถาม 33: คุณคิดว่านั่นคือนโยบายที่ประธานาธิบดีสี สนับสนุนใช่ไหมคะ

Ren: ผมคิดว่าจีนกำลังสนับสนุนให้นโยบายมีความเปิดกว้างมากขึ้น คุณอาจเคยได้ยินคำกล่าวของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่งานมหกรรมแสดงสินค้านำเข้านานาชาติประเทศจีน เขากล่าวว่าจีนจะอนุญาตทุนต่างประเทศในภาคการเงิน ค่อยๆ ลดพิกัดอัตราศุลกากรสำหรับภาคยานยนต์ตลอดห้าปีข้างหน้า อนุญาตบริษัทรถยนต์ที่ต่างชาติเป็นเจ้าของทั้งหมด และเปิดภาคการผลิตทั้งหมด เราจะมีนโยบายแบบเดียวกันสำหรับทั้งบริษัทจีนและบริษัทต่างประเทศ งานมหกรรมแสดงสินค้าเป็นตัวอย่างที่ดีของนโยบายเปิดประเทศของจีน

เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ในระหว่างการเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีของการปฏิรูปและการเปิดประเทศ จีนแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในบริษัทเอกชนที่มากขึ้น เพื่อให้บริษัทเอกชนได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมมากขึ้น ในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมา บริษัทต่างชาติได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็น "วีไอพี" รัฐวิสาหกิจได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็น "บุตรชาย" และบริษัทเอกชนเป็น "หลานชาย" เราอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่าต่างชาติด้วยซ้ำ ผมหวังว่าเราจะอยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับบริษัทต่างชาติ อย่างไรก็ตาม การให้ความสำคัญกับบริษัทต่างชาติได้ช่วยให้ประเทศจีนหลุดออกจากความยากจนและเริ่มพัฒนา นอกจากนี้ การไหลเข้ามาของบริษัทต่างชาติยังช่วยกระตุ้นความก้าวหน้าและการพัฒนาทางอุตสาหกรรมของจีนอีกด้วย บริษัทสัญชาติจีนตระหนักว่าคู่แข่งชาวต่างชาติมีความแข็งแกร่งเพียงใดและได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมายจากพวกเขา

การเปิดกว้างคือกุญแจสู่อนาคตของจีน และมีเพียงการปฏิรูปเท่านั้นที่จะทำให้บริษัทจีนเจริญรุ่งเรือง ผมเชื่ออย่างนั้นจริงๆ ผมไม่เคยสนับสนุนแนวคิดกีดกันบริษัทต่างชาติ แม้ว่าบริษัทต่างชาติบางแห่งกำลังพยายามทำให้หัวเว่ยลำบากก็ตาม แต่หัวเว่ยก็ไม่เคยเห็นบริษัทเหล่านี้เป็นศัตรู เราเรียกพวกเขาว่าเพื่อน ซึ่งก็คือเพื่อนธุรกิจของเราในภาษาจีนนั่นเอง เราไม่ปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างเลวร้าย เราจึงได้รับความเคารพจากลูกค้าของเรา บางทีด้วยเหตุนี้ส่วนแบ่งการตลาดของเราก็เลยสูงกว่าคนอื่นเล็กน้อย แต่ถ้าเรามีส่วนแบ่งมากเกินไป ผมก็จะรู้สึกแย่ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องฮุบส่วนแบ่งมากมาย เราจำเป็นต้องเว้นตลาดบางส่วนไว้ให้กับผู้อื่น

คำถาม 34: นี่คือมุมมองที่คุณมีเหมือนกับประธานาธิบดีสี หรือเปล่าคะ

Ren: ผมไม่เคยมีโอกาสพูดคุยประเด็นเหล่านี้กับประธานาธิบดีสี สิ่งเหล่านี้เป็นความคิดของเราจากประสบการณ์ในการทำธุรกิจในประเทศจีนอย่างถูกกฎหมาย ผมไม่ได้มีโอกาสแบ่งปันมุมมองของเรา และแม้ว่าผมจะมีโอกาส พวกเขาก็อาจไม่ฟังผม

คำถาม 35: เนื่องจากฝั่งตะวันตกมีมุมมองว่าประธานาธิบดีสี ใช้แนวทางแบบชาตินิยมในการควบคุมรัฐวิสาหกิจ มากกว่าที่จะปล่อยให้บริษัทเป็นอิสระมากขึ้น คุณคิดว่านั่นเป็นการทำให้แบรนด์ ชื่อเสียงของคุณ และมุมมองของคุณเสียหายไหมคะ

