Ren Zhengfei ผู้ก่อตั้ง Huawei: Huawei จะไม่ส่งมอบข้อมูลลูกค้าให้แก่รัฐบาลอย่างเด็ดขาด

15 มกราคม 2019, เซินเจิ้น

บทคัดย่อ
“ตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา มีการใช้งานผลิตภัณฑ์ของเราในมากกว่า 170 ประเทศและภูมิภาค ให้บริการแก่ผู้ใช้งานทั้งหมดมากกว่า 3 พันล้านคน เรายังคงรักษาประวัติด้านความปลอดภัยได้ดีเสมอมา”

“ผมจะไม่มีวันกระทำสิ่งใดก็ตามที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศอื่น ”

“กระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงอย่างเป็นทางการแล้วว่า ไม่มีกฎหมายใดในประเทศจีนที่กำหนดให้บริษัทใดๆ ต้องติดตั้งช่องโหว่ ทั้งบริษัท Huawei และตัวผมเอง ต่างก็ไม่เคยได้รับคำขอจากรัฐบาลให้ส่งมอบข้อมูลที่ไม่เหมาะสม ”

“การมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง คือหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของ Huawei นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง เราจะไม่มีวันกระทำสิ่งใดก็ตามที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผลประโยชน์ของลูกค้า Apple เป็นตัวอย่างที่ดีที่เราเอาอย่างในแง่ของการปกป้องความเป็นส่วนตัว เราจะเรียนรู้จาก Apple ถ้าจะให้เราทำสิ่งที่จะทำให้ลูกค้าของเราได้รับความเสียหายเพื่อผลประโยชน์ของตัวเราเอง เรายอมปิดบริษัท Huawei เสียเลยยังจะดีกว่า ”

“การคิดเช่นนั้นถือว่าไร้สาระไม่ต่างจากการที่ผู้คนทำลายเครื่องจักรสิ่งทอสมัยยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม เพียงเพราะผู้คนเหล่านั้นเชื่อว่าเครื่องจักรสิ่งทอจะเป็นสิ่งที่ทำให้โลกแตกแยก ”

“ในแง่ของ 5G วันนี้เราได้ลงนามในสัญญาเชิงพาณิชย์ไปแล้วมากกว่า 30 ฉบับ และเราได้ทำการจัดส่งสถานีฐาน 5G ไป 25,000 สถานีแล้ว เรามีสิทธิบัตร 5G ถึง 2,570 ฉบับ ”

“บางประเทศตัดสินใจที่จะไม่ซื้ออุปกรณ์จาก Huawei ดังนั้นเราจึงสามารถเปลี่ยนเป้าหมายของเราเพื่อดูแลประเทศที่ต้อนรับ Huawei ให้ดียิ่งขึ้นแทน เราสามารถสร้างเครือข่ายคุณภาพสูงในประเทศเหล่านั้นเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าเรามีความน่าเชื่อถือ ”

“ผมเชื่อในอุดมคติของสังคมเทคโนโลยีและบรรดานักวิทยาศาสตร์ รวมถึงปัญญาของบุคคลทางการเมืองที่เมื่อนำมารวมกันแล้ว จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของมนุษยชาติ ”

“Huawei เป็นบริษัทเดียวในโลกที่สามารถผนวกรวมสถานีฐาน 5G เข้ากับเทคโนโลยีไมโครเวฟที่ล้ำหน้าที่สุดได้ ”

“สารที่ผมต้องการสื่อสารไปยังสหรัฐอเมริกา คือผมต้องการการทำงานร่วมกันและประสบความสำเร็จร่วมกัน ”

“หากประเทศหรือบริษัทต่างๆ เกิดความหวาดกลัว ยกตัวอย่างเช่น จากการกักตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่ง อาจทำให้นักลงทุนที่มีศักยภาพเหล่านั้นหลีกหนี และสภาพแวดล้อมที่เอื้อประโยชน์อันเนื่องมาจากการลดภาษีก็จะไม่ทำให้การดำเนินการเป็นไปตามที่คาดหวังไว้ ”

“บริษัทมีพนักงานของเราที่ถือหุ้น 96,768 ราย เป็นเจ้าของ ไม่มีบุคคลใดที่เป็นเจ้าของหุ้น Huawei แม้เพียงหนึ่งสตางค์ โดยไม่ต้องทำงานที่ Huawei ไม่มีสถาบันภายนอกหรือหน่วยงานรัฐบาลใดที่ถือหุ้นของเรา ไม่มีแม้แต่สตางค์เดียว ”

“ผมไม่เห็นความเกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิดระหว่างความเชื่อทางการเมืองส่วนตัวของผม กับการดำเนินการทางธุรกิจที่ถือว่าเป็นจุดยืนของธุรกิจเลย ”

“ผมจึงเป็นเพียงแค่ทหารผ่านศึกคนหนึ่งที่ไม่มียศในกองทัพ ”

“สาเหตุส่วนหนึ่งที่เราสามารถกระทำสิ่งเหล่านี้ได้เนื่องจากเราไม่ใช่บริษัทมหาชน ดังนั้นเราจึงสามารถดำเนินงานเพื่อสนองอุดมการณ์ของเราได้อย่างแท้จริงและเพื่อมอบสิ่งที่ดีกว่าให้แก่สังคมได้ บริษัทมหาชนมีแนวโน้มที่จะให้ความสนใจกับตัวเลขทางการเงินของบริษัทตนมากกว่า ดังนั้นไม่ว่าสภาพการทำงานจะยากลำบากเพียงใด เราก็ยังมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่ออุดมคติที่เหนือกว่าให้แก่สังคมมนุษย์ ”