Ren: เราต้องดูว่าประธานาธิบดีสี เคยพูดอะไรไปบ้างเพื่อทำความเข้าใจความคิดของท่านให้ดีขึ้น ท่านประกาศนโยบายมากมายสำหรับการเปิดประเทศที่งานประชุมเอเชียโป๋อ่าว จากนั้นในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ที่งานมหกรรมแสดงสินค้านำเข้านานาชาติประเทศจีน ท่านได้ประกาศมาตรการหลายอย่างที่จีนจะใช้เพื่อเปิดตลาดสู่ตะวันตก เมื่อเดือนธันวาคมในระหว่างการเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปีของการปฏิรูปและการเปิดประเทศ ท่านก็ประกาศว่าจีนจะยกระดับการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ ไม่มีอะไรมากไปกว่าการปฏิรูปและการเปิดกว้างครับ ในความเห็นของผม จีนจะเปิดกว้างมากขึ้น ไม่ใช่ปิดประตูจากโลก ในสายตาของชาวต่างชาติ คุณอาจไม่รู้สึกเช่นนั้น แต่เราเกิดที่นี่และเติบโตในจีน เราจึงรู้ว่าสภาพแวดล้อมได้ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา

ตอนที่จีนเพิ่งเริ่มเปิดประเทศใหม่ๆ เป็นเรื่องยากมากที่เราจะขอเงินกู้ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 80,000 หยวน) เราทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ แต่เราก็ยังคงไม่สามารถหาเงินกู้ได้มากเท่าที่เราต้องการ ในภายหลังเราสามารถหาเงินกู้เช่นนี้ได้ และสิ่งต่างๆ ก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป ดังนั้นผมจึงไม่คิดว่าจีนจะเดินในเส้นทางที่เน้นรัฐวิสาหกิจเป็นหลัก จุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของรัฐวิสาหกิจคือความไร้ประสิทธิภาพ ซึ่งนำไปสู่ต้นทุนการดำเนินงานที่สูง จีนยังไม่ได้สร้างระบบภาษีทรัพยากรที่สมบูรณ์ ดังนั้นรัฐวิสาหกิจจึงอาจมีข้อได้เปรียบในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับทรัพยากร แต่ในอุตสาหกรรมที่มีการค้าเสรีและเปิดกว้าง รัฐวิสาหกิจจะต้องเผชิญกับแรงกดดันที่มากขึ้น

คำถาม 36: ชาวอเมริกันจำนวนมากเพิ่งได้ยินชื่อบริษัทของคุณและชื่อของคุณเมื่อเร็วๆ นี้ คุณอยากให้ประชาชนชาวอเมริกันรู้อะไรเกี่ยวกับหัวเว่ย และสิ่งที่ หัวเว่ยนำเสนอพร้อมกับ 5Gจีบ้างคะ

Ren: ก่อนอื่นผมอยากแสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลสหรัฐอเมริกา หากไม่มีแคมเปญที่โด่งดังขนาดนี้ ประชาชนส่วนใหญ่คงจะยังไม่รู้จักหัวเว่ยต่อไป ยอดขายของเราในสหรัฐอเมริกาไม่ได้มากมายนัก และตัวตนของเราในตลาดก็เล็กมากๆ ดังนั้นผู้บริโภคจึงไม่ค่อยรู้จักหัวเว่ยเท่าไหร่

ข้อความที่เราต้องการสื่อถึงคนอเมริกันคือเราสามารถทำงานร่วมกันและแบ่งปันความสำเร็จได้ สังคมสารสนเทศนั้นแตกต่างจากสังคมอุตสาหกรรม ในสังคมอุตสาหกรรม ประเทศหนึ่งอาจปิดประตูและสร้างจักรเย็บผ้าขึ้นมาเองเป็นต้น พวกเขาสามารถทำได้เองโดยไม่ต้องรับความช่วยเหลือจากประเทศอื่น เช่นเดียวกับรถแทรกเตอร์ รถยนต์ รถไฟ และแม้กระทั่งเรือ

แต่ตอนนี้เราอยู่ในสังคมสารสนเทศ ทุกคนต้องทำงานร่วมกันและสร้างเครือข่ายไปทั่วโลกทีละนิดทีละหน่อย ไม่มีประเทศใดที่สามารถทำได้เองเพียงลำพัง ทุกประเทศทั่วโลกจำเป็นต้องร่วมมือกันสร้างสังคมเพื่ออนาคต

เราสามารถทำสิ่งใดได้บ้างที่เป็นประโยชน์แก่ชาวอเมริกัน เครือข่ายของเรานั้นดีเยี่ยม ดังนั้นอุปกรณ์บางอย่างของเราจึงอาจเหมาะสมกับสหรัฐฯ ขึ้นอยู่กับสหรัฐอเมริกาที่จะตัดสินใจว่าจะใช้เครือข่ายของเราหรือไม่ หากพวกเขาเลือกที่จะไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา เราก็สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ของเราให้กับตลาดอื่นๆ ได้ แล้วค่อยกลับมาที่สหรัฐอเมริกาในภายหลัง ไม่ช้าก็เร็วเราจะสามารถทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสหรัฐอเมริกาได้

คำถาม 37: ดิฉันมีคำถามอีกสองข้อค่ะ ขอขอบคุณอย่างยิ่งที่สละเวลา คำถามนี้เกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของคุณ ดิฉันอ่านประวัติของคุณ ดิฉันรู้ว่าคุณมาจากหนึ่งในจังหวัดที่ยากจนที่สุดในประเทศจีน พ่อแม่ของคุณเป็นครูและคุณปู่ของคุณหมักหมู คนที่มีต้นทุนในชีวิตน้อยมากๆ อย่างคุณกลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศได้อย่างไรคะ

Ren: ผมเติบโตมาในเขตภูเขาอันห่างไกลของมณฑลกุ้ยโจว ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ยากจนของจีน พ่อแม่ของผมทั้งคู่เป็นครูโรงเรียนและอุทิศชีวิตของท่านให้กับการศึกษาของชนบท เพราะท่านเชื่อว่าการสอนเด็กๆ ในพื้นที่ชนบทเป็นหนทางเดียวที่ประเทศของเราจะรุ่งเรืองขึ้น

ผมมีพี่น้องหลายคนและฐานะทางการเงินของพ่อแม่ของผมก็ไม่ดีนัก ท่านไม่ค่อยได้ใช้เวลากับเรามากนัก พวกเราจึงเป็นเด็กซน พวกเขาให้อิสระแก่เรามากกว่าลูกคนอื่น และปล่อยให้พวกเราทำโน่นทำนี่อย่างอิสระ ทำให้เราพัฒนาบุคลิกที่แข็งแกร่ง ปัจจุบันนี้ เด็กส่วนใหญ่ในจีนเป็นลูกคนเดียว พ่อแม่ของเด็กเหล่านั้นมีความคาดหวังสูง และโดยทั่วไปแล้วในปัจจุบันนี้ผู้คนมีกินมีใช้พอสมควร ดังนั้นพวกเขาจึงมีแนวโน้มที่จะปกป้องลูกของตนมากเกินไป ตอนที่รุ่นของผมยังเป็นเด็ก ไม่มีใครควบคุมเรา เราเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ปราศจากความคาดหวัง จึงทำให้เราสามารถพัฒนาตัวตนที่มีเอกลักษณ์ได้อย่างเต็มที่ เราอาจไม่ได้รับการศึกษามากนัก แต่เราก็อยู่ภายใต้แรงกดดันที่น้อยกว่า

เมื่อเราเติบโตขึ้น เรารู้ว่าเราต้องขยันทำงานเพื่อให้มีที่ยืนในสังคม ซึ่งเราก็ทำเช่นนั้น

ผมอ่านหนังสือทุกคืนจนถึงตี 1 ทุกวันเป็นเวลาเกือบ 50 ปี หลายคนคิดว่าผมหยุดเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไปแล้ว แต่นั่นไม่ใช่ความจริง ผมจะไม่สามารถบริหารหัวเว่ยได้ถ้าผมหยุดเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ หลายทศวรรษก่อน ผมถูกทิ้งไว้ข้างหลังเพราะยุคสมัยเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เมื่อผมออกจากกองทัพ ผู้คนใช้คอมพิวเตอร์กันอย่างกว้างขวางในสังคม แต่ผมไม่รู้ว่าคอมพิวเตอร์คืออะไร ประมาณ 30 หรือ 40 ปีก่อน เพื่อนของผมหลายคนบินไปศึกษาที่สหรัฐอเมริกาหรือแคนาดา ตอนที่พวกเขากลับมาและแบ่งปันเรื่องราวของพวกเขากับเรา และเล่าสิ่งต่างๆ เช่นซุเปอร์มาร์เก็ตให้เราฟัง ผมไม่เข้าใจเลยว่าพวกเขากำลังพูดถึงอะไร พวกเขาเล่าว่าที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต ถ้าอยากได้อะไรก็หยิบจากชั้นวางได้เลย หมายความว่าอย่างไร ผมไม่เข้าใจแนวคิดนี้จริงๆ

ผมมีอีกตัวอย่างหนึ่ง เราไม่เข้าใจว่าห้องน้ำที่สร้างติดกับห้องนอนนั้นเป็นอย่างไร เป็นไปได้หรือ ไม่เหม็นแย่หรือ ผมจินตนาการห้องน้ำแบบนี้ไม่ออก นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นตอนที่ผมยังหนุ่ม ย้อนกลับไปตอนนั้น ประเทศจีนค่อนข้างปิดประตูไม่ต้อนรับโลกภายนอก และเราก็ไม่รู้ว่าสหรัฐฯ ก้าวหน้าไปไกลมากๆ แล้ว

ผมได้เริ่มรู้จักสหรัฐอเมริกามากขึ้นเมื่อไรน่ะเหรอ ก็ตอนช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม ตอนที่จีนส่งคณะผู้แทนทหารไปเยี่ยมเยือนเวสต์พอยต์ หลังจากนั้นระบบการทำงานของเวสต์พอยต์ก็ได้รับการพูดถึงในประเทศจีน นี่เป็นครั้งแรกที่ขอบเขตความรู้ของผมกว้างขึ้น ผมประทับใจอย่างมากกับรูปแบบการบริหารจัดการ ตอนแรกเราคิดว่าทหารสหรัฐฯ ถูกตามใจและไม่เข้มแข็ง พวกเขามีกาแฟให้ดื่มในช่วงสงครามที่เกาหลี ในขณะที่เราไม่มีแม้กระทั่งน้ำดื่ม ผมตระหนักว่าความเข้าใจที่ผมมีต่อสหรัฐอเมริกานั้นผิด

เราใช้เวลานานกว่าจะเปลี่ยนจากยุคปิดเป็นยุคเปิดได้ ก่อนการไปสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรกของผม ผมคิดว่าทุกอย่างที่นั่นคงมีราคาแพงมาก และเราอาจไม่มีเงินพอซื้ออะไรมากมาย เนื่องจากเราไม่มีบัตรเครดิต เราจึงพกเงินสดจำนวนมากติดตัวไป หลังจากไปถึงสหรัฐฯ เราพบว่าไม่มีทางที่เราจะใช้เงินที่เราพกมาด้วยจนหมด เพราะที่จริงแล้วข้าวของที่นี่ไม่ได้มีราคาแพง ไม่น่าเชื่อเลย เราไม่เข้าใจว่าเศรษฐกิจแบบตลาดช่วยลดราคาสินค้าได้อย่างไร และเราได้เห็นสิ่งใหม่ๆ มากมายที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน

ความเจริญรุ่งเรืองในสหรัฐอเมริกาไม่ได้แย่งชิงมาจากคนอื่น แต่ถูกสร้างขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความพยายามอย่างหนักของคนเก่งจำนวนมาก ผู้ที่มีพรสวรรค์มากมายทั่วโลกมาที่สหรัฐฯ เพื่อสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์และสร้างความมั่งคั่ง

หัวเว่ยควรเรียนรู้อะไรบ้างจากสหรัฐฯ เราต้องมีใจที่เปิดกว้างและดึงดูดผู้คนที่เก่งที่สุดมาช่วยกันสร้างการเติบโตให้กับบริษัท บริษัทเราไม่ได้เน้นสร้างความมั่งคั่งให้กับผมหรือครอบครัวของผมเพียงอย่างเดียว ไม่มีใครร่ำรวยขึ้นได้ หากบริษัทไม่ทำกำไร แนวคิดนี้ทำให้เราสามารถรวบรวมคนขยันจำนวนมากมาไว้ในที่เดียวกัน และค่อยๆ กลายมาเป็นหัวเว่ยอย่างทุกวันนี้

ที่จริงแล้วชีวิตของผมเรียบง่ายมาก ภรรยาของผมมักต่อว่าผมและบอกว่าผมไม่มีเพื่อนหรืองานอดิเรกมากนัก ผมตอบว่าผมก็มีงานอดิเรก การอ่านและเขียนเอกสารไง ผมสนุกกับการทำงานเอกสารเป็นพิเศษ ผมมาทำงานทุกเช้าหลังจากทานอาหารเช้าตอน 7:30 น. ผมพบว่าผมทำงานอย่างมีประสิทธิภาพที่สุดระหว่าง 8 น. ถึง 9 น. และผมก็เลือกที่จะตรวจสอบและลงนามในเอกสารในช่วงเวลานี้เสมอ นอกจากนี้ผมยังรู้สึกกระฉับกระเฉงระหว่าง 9 น. ถึงเที่ยง และมักจะเข้าร่วมการประชุมหรือฟังรายงานการทำงาน ในช่วงบ่ายผมไม่ค่อยกระตือรือร้นเท่าไหร่ ดังนั้นผมจึงหยิบกาแฟสักถ้วย แล้วคุยกับเพื่อนร่วมงานเพื่อฟังความคิดของพวกเขา รวมถึงความคิดเห็นเชิงวิพากษ์ด้วย

ผมได้อ่านคำวิจารณ์มากมายเกี่ยวกับหัวเว่ย และตัวผมในชุมชน Xinsheng ถ้าผมคิดว่าความคิดเห็นเชิงวิพากษ์ใดมีเหตุผล ผมก็อยากจะนั่งคุยกับผู้เขียนและฟังสิ่งที่ผู้เขียนอยากบอก หากมีคนที่วิจารณ์ได้ดีจริงๆ ผมอาจขอให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลทำการค้นคว้าและหาว่าบุคคลนั้นทำงานของตนเองได้ดีเท่าที่เขาวิจารณ์หรือไม่