บทบันทึกฉบับเต็ม

1. Joseph Waring จาก Mobile World Live: เพื่อเป็นการเริ่มต้น จะเป็นการดีอย่างยิ่งหากคุณสามารถเล่าภูมิหลังให้เราฟังสักเล็กน้อย ว่าประสบการณ์ของคุณในกองทัพมีส่วนช่วยก่อร่างสร้างรูปแบบการบริหาร Huawei ของคุณอย่างไรบ้าง และคำถามต่อจากนั้นก็คือ ปัจจุบันนี้ Huawei กำลังอยู่ภายใต้การตรวจสอบจากทั่วโลก ฉะนั้นความเกี่ยวข้องต่อกองทัพได้ส่งผลต่ออนาคตของ Huawei อย่างไรบ้าง ขณะที่บริษัทเองก็ยังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

คุณ Ren: ผมเข้าร่วมกองทัพในยุคการปฏิวัติวัฒนธรรมของจีน ในเวลานั้นมีความวุ่นวายอยู่เกือบทุกหนทุกแห่ง รวมทั้งในภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมด้วย ประเทศกำลังเผชิญกับความยากลำบากอย่างมาก ปัญหาเหล่านี้สะท้อนออกมาในรูปแบบโภชนาการและเครื่องแต่งกายของผู้คน ผมจำได้ว่าในปี 1962 ท่ามกลางช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด จะมีการจัดสรรผ้าให้แก่คนจีนแต่ละคนเพียงหนึ่งในสามเมตรต่อคนเท่านั้น ผ้าจำนวนดังกล่าวพอแค่สำหรับการเย็บปะเท่านั้น ผมจึงไม่เคยสวมเสื้อผ้าที่ไม่มีรอยปะเลยเมื่อสมัยผมยังเด็ก

รัฐบาลกลางหวังว่า ทุกปีคนจีนทุกคนจะได้รับเสื้อผ้าที่มีคุณภาพอย่างน้อยหนึ่งชิ้นต่อปี ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจนำเข้าอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยที่สุดจากบริษัทในฝรั่งเศสที่ชื่อ Technip Speichim และสร้างโรงงานผลิตเส้นใยสังเคราะห์ขนาดใหญ่ โรงงานดังกล่าวถูกใช้งานเพื่อผลิตเส้นใยสังเคราะห์ ด้วยความหวังว่าคนจีนทุกคนจะได้รับเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าใยสังเคราะห์ โรงงานตั้งอยู่ที่เมืองทางตะวันออกเฉียงเหนือที่ชื่อว่าเหลียวหยาง ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำที่ชื่อว่าแม่น้ำไท่จือ ที่นั่นสภาพความเป็นอยู่ลำบากมาก ในตอนนั้น ประเทศจีนตกอยู่ในความวุ่นวายอย่างสมบูรณ์ และรัฐบาลกลางก็พยายามระดมทีมวิศวกรท้องถิ่นเพื่อเดินทางไปก่อสร้างโรงงานแห่งนั้น แต่ทว่า ไม่มีทีมไหนรับสายจากรัฐบาลเลย ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องระดมทีมจากกองทัพเพื่อไปสร้างโรงงานนั้น

มันเป็นชุดอุปกรณ์ที่ก้าวหน้ามากจากบริษัทฝรั่งเศส และความสามารถทางวิศวกรรมของกองทัพในตอนนั้นยังไม่เพียงพอต่อการทำงานระดับนั้น ผมเคยเรียนมหาวิทยาลัย และคนอย่างผมสามารถมีบทบาทในโครงการนั้นได้

เมื่อเราเดินทางไปถึงสถานที่แห่งนั้น มันเป็นสถานที่ที่มีขนาดหลายสิบตารางกิโลเมตร และไม่มีบ้านเลยแม้แต่หลังเดียว ทุกคนจึงต้องนอนหลับบนพื้นหญ้า แล้วช่วงนั้นเป็นช่วงเดือนกรกฎาคมหรือสิงหาคม ต่อมาภายหลังโรงงานได้รับเงินทุนสนับสนุนบางส่วน และได้สร้างบ้านโกโรโกโส ที่พอช่วยกำบังจากลมและฝนได้ คุณคงพอจะเห็นภาพว่าสภาพความเป็นอยู่มีความยากลำบากเพียงใด หากคุณถามผมว่าผมรู้สึกอย่างไรในตอนนั้น ผมจะตอบว่า: ประการแรก เราเคยได้รับอนุญาตในการเข้าถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในโลก บริษัทฝรั่งเศสบริษัทนั้นมีระบบควบคุมอัตโนมัติที่เหนือชั้นมาก ซึ่งไม่มีบริษัทจีนแห่งไหนมี ครั้งนั้นจึงเป็นครั้งแรกที่ผมได้เรียนรู้ว่าเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุดในโลกหน้าตาเป็นอย่างไร

ประการที่สอง เราเรียนรู้ที่จะอดทนต่อความยากลำบาก ที่พักอาศัยของเราโกโรโกโสอย่างมาก เราจึงสัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นอยู่เสมอเพราะมันไม่สามารถป้องกันลมได้เลย ลองคิดดู อุณหภูมิอาจลดลงไปถึงลบ 28 องศาเซลเซียส จีนกำลังเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในเวลานั้น เนื้อสัตว์และน้ำมันในการปรุงอาหารมีปริมาณที่จำกัดมาก สำหรับผู้คนทั่วไปที่อาศัยอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน เสบียงน้ำมันพืชสำหรับแต่ละเดือนอยู่ที่ราวๆ 150 กรัม ไม่มีผักสดในเสบียงเลย ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องดองผักบางชนิด เช่น ผักกาด และหัวไชเท้า ที่เราเก็บเกี่ยวมาได้ในฤดูใบไม้ร่วงนำมาดองในหม้อคอนกรีตขนาดใหญ่ แล้วอาศัยการกินอาหารดองเพียงอย่างเดียวทีละหกเดือน อาหารหลักของเราคือข้าวฟ่าง ห่างไกลจากความอร่อย ดังนั้นกล่าวโดยสรุปก็คือ เราได้เรียนรู้จากเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าที่สุดในโลก ในขณะที่ใช้ชีวิตที่อาจมองว่าดึกดำบรรพ์ นั่นคือความรู้สึกของผมในตอนนั้น

แต่ในตอนนั้นผมก็มีความสุข เพราะถ้าคุณอ่านหนังสือมากเกินไปขณะอาศัยอยู่ในภูมิภาคอื่นของประเทศ คุณอาจถูกวิจารณ์ได้ โรงงานนั้นน่าจะเป็นหนึ่งในไม่กี่ที่ที่ผู้คนสามารถอ่านหนังสือได้ เราต้องอ่านเพื่อทำความเข้าใจว่าอุปกรณ์สมัยใหม่เครื่องนี้ทำงานอย่างไร ณ ตอนนั้น ผมเป็นช่างเทคนิคของกองร้อยหนึ่งในกองทัพ แล้วต่อมาผมก็ได้เป็นรองผู้อำนวยการของสถาบันวิจัยการก่อสร้างขนาดเล็กที่มีพนักงานเพียงยี่สิบกว่าคน อันที่จริงตำแหน่งนั้นเทียบเท่ากับยศรองหัวหน้ากองร้อย ความฝันของผมในตอนนั้นคือการคว้ายศพันโทให้ได้ ก่อนที่ประเทศจีนจะปลดประจำการกองทัพ น่าเสียดายที่เหตุการณ์นั้นไม่ได้เกิดขึ้น ผมจึงเป็นเพียงแค่ทหารผ่านศึกคนหนึ่งที่ไม่มียศในกองทัพ

2. Yuan Yang จาก Financial Times: ดิฉันมาจาก Financial Times และดิฉันมีคำถามที่เกี่ยวข้องกับประสบการณ์ส่วนตัวของคุณ มีรายงานว่าคุณได้เข้าร่วมในการประชุมสมัชชาของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนเมื่อปี 1982 เหตุใดคุณจึงเข้าร่วมการประชุมนั้น และความสัมพันธ์ระหว่าง Huawei กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน ณ ปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง

คุณ Ren: ตอนนั้นที่เราสร้างโรงงานผลิตเส้นใยสังเคราะห์ เรามีเครื่องมือสำหรับทดสอบอุปกรณ์ขั้นสูงเครื่องนั้นไม่เพียงพอ มีช่างเทคนิคคนหนึ่งที่มาจากสถาบันวิจัยจักรกลอัตโนมัติเสิ่นหยาง เขาบอกผมว่าเขาเคยเห็นเครื่องมือที่คล้ายคลึงกันเมื่อสมัยที่เขาเดินทางไปต่างประเทศ และเขาอธิบายให้ผมฟังว่ามันมีลักษณะอย่างไร

ด้วยวิธีการอนุมานทางคณิตศาสตร์ ผมจึงสามารถสร้างอุปกรณ์ดังกล่าวขึ้นมาได้ แต่ผมไม่แน่ใจ 100% ว่าการอนุมานทางคณิตศาสตร์ของผมถูกต้องหรือไม่ ดังนั้นผมจึงไปปรึกษาอาจารย์ท่านหนึ่งที่มหาวิทยาลัยทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน ชื่อของท่านคือ Li Shijiu ผมต้องการยืนยันว่าการอนุมานของผมสมเหตุสมผลหรือไม่ อาจารย์ยืนยันการอนุมานของผม ท้ายที่สุด ผมจึงได้คิดค้นอุปกรณ์นั้นขึ้นมา

และขณะนั้นก็เป็นช่วงเวลาที่ "แก๊งสี่คน" ถูกกวาดล้าง และประเทศกำลังพยายามหาตัวอย่างที่พร้อมใช้งานเพื่อแสดงให้เห็นว่าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีคุณค่า สิ่งประดิษฐ์ชิ้นเล็กๆ ของผมถูกยกระดับให้กลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และได้รับการส่งเสริมจากสื่อต่างๆ มากมาย ได้แก่ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ภาพยนตร์ ฯลฯ เพราะการเผยแพร่อย่างยิ่งใหญ่เช่นนั้น ผมจึงโชคดีที่ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกในการประชุมทางวิทยาศาสตร์ระดับชาติ