หากพวกเขาทำงานของตนได้ดีในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา และพวกเขาก็วิจารณ์ได้ดี ก็แสดงว่าพวกเขาเป็นพนักงานที่โดดเด่น เราก็ควรเลื่อนตำแหน่งให้พวกเขาแบบก้าวกระโดด

เมื่อผมแนะนำให้เลื่อนตำแหน่งใครสักคนแบบก้าวกระโดด ผู้บริหารคนอื่นของเราอาจไม่เห็นด้วย แต่แค่พูดถึงก็ส่งผลกระทบแล้ว พวกเขาอาจเริ่มให้ความสนใจกับบุคคลนั้นมากขึ้น และในที่สุดพนักงานบางส่วนก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่งแบบก้าวกระโดด

เรามีพนักงานที่เก่งมากๆ ในประเทศขนาดเล็กในแอฟริกา เมื่อภรรยาของผมกับผมไปหาเขา เขาบอกผมว่า "บอสครับ ปีนี้ผมได้เลื่อนขั้นถึงสามขั้น" แต่ในภายหลัง ประธานประจำสำนักงานภูมิภาคของเขาก็บอกผมว่าที่จริงแล้วชายคนนี้ได้รับการเลื่อนตำแหน่งสี่ขั้น

ทำไมถึงพูดไม่ตรงกัน ผู้จัดการทั่วไปของสำนักงานประจำประเทศของเขากล่าวว่าพวกเขาได้ตัดสินใจที่จะเลื่อนขั้นเขาอีกครั้งในเดือนธันวาคม แต่ยังไม่ได้บอกเจ้าตัว

ชายคนนี้อายุเพียง 26 ปี แต่เขาก็ดูแลจัดการสำนักงานประจำประเทศของหัวเว่ยแล้ว เมื่อพูดถึงการใช้งานคนเก่งอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด เราจะไม่จำกัดตัวเราเองอยู่ภายในระบบสุดเข้มงวด เราเหมือนกับสหรัฐฯ ในแง่นี้

สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ ผู้ยิ่งใหญ่จำนวนมากอย่างเช่น Brzezinski, Kissinger, Madeleine Albright และ George Soros ล้วนมาจากยุโรปตะวันออก แต่พวกเขาก็ได้เข้ารับตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลสหรัฐฯ พวกเขาได้ช่วยเหลือสนับสนุนสหรัฐอเมริกามากมาย นี่คือผลลัพธ์ของความเปิดกว้างของสหรัฐฯ เราต้องเรียนรู้จากสหรัฐฯ และเปิดกว้างมากกว่านี้ เพราะจะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น และนั่นคือทิศทางที่เรากำลังมุ่งหน้าไป

ส่วนผม จุดสนใจของผมแคบมาก เป็นบุคลิกของผม ดังนั้นบริษัทของเราจึงมีจุดสนใจที่แคบเช่นกัน เราไม่สนใจสิ่งต่างๆ อย่างอสังหาริมทรัพย์ และเราจะไม่เอื้อมมือไปไกลเกินกว่าจุดสนใจของเรา เพียงเพื่อไล่ตามเงินที่ได้มาง่ายๆ จากภาคอื่น เราทำสิ่งที่ยากที่สุดและมีกำไรน้อยที่สุด เพราะคนอื่นไม่เต็มใจที่จะทำ สิ่งที่ยากที่สุดและมีกำไรน้อยที่สุดคือโทรคมนาคม 5จี นั่นเอง ขณะนี้เรากำลังเปิดตัว 5จี และอีกไม่นานเราก็จะเห็น 6จี เช่นกัน

ในไม่ช้าเราจะมีอุปกรณ์ใหม่ที่เหมาะอย่างยิ่งกับสหรัฐอเมริกา ตัวอย่างเช่นเราเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมทั้ง 5จี และไมโครเวฟ เรากำลังสร้างอุปกรณ์คลื่นมิลลิเมตร และเสาอากาศของเราก็มีขนาดเล็กเท่าจานอาหารค่ำ เราได้รวม 5จี และคลื่นไมโครเวฟเข้าด้วยกันเพื่อกระจายบริการบรอดแบนด์ความเร็วสูงพิเศษไปทั่วทั้งบริเวณใกล้เคียง คลื่นไมโครเวฟรองรับได้ 100 Gbps และสถานีฐาน 5จี รองรับได้ 10 Gbps เมื่อใช้ร่วมกัน การให้บริการบรอดแบนด์ความเร็วสูงพิเศษแก่ย่านวิลล่าหรูในสหรัฐอเมริกาก็จะเป็นไปได้