คุณอาจทราบดีอยู่แล้วว่า ยุคสมัยนั้นเป็นยุคที่คุณจำเป็นต้องเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ แม้ว่าคุณจะเป็นแค่หัวหน้าแผนกทำอาหารในกองทัพก็ตาม ผมได้รับเลือกให้เข้าร่วมการประชุมทางวิทยาศาสตร์แห่งชาติ แต่ผมไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ ผู้บังคับบัญชาของผมรู้สึกว่ามันแปลกมากที่เป็นเช่นนั้น ผมจึงได้เป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ด้วยความช่วยเหลือจากองค์กรในพรรค เหตุผลที่ผมไม่ได้เป็นสมาชิก ไม่ได้เป็นเพราะผมยังทำหน้าที่ของผมได้ไม่ดีพอ แต่เป็นเพราะภูมิหลังทางครอบครัวของผม

พ่อของผมได้รับการตีตราว่าเป็น "ผู้ฝักใฝ่ทุนนิยมฝั่งขวา" เพราะเหตุนี้ จึงทำให้มีอยู่ช่วงหนึ่งที่พ่อของผมต้องโดนกักตัวอยู่ในโรงวัว สำหรับคนที่มีการศึกษาในสมัยนั้น คนที่มีความรู้ ภูมิหลังหรือประวัติของบุคคลนั้นอาจมีความซับซ้อนกว่าผู้นำในกลุ่มเกษตรกรและคนงานเสียอีก เป็นเพราะพ่อของผมต้องได้รับการตรวจสอบอย่างใกล้ชิดเช่นนั้น จึงทำให้เขาต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมายาวนานกว่า 10 ปีกว่าชื่อของเขาจะไร้มลทิน และเนื่องด้วยความสัมพันธ์ทางครอบครัวเช่นนี้ ผมจึงยังไม่สามารถเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ได้ในช่วงเวลาดังกล่าว

หลังจากที่ผมเข้าร่วมพรรคในปี 1978 ประเทศจีนได้ผลักดันให้ผู้นำมี “สี่คุณสมบัติ” ได้แก่ อายุน้อย มีความเชี่ยวชาญ มีการศึกษา และหัวปฏิวัติ ผมบังเอิญมีคุณสมบัติตามข้อกำหนด และได้รับการแนะนำให้เป็นสมาชิกรุ่นที่ 12 ในสภาของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน และสุดท้ายผมก็ได้รับเลือก โชคไม่ดีที่ผมยังเด็กเกินกว่าที่จะเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า การปฏิรูปครั้งใหญ่มีจุดประสงค์เพื่ออะไรในช่วงเวลาประวัติศาสตร์ช่วงนั้น น่าเสียดายจริงๆ ตอนนั้นผมเป็นผู้คลั่งไคล้กลไกทางเทคนิคอย่างเต็มตัว ทุกวันนี้ผมก็ยังคงรักประเทศของผม ผมสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน แต่ผมจะไม่มีวันกระทำสิ่งใดก็ตามที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศอื่น

3. Joe McDonald จาก Associated Press: ตามความเข้าใจของผม ช่วงหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนที่ผ่านมาคงจะเป็นช่วงเวลาที่ตึงเครียดมากสำหรับคุณ ขอบคุณที่สละเวลามาพูดคุยกับเราในวันนี้ ผมต้องการถามคำถามเกี่ยวกับความปลอดภัย ไม่นานมานี้เกิดเหตุด้านความปลอดภัยหลายครั้ง ความกังวลด้านความปลอดภัยที่รัฐบาลต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย หยิบยกขึ้นมาพูด ไม่ได้เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพทางเทคโนโลยีของ Huawei ดูเหมือนว่ารัฐบาลเหล่านี้มีความกังวลว่าทุกบริษัทในประเทศจีน โดยเฉพาะ Huawei จะอยู่ภายใต้การปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน หากพรรคคอมมิวนิสต์ต้องการให้ Huawei ทำสิ่งใด บริษัทก็ต้องปฏิบัติตาม ผมจึงสงสัยว่า คุณมีหลักประกันใดที่จะมอบให้แก่ลูกค้าต่างชาติว่า Huawei จะสามารถปกป้องความปลอดภัยในเครือข่ายของพวกเขา หรือปกป้องความลับของข้อมูลได้ ภายใต้สถานการณ์ทางกฎหมายของประเทศจีน มีสิ่งใดบ้างที่ Huawei สามารถแจ้งลูกค้าเกี่ยวกับขีดจำกัดด้านความสามารถ เพื่อที่จะมอบหลักประกันดังที่กล่าวมาได้

คุณ Ren: ประเด็นแรกที่ผมต้องการแจ้งให้ทราบ คือตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา มีการใช้งานผลิตภัณฑ์ของเราในมากกว่า 170 ประเทศและภูมิภาค ให้บริการแก่ผู้ใช้งานทั้งหมดมากกว่า 3 พันล้านคน เรายังคงรักษาประวัติด้านความปลอดภัยได้ดีเสมอมา Huawei เป็นองค์กรธุรกิจอิสระ เมื่อพูดถึงเรื่องความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และการปกป้องความเป็นส่วนตัว เรามุ่งมั่นที่จะอยู่เคียงข้างลูกค้าของเรา เราจะไม่มีวันสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศหรือบุคคลใดก็ตาม ประเด็นที่สอง กระทรวงการต่างประเทศของจีนได้ชี้แจงอย่างเป็นทางการแล้วว่า ไม่มีกฎหมายใดในประเทศจีนที่กำหนดให้บริษัทใดๆ ต้องติดตั้งช่องโหว่ ทั้งบริษัท Huawei และตัวผมเอง ต่างก็ไม่เคยได้รับคำขอจากรัฐบาลให้ส่งมอบข้อมูลที่ไม่เหมาะสม

Joe McDonald จาก Associated Press: ขอโทษครับ ผมไม่ได้กำลังโต้แย้งกับคุณ ไม่ว่ารัฐบาลใด สหรัฐอเมริกาหรือออสเตรเลีย ก็คงจะมองว่าบริษัทของคุณเป็นบริษัทผู้จำหน่ายเครือข่าย ลูกค้าต้องไว้วางใจผู้จำหน่ายด้วยข้อมูลลับส่วนใหญ่เกี่ยวกับวิธีการทำงานของเครือข่ายโทรคมนาคมภายในประเทศ ยกตัวอย่างเช่น กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐติดต่อ Huawei เพื่อขอให้ Huawei มอบข้อมูลเกี่ยวกับต่างประเทศให้แก่กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐ ตามกฎหมายแล้ว Huawei ไม่มีทางที่จะปฏิเสธได้ Huawei จะต้องปฏิบัติตาม ดังนั้น Huawei สามารถทำอะไรได้บ้าง และจะทำอย่างไรเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้า

คุณ Ren: ผมสามารถขาย Huawei ให้คุณได้ไหม

Joe McDonald จาก Associated Press: ได้ อันที่จริงผมเพิ่งซื้อผลิตภัณฑ์ของ Huawei มา

คุณ Ren: หากคุณไม่สามารถซื้อ [ซื้อ Huawei] ได้ ผมคงจะต้องปิดบริษัท การมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง คือหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของ Huawei นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง เราจะไม่มีวันกระทำสิ่งใดก็ตามที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผลประโยชน์ของลูกค้า Apple เป็นตัวอย่างที่ดีที่เราเอาอย่างในแง่ของการปกป้องความเป็นส่วนตัว เราจะเรียนรู้จาก Apple ถ้าจะให้เราทำสิ่งที่จะทำให้ลูกค้าของเราได้รับความเสียหายเพื่อผลประโยชน์ของตัวเราเอง เรายอมปิดบริษัท Huawei เสียเลยยังจะดีกว่า

4. Dan Strumpf จาก Wall Street Journal: ผมต้องการที่จะถามคุณเกี่ยวกับคุณ Meng ลูกสาวของคุณ เป็นเวลามากกว่าหนึ่งเดือนแล้วนับตั้งแต่วันที่เธอถูกกักตัวอยู่ที่แคนาดา ผมอยากทราบว่าคุณรู้สึกอย่างไรเมื่อรู้ว่านี่คือคำขอ [ส่งผู้ร้ายข้ามแดน] และคุณรู้สึกว่าลูกสาวของคุณตกเป็นเหยื่อเพราะเธอเป็นสมาชิกในครอบครัวของคุณและเพราะตำแหน่งของเธอใน Huawei หรือไม่

คุณ Ren: อย่างที่คุณคงทราบดีว่าคดีของ Meng Wanzhou ในขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาทางกฎหมาย ดังนั้น เราควรปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมายดีกว่า ผมจะไม่ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ณ ที่นี้มากนัก

ในฐานะพ่อของ Meng Wanzhou ผมคิดถึงลูกมาก และผมรู้สึกซาบซึ้งอย่างมากต่อความยุติธรรมของท่านผู้พิพากษา William Ehrcke และผมก็ซาบซึ้งต่ออัยการ John Gibb-Carsley และอัยการ Kerri Swift อีกด้วย นอกจากนี้ผมขอขอบคุณทัณฑสถานหญิง Alouette สำหรับการจัดการอย่างมีมนุษยธรรม ขอบคุณเพื่อนร่วมห้องขังของ Meng Wanzhou ที่ปฏิบัติต่อเธอเป็นอย่างดี

และผมก็ชื่นชมการคุ้มครองทางกงสุลที่รัฐบาลจีนมอบให้ เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของ Meng Wanzhou ในฐานะพลเมืองจีนคนหนึ่ง ผมเชื่อว่าระบบทางกฎหมายของแคนาดาและสหรัฐอเมริกานั้นเปิดกว้าง ยุติธรรม และเท่าเทียม และจะนำพาไปสู่ข้อสรุปที่ยุติธรรม เราจะลงความเห็นของเราหลังจากมีการเปิดเผยหลักฐานทั้งหมดสู่สาธารณะแล้ว

5. Gao Yuan จาก Bloomberg: คุณเป็นบิดาของคุณ Meng และตอนนี้ลูกสาวของคุณได้รับการปฏิบัติเยี่ยงนี้ คุณเพิ่งกล่าวออกมาเมื่อกี้ว่าคุณเชื่อถือการดำเนินการทางกฎหมาย แต่ที่คุณ Meng ตกเป็นเป้าหมายของสหรัฐอเมริกาและแคนาดา เป็นเพราะเธอเป็นสมาชิกในครอบครัวของคุณหรือเปล่า ความรู้สึกส่วนตัวของคุณเป็นอย่างไรบ้าง

คุณ Ren: คุณรู้ไหม ผมไม่สามารถเข้าถึงอีเมลการตอบโต้ระหว่างกระทรวงยุติธรรมแห่งสหรัฐอเมริกา และกระทรวงยุติธรรมแห่งแคนาดาได้เลย ไม่แน่ว่าในอนาคต เมื่อไรก็ตามที่พวกเขาเผยหลักฐานต่อสาธารณะ ผมก็จะได้ทราบว่าที่ Meng ตกเป็นเป้าหมายเพราะเธอเป็นลูกสาวของผมใช่ไหม เราจะรอดูหลักฐานเพิ่มเติมที่เผยแพร่สู่สาธารณะ หลังจากการพิจารณาคดีขั้นต่อไป