เหตุใดย่านวิลล่าเหล่านี้จึงไม่สามารถใช้บริการบรอดแบนด์ได้ในปัจจุบัน เนื่องจากที่ดินในสหรัฐอเมริกานั้นเป็นของเอกชน การเจรจาเกี่ยวกับการวางสายไฟเบอร์ผ่านที่ดินของทุกๆ ครัวเรือนจึงเป็นเรื่องซับซ้อน หากไม่มีไฟเบอร์ คนร่ำรวยจำนวนมากในสหรัฐอเมริกาก็ไม่สามารถชมทีวี 8เค ได้ ตอนนี้เรามีทีวี 4เค ในประเทศจีน แต่สหรัฐอเมริกายังไม่มี ชาวญี่ปุ่นสามารถเข้าชม 8เค ได้แล้ว อุปกรณ์ของเราต้องการเสาเหล็กแค่ต้นเดียว แล้วเราก็จะครอบคลุมบ้านทุกหลังภายในรัศมีสองสามกิโลเมตรได้ ไม่มีประเทศหรือบริษัทอื่นใดสามารถทำเช่นนี้ได้ แต่เราทำได้ และเราก็ยินดีที่จะขายให้กับสหรัฐฯ ในอนาคตหากพวกเขาต้อนรับเรา

ไม่ช้าก็เร็วสหรัฐฯ จะรู้จักเราและพบว่าที่จริงแล้วพวกเขาชอบเรา มีคำกล่าวที่ว่า "ไม่มีความขัดแย้ง ก็ไม่มีมิตรภาพ" เราอาจจะทะเลาะกันเล็กน้อย แต่ยิ่งเราทะเลาะกันมากเท่าไหร่ พวกเขาก็จะเริ่มตระหนักว่าที่จริงแล้วเราก็ไม่ได้เลวร้ายแบบนั้น ผมคิดว่าเราสามารถเป็นเพื่อนที่ดีได้ จากนั้นเราก็จะจับมือกันและไว้วางใจกันได้ คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับภัยคุกคามจากหัวเว่ย เราจะสร้างภัยคุกคามต่อโลกได้อย่างไร โลกที่มีสันติภาพเป็นประโยชน์ต่อทุกคน ทำไมเราถึงต้องไปทำเรื่องแย่ๆ ด้วย

ไม่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ขั้นพื้นฐานระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา สหรัฐฯ เริ่มให้เงินทุนแก่มหาวิทยาลัยชิงหวาเพื่อช่วยพัฒนาคนเก่งในจีนผ่านโครงการ Boxer Indemnity ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ชาวอเมริกันหลายคนยอมสละชีวิตเพื่อหยุดยั้งการขยายตัวของลัทธิฟาสซิสต์ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อมนุษยชาติ

นับตั้งแต่ที่เติ้ง เสี่ยวผิงเปิดตัวนโยบายการปฏิรูปและการเปิดประเทศ ประเทศจีนและสหรัฐอเมริกาก็เริ่มมาพูดคุยกันอีกครั้ง จีนเติบโตจากประเทศล้าหลังจนกลายมาเป็นอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ไม่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ขั้นพื้นฐานระหว่างหัวเว่ยกับสหรัฐอเมริกา

แม้ว่าสหรัฐฯ จะมาหาเราและพูดว่า "เรากำลังเปิดตลาดของเราให้กับหัวเว่ย" เราก็อาจรับไม่ไหว สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่กว้างใหญ่ พัฒนาไปมาก และมีอุปสงค์สูง เราอาจตอบสนองไม่ไหว

เห็นไหมว่าเรามีปัญหาเกี่ยวกับอุปทาน ผมคิดว่าระบบการวางแผนของเราล้าสมัย ผู้คนจำนวนมากต่อว่ากลุ่มผู้บริโภคของเรา พวกเขาบอกว่าโทรศัพท์ของเราหมดสต็อก พวกเขาจึงมาหาผมเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ผมเองก็หาซื้อไม่ได้เช่นกัน! คุณต้องซื้อผ่านระบบออนไลน์ และเว็บไซต์ของเราก็ไม่รู้ว่าผมเป็นใคร ผมคงลัดคิวไม่ได้หรอก

เรายังคงพัฒนาไปเรื่อยๆ ทีละก้าวสองก้าว วันหนึ่ง ผมเชื่อว่าเราจะสามารถทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสหรัฐอเมริกาได้

คำถาม 38: คำถามสุดท้ายแล้วค่ะ คุณมีคำตอบอย่างไรให้กับใครก็ตามที่กล่าวว่าสหรัฐอเมริกาและจีนจะปะทะกันในสงครามไซเบอร์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

Ren: ผมหวังว่าจะไม่ได้เห็นการปะทะกันระหว่างประเทศต่างๆ การอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขควรเป็นเป้าหมายสูงสุดของเรา และผมก็ไม่สนับสนุนการแข่งขันทางอาวุธ การใช้จ่ายงบทางทหารให้น้อยลงจะทำให้ประเทศต่างๆ มีงบมากขึ้นสำหรับการสร้างสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับประชาชน

การต่อสู้ในโลกไซเบอร์ไม่ควรเกิดขึ้นหัวเว่ยได้อนุญาตให้ทั้ง Apple และ Qualcomm ใช้ทรัพย์สินทางปัญญาของหัวเว่ยเราได้ลงนามในข้อตกลงการไม่เปิดเผยข้อมูลไปแล้ว ดังนั้นผมจึงไม่สามารถเปิดเผยความลับทางธุรกิจได้ เราได้ลงนามในข้อตกลงใบอนุญาต IPR กับบริษัทสัญชาติอเมริกันหลายบริษัท เราอยู่ร่วมกับพวกเขาอย่างสงบสุข และไม่มีความขัดแย้งระหว่าง หัวเว่ย และบริษัทเหล่านี้

ในระดับสังคม ไม่ควรมีการปะทะกันเช่นกัน หากผมสันนิษฐานว่าคุณเป็นศัตรูในจินตนาการของผม และคุณก็เห็นว่าผมเป็นศัตรูเช่นกัน เราก็จะกลายเป็นศัตรูที่แท้จริงของกันและกันไปโดยปริยาย แต่ถ้าผมสันนิษฐานว่าคุณเป็นสหาย ผมก็อาจเป็นมิตรกับคุณมากขึ้น คุณอาจเชิญผมมาดื่มกาแฟสักถ้วย และผมก็อาจพาคุณไปทานสเต็ก ปฏิสัมพันธ์เช่นนี้สามารถกระชับสัมพันธภาพของเราได้

จีนและสหรัฐอเมริกาควรปกป้องความสงบสุขของโลก นี่เป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่สำหรับทั้งสองประเทศ จีนยังคงตามหลังสหรัฐอเมริกาอยู่มาก และผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่ผลิตในประเทศจีนก็มีมูลค่าต่ำและเติมเต็มช่องว่างบางส่วน [ที่ผู้เล่นในสหรัฐอเมริกาทิ้งไว้] ผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่ผลิตในสหรัฐอเมริกานั้นมีความซับซ้อนทางเทคโนโลยีและมีมูลค่าสูงมาก ซึ่งหมายความว่าทั้งสองประเทศสามารถแลกเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ของตนได้ นักการเมืองบางคนในสหรัฐอเมริกาบอกว่าสหรัฐอเมริกาไม่ควรจำหน่ายชิปให้กับประเทศจีน ผมเห็นว่าน่าตลก ทำไมคุณถึงไม่ขายสินค้าของคุณ ถ้ามันจะทำให้คุณมีรายได้ เมื่อคุณไม่ขายผลิตภัณฑ์ของคุณให้กับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง คุณกำลังบังคับให้บริษัทนั้นสร้างผลิตภัณฑ์ที่คล้ายคลึงกันขึ้นมาสักวัน และคุณก็จะไม่สามารถขายผลิตภัณฑ์ของคุณได้อีกต่อไป

โลกของเราควรเป็นโลกแห่งความร่วมมือกัน อินเทอร์เน็ตไม่ควรเป็นสมรภูมิรบ มีเหตุผลอะไรถึงควรจะมีสงครามไซเบอร์ล่ะ ผมไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น และถ้าเกิดขึ้นจริง ผมก็จะไม่เข้าไปมีส่วนร่วม

ผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ยเปรียบเสมือนท่อน้ำที่มีน้ำหรือพูดง่ายๆ ก็คือข้อมูล ไหลผ่าน สถานีฐาน 5จี ของเราเปรียบเสมือนก๊อกน้ำที่ควบคุมการไหลของน้ำ เราไม่ได้ควบคุมอุปกรณ์เครือข่าย ผู้ให้บริการโทรคมนาคมเท่านั้นที่ควบคุมได้ พวกเขาจัดการอุปกรณ์ของตนผ่านผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ย และท้ายที่สุดแล้ว อำนาจควบคุมยังคงอยู่ภายในประเทศที่ติดตั้งอุปกรณ์

เราไม่สนับสนุนสงคราม [ไซเบอร์] ที่อาจเกิดขึ้น ทุกประเทศต้องการครอบครองสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญามากขึ้นและทำสิ่งต่างๆ มากขึ้น แต่พวกเขาก็กังวลว่าจะจ่ายมากเกินไปสำหรับ IPR ของผู้อื่น Apple และ Qualcomm ฟ้องร้องกันและกันเพราะ Apple ต้องการจ่ายน้อยลงในขณะที่ Qualcomm ต้องการมีรายได้เพิ่มขึ้น นี่คือความขัดแย้งทางผลประโยชน์ทางการค้า ไม่ใช่ความขัดแย้งทางการเมือง และผมเชื่อว่าจะได้รับการแก้ไขในลักษณะที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม

อุดมการณ์ของเราก็คือการทำงานเพื่อประโยชน์สุขของคนทั้งโลก มิฉะนั้นเราก็คงไม่ปีนเขาเอเวอร์เรสที่สูงกว่า 6,500 เมตรเพื่อไปติดตั้งสถานีฐาน เราต้องลากอุปกรณ์ทุกชิ้นขึ้นไปที่ระดับความสูง 6,500 เมตรขึ้นไปในอากาศ เป็นงานที่ยากลำบากสุดๆ ครับ ผมเคยไปสถานีฐานบางแห่งที่เบสแคมป์ของยอดเขาเอเวอร์เรสต์ เหนือระดับน้ำทะเล 5,200 เมตร ทุกคนบอกว่าผมไปไม่ได้หรอก ผมบอกว่าถ้าผมไม่กล้าเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยง ผมจะมีหน้าไปขอให้วิศวกรของเราทำเช่นนั้นได้อย่างไร แม้ในประเทศที่บอบช้ำจากสงคราม คุณก็สามารถพบกับพนักงานของหัวเว่ยได้ เนื่องจากถ้าไม่มีเครือข่ายที่ใช้งานได้ จำนวนผู้เสียชีวิตก็จะมากขึ้นกว่านี้

พนักงานของหัวเว่ยยังคงประจำการอยู่ในประเทศแอฟริกาที่มาลาเรียระบาดหนัก ตอนที่เกิดแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น ก็มีภัยพิบัตินิวเคลียร์ด้วย ทุกคนต่างกังวลเกี่ยวกับกัมมันตภาพรังสี พวกเขาโทรหาผม ผมถามว่าแย่แค่ไหน ตอนที่มีการทดสอบระเบิดปรมาณูลูกแรกในประเทศจีน คนจีนจำนวนมากไปดู พวกเขาไม่รู้เลยว่ารังสีนิวเคลียร์คืออะไร แต่พวกเขาก็ออกไปตะโกนโห่ร้องด้วยความตื่นเต้น ในตอนนั้น มีคนประสบปัญหาด้านสุขภาพเพียงเล็กน้อย ตอนที่คนญี่ปุ่นกำลังอพยพออกไป วิศวกรของเรากลับมุ่งหน้าไปในทิศทางตรงกันข้าม วิศวกรของเราฟื้นฟูสถานีฐานมากกว่า 600 แห่ง รัฐบาลญี่ปุ่นเห็นสิ่งที่เราทำ และพวกเขาก็ยกย่องชมเชยพวกเรา พวกเขากล่าวว่า "หัวเว่ย คือบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น" นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่กิจการของเราดำเนินไปได้ดีในญี่ปุ่นตลอดหลายปีที่ผ่านมา

สึนามิที่อินโดนีเซียพรากชีวิตผู้คนนับหมื่น ทีมงานของเราซึ่งประกอบด้วยพนักงานเพียงไม่กี่สิบคนสามารถซ่อมแซมเครือข่ายให้กลับมาทำงานได้อีกครั้งภายในเวลาไม่กี่วัน ผมกับภรรยาไปเยี่ยมเยือนพนักงานของเราบนที่ราบสูงโบลิเวียที่ระดับความสูงมากกว่า 4,000 เมตร มีสถานีฐานอยู่หลายพันแห่งที่นั่น

พูดตามตรง เราได้เงินจากงานประเภทนี้ในประเทศด้อยพัฒนาไม่เยอะเท่าไหร่ หลายครั้งที่เราไม่สามารถแลกเปลี่ยนเงินตราที่เราได้รับเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ ที่ซูดานเป็นต้น มีเงินมากมายที่เราจะไม่ได้จับอีกต่อไป ในหลายๆ ประเทศ ก็เป็นเช่นเดียวกัน แต่เราทำงานเพื่ออุดมการณ์ของเรา เราทำงานเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษยชาติ หากเราเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ขับเคลื่อนด้วยเงินทุน เราก็จะดำเนินกิจการในประเทศที่ให้ผลกำไรดีเท่านั้น ไม่ไปประเทศที่ทำเงินไม่ได้ หากเป็นเช่นนั้น หลายประเทศก็จะยังคงมีเครือข่ายที่มีสัญญาณไม่ครอบคลุม นั่นไม่มีใช่วิถีทางของเรา เราทำงานเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คน ได้กำไรน้อยหน่อยก็ไม่เป็นไร ที่จริงแล้วเราได้กำไรพอสมควร เมื่อกี้คุณบอกว่าผมเป็นคนรวย ใช่ครับ ผมเป็นคนรวย

(กล่าวปิด) Ren: ขอบคุณ ผมอยากใช้โอกาสนี้ทักทายประชาชนชาวอเมริกัน พวกเขาเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับผู้คนทั่วโลกมาตลอดสองสามศตวรรษที่ผ่านมาเพราะความขยัน เรานับถือความไม่ถือตัวของพวกเขาอย่างยิ่ง เราทุกคนควรเรียนรู้จากพวกเขาครับ