6. Arjun Kharpal จาก CNBC: ขอบคุณที่สละเวลา คุณ Ren ผมแค่ต้องการต่อยอดคำตอบที่คุณได้ให้ไว้กับ Joseph ที่คุณกล่าวถึง Apple ในคำตอบของคุณ คุณอ้างอิงถึงคดีที่มีการขอให้ Apple ส่งหลักฐานจาก iPhone และมีการนำหลักฐานดังกล่าวไปใช้ในชั้นศาล คุณจะทำเช่นเดียวกันใช่ไหม ถ้าหากมีคำขอจากรัฐบาลจีนให้มอบข้อมูลจากเครือข่ายต่างๆ คำถามที่สอง เรียกว่าเป็นอีกหัวข้อก็แล้วกัน คุณมีการติดต่อกับกับหน่วยงานของสหรัฐอเมริกาอย่างไร เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมอื่นๆ ที่อาจเปิดทางให้คุณกลับเข้าสู่ตลาดได้ การสนทนาครั้งที่ผ่านๆ มาเป็นอย่างไรบ้าง และสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนั้นคืออะไร

คุณ Ren: เราไม่มีช่องทางใดๆ ในการสื่อสารกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกา และถ้าให้พูดกันตรงๆ เราทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่รู้จักกันและกันมากเท่าไรนัก สำหรับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นหากมีกรณีด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่พูดถึง ผมเชื่อว่าผมได้แสดงจุดยืนของผมอย่างชัดเจนมากแล้ว: เราจะไม่มีวันสร้างความเสียหายต่อผลประโยชน์ของลูกค้า

7. Eamon Barrett จาก Fortune: ขอบคุณที่คุณ Ren มาพูดคุยกับเราในวันนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีการหยิบยกสองประเด็นขึ้นมาแล้ว ซึ่งเป็นประเด็นที่ต่างชาติอาจเล็งเห็นว่าเป็นต้นเหตุความน่ากังวลของ Huawei อันได้แก่ ภูมิหลังที่เกี่ยวกับกองทัพทหาร ความเกี่ยวข้องกับพรรคคอมมิวนิสต์ ฯลฯ และความน่ากังวลอีกประการหนึ่งที่ต่างชาติมีคือ รัฐบาลเป็นเจ้าของกิจการ Huawei ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง Huawei อ้างว่าเป็นบริษัทที่มีพนักงานเป็นเจ้าของ แต่วิธีที่แน่ชัดในการกระจายหุ้นบริษัทให้แก่พนักงานยังคงเป็นความลับ หากคุณเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อสาธารณะ หรือแม้แต่เปลี่ยนให้ Huawei เป็นบริษัทมหาชนไปเสียเลย คุณก็คงจะคลี่คลายข้อกังขาได้ทั้งหมด ฉะนั้นเพราะเหตุใดคุณจึงยังเก็บโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทไว้เป็นความลับ

คุณ Ren: ประการแรก ผมคิดว่ามีเรื่องราวความสำเร็จเพียงไม่กี่เรื่อง ที่ซึ่งบริษัทมหาชนกลายเป็นบริษัทที่เข้มแข็งและมีขนาดใหญ่ได้ นายทุนมักมีความโลภ เมื่อไรก็ตามที่มีผลประโยชน์โดยตรง นายทุนมักฉวยมันไป และการทำเช่นนั้นจะบั่นทอนการดำเนินตามอุดมคติในระยะยาวอย่างแน่นอน เราเป็นบริษัทเอกชน ดังนั้นเราจึงสามารถยืนหยัดที่จะยึดมั่นต่ออุดมการณ์ระยะยาวของเราได้

นับตั้งแต่สมัยที่เรายังเป็นบริษัทขนาดเล็กที่มีพนักงานเพียงไม่กี่ร้อยคน เราได้กำหนดเป้าหมายในการลงแรงของเราให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ถึงแม้ว่าเราจะเติบโตขึ้น จนเริ่มมีพนักงานหลักพัน หลักหมื่น หรือแม้แต่ในวันนี้ที่มีพนักงานมากกว่า 100,000 คนแล้ว เราก็ยังดำรงเป้าหมายเดิมขณะที่เราเดินหน้าต่อไป

การลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาประจำปีของเรามีมูลค่า 1.5 ถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในอีกห้าปีข้างหน้า เราจะเพิ่มการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาโดยสุทธิมากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่พวกบริษัทมหาชนมักไม่ทำเช่นนั้น เพราะบริษัทเหล่านี้ให้ความสนใจกับการทำให้งบดุลดูดี สิ่งที่สำคัญต่อ Huawei มากกว่านั้น คือโครงสร้างของอุตสาหกรรมในอนาคต ระบบการตัดสินใจของเราแตกต่างจากบริษัทมหาชน มันเรียบง่ายมาก และเรากำลังพยายามอย่างหนักเพื่อสร้างสังคมสารสนเทศให้เกิดขึ้นจริง

ผมมีข้อมูลบางอย่างที่จะแบ่งปันกับคุณ เรามีพนักงานที่ถือหุ้นบริษัทอยู่ 96,768 คน เมื่อสองสามวันก่อนในวันที่ 12 มกราคม เราได้ทำการเลือกตั้งตัวแทนพนักงานผู้ถือหุ้นคนใหม่ ณ 416 คูหาจากมากกว่า 170 ประเทศและภูมิภาคต่างๆ กระบวนการทั้งหมดของการเลือกตั้งดังกล่าวใช้เวลาประมาณหนึ่งปี ขั้นแรก เราได้แจ้งให้พนักงานทุกคนทราบเกี่ยวกับมาตรการกำกับดูแลของเรา จากความพยายามดังกล่าว พนักงานของเราจึงเริ่มเกิดความคุ้นเคยมากขึ้นว่าโครงสร้างบรรษัทภิบาลของบริษัทนี้เป็นอย่างไร

จากนั้น เราจึงเสนอชื่อผู้สมัครจากระดับชั้นต่างๆ ขององค์กรเรา ผู้สมัครทุกคนจะออกมานำเสนอเพื่อขอแรงสนับสนุนจากผู้ลงคะแนนเสียง ในช่วงเวลานั้น บุคคลเหล่านั้นได้รับเพียงการเสนอชื่อเท่านั้น แต่ยังไม่ได้รับเลือก จากนั้นจึงทำการรวบรวมรายชื่อบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าด้วยกัน แล้วส่งไปยังแผนกระดับสูงกว่าเพื่อทำการตรวจสอบ มีการรวบรวมความคิดเห็นจากพนักงานผู้ถือหุ้นเพิ่มเติม หลังจากนั้นเราได้มีการคัดกรองในระดับหนึ่ง หมายความว่ามีการคัดเลือกรายชื่อบุคคลให้เหลือจำนวนน้อยลง แล้วรายชื่อที่เหลือน้อยลงนั้นก็ได้รับการตรวจสอบ การหารือ และการพิจารณาอย่างละเอียดจากระดับที่สูงกว่าในบริษัท ซึ่งจะคำนึงถึงความคิดเห็นของบุคคลรอบตัวบุคคลเหล่านั้นด้วย รายชื่อที่เหลือน้อยนั้นก็จะมีจำนวนน้อยลงไปอีก มีการรายงานรายชื่อดังกล่าวไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง แล้วรายชื่อก็ถูกส่งกลับมาอีกครั้ง เป็นรายชื่อที่ได้รับการคัดกรองมากขึ้นและจำกัดให้แคบลงเหลือเพียง 200 กว่าคน และรายชื่อจะถูกเผยแพร่บนแพลตฟอร์มแบ่งปันข้อมูลภายในบริษัทของเรา เพื่อรวบรวมความคิดเห็นของพนักงาน แล้วหลังจากนั้นจึงสรุปรายชื่อผู้สมัครเป็นครั้งสุดท้าย

ในวันที่ 12 มกราคม เราได้เสร็จสิ้นการลงคะแนนเสียง การเลือกตั้ง เพื่อเลือกตัวแทนพนักงานผู้ถือหุ้นของเราจากทั่วโลก ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ผู้ส่งสารของเราทั่วโลกได้ทำการส่งคะแนนเสียงเหล่านี้กลับไปยังเมืองเซินเจิ้น ตัวแทนคณะกรรมมาธิการเป็นผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจสูงสุดของ Huawei และพนักงานที่ถือหุ้นของเรา 96,768 ราย เป็นเจ้าของบริษัทเรา ปัจจุบันนี้พนักงานที่ถือหุ้นของเรากำลังทำงานอยู่ที่ Huawei หรือเป็นอดีตพนักงานที่เกษียณแล้วซึ่งเคยทำงานให้แก่ Huawei มาเป็นเวลาหลายปี ไม่มีบุคคลใดที่เป็นเจ้าของหุ้น Huawei แม้เพียงหนึ่งสตางค์ โดยไม่ต้องทำงานที่ Huawei ไม่มีสถาบันภายนอกหรือหน่วยงานรัฐบาลใดที่ถือหุ้นของเรา ไม่มีแม้แต่สตางค์เดียว เรามีเอกสารแสดงการถือหุ้น ที่รวบรวมจำนวนหุ้นที่มีการถือครองโดยพนักงานผู้ถือหุ้นของเรา นักข่าวคนใดสนใจ เชิญอ่านเอกสารดังกล่าวนี้ได้

ผมเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทนี้ ในตอนที่ผมต้องการก่อตั้ง Huawei ผมมีเงินไม่เพียงพอ เมื่อครั้งที่ผมถูกปลดประจำการจากกรมทหาร ผมและภรรยาได้รับค่าชดเชยทั้งสิ้น 3,000 หยวนจากทางกองทัพ ในขณะนั้น จำเป็นต้องใช้เงินอย่างต่ำ 20,000 หยวนเพื่อเป็นเงินทุนจดทะเบียนในการเปิดบริษัทที่เมืองเซินเจิ้น ด้วยการจัดตั้งกองทุนร่วมกับบุคคลอื่น ผมจึงสามารถรวบรวมเงินได้ 21,000 หยวนเพื่อจดทะเบียนบริษัท Huawei

วันนี้ จำนวนหุ้นสุทธิใน Huawei ที่ผมถืออยู่คือ 1.14% และจำนวนหุ้นที่คุณ Steve Jobs เคยถือไว้ใน Apple คือ 0.58% จึงหมายความว่ายังคงมีความเป็นไปได้ที่ผมจะลดจำนวนหุ้นที่ถือไว้ลงไปอีก ผมควรเรียนรู้จากคุณสตีฟ จ็อบส์

8. Yuan Yang จาก Financial Times: เมื่อปีที่แล้วมีรายงานว่า สหภาพแอฟริกันได้แจ้งว่ามีการแทรกซึมจากจีนผ่านอุปกรณ์ของพวกเขาที่อยู่ในเอธิโอเปีย และเราทราบมาด้วยว่าอุปกรณ์บางส่วนที่สหภาพแอฟริกันใช้งานนั้นมาจาก Huawei คุณมีข้อคิดเห็นต่อประเด็นดังกล่าวไหม คุณได้กล่าวว่า Huawei จะไม่มีวันสร้างความเสียหายแก่ผลประโยชน์ของลูกค้าหรือบุคคลใดๆ สมมติว่ามีบุคคลหนึ่งไม่ว่าจะเป็นชาวจีนหรือชาวต่างชาติก็ตาม บุคคลนั้นกระทำสิ่งที่ผิดกฎหมายในประเทศจีน และทิ้งร่องรอยบางอย่างไว้ในสมาร์ทโฟน Huawei ของบุคคลนั้น เป็นต้น เช่นเดียวกับบริษัทอื่นๆ Huawei ควรจะสนับสนุนและร่วมมือกับหน่วยงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะ เนื่องจากกฎหมายได้กำหนดไว้เช่นนั้น ถ้าเกิดกรณีดังกล่าวขึ้น Huawei จะให้ความร่วมมือหรือไม่ แล้วถ้าลองจินตนาการว่าชาวจีนหรือชาวต่างชาติคนนั้นได้ก่อเหตุอาชญากรรมในประเทศอื่นภายนอกประเทศจีน Huawei จะดำเนินการต่อทั้งสองกรณีอย่างไรบ้าง

คุณ Ren: สำหรับพนักงานของ Huawei ไม่ว่าเขาจะเป็นชาวจีนหรือชาวต่างชาติ หากพวกเขาฝ่าฝืนกฎหมายท้องถิ่นเราจะให้ความร่วมมือต่อการสอบสวนเสมอ เรายืนหยัดอย่างมั่นคงในการต่อต้านพฤติกรรมใดก็ตามที่ละเมิดกฎหมายและข้อกำหนด ภายใน Huawei เรามีระบบบริหารจัดการการปฏิบัติตามข้อกำหนดภายในและภายนอกที่ดีมาก จุดประสงค์คือเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำผิดหรือเกิดเหตุที่เลวร้าย ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกลงโทษทางวินัยโดยฝ่ายกำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎระเบียบของเรา Huawei อาจเติบโตขึ้นมากกว่านี้ในอนาคต ในยุคของระบบคลาวด์ สังคมของเรามีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ หากเราไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมของเราผ่านระเบียบวินัยได้ เราอาจรู้สึกสับสน

สำหรับเหตุข้อมูลรั่วไหลจากอุปกรณ์ที่สหภาพแอฟริกาใช้งาน เหตุดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องอะไรกับ Huawei ทั้งสิ้น

9. Eamon Barrett จาก Fortune: คำถามต่อเนื่องจากประเด็นเมื่อครู่ และเกี่ยวกับวิธีที่ Huawei บังคับใช้การลงโทษทางวินัยของบริษัท เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พนักงานของ Huawei ถูกจับกุมในโปแลนด์ข้อหาผู้ต้องสงสัยก่อเหตุจารกรรม Huawei ไล่พนักงานคนนั้นออกทันทีโดยไม่รอการไต่สวน โดยไม่รอให้มีการพิสูจน์หลักฐาน ขณะที่ในแคนาดา ที่ซึ่งคุณ Meng Wanzhou โดนจับกุมเมื่อเดือนธันวาคม ดูเหมือนว่า Huawei อยู่ข้างเธอและยังคงเชื่อมั่นว่าเธอบริสุทธิ์ เพราะเหตุใดจึงมีการตัดสินใจไล่พนักงานที่โปแลนด์ออก เหตุใดจึงไม่ดำเนินการเช่นเดียวกันกับที่แคนาดา

คุณ Ren: ทั้งสองคดียังอยู่ระหว่างกระบวนการทางกฎหมาย และผมไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่จะให้ความเห็นเพิ่มเติมนอกเหนือจากข้อมูลที่มีอยู่ในคำแถลงอย่างเป็นทางการของเรา

10. Gao Yuan จาก Bloomberg: คำถามของผมจะเกี่ยวข้องกับด้านธุรกิจของ Huawei เสียมากกว่า จากความคืบหน้าครั้งล่าสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบางประเทศในยุโรปหยุดใช้อุปกรณ์ของ Huawei อันเนื่องมาจากความกังวลด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ประเด็นดังกล่าวจะส่งผลต่อธุรกิจของ Huawei อย่างไรบ้าง มีแผนการหรือการดำเนินการใดบ้างที่ Huawei เตรียมเอาไว้ หรือคุณคิดว่า Huawei ควรทำอย่างไรเพื่อรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ และเพื่อดำรงธุรกิจในตลาดเหล่านั้นต่อไป อาทิ ยุโรป สหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆ ในกลุ่ม Five Eyes

คุณ Ren: ประการแรก เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่ลูกค้าบางรายยอมรับ Huawei และลูกค้ารายอื่นไม่ยอมรับ ประเด็นดังกล่าวไม่ใช่ปัญหาใหม่แต่อย่างใด หากมีสมาชิกสภากลุ่มหนึ่งตัดสินใจว่าไม่ควรยอมรับ Huawei ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นตัวแทนจากทั้งรัฐบาล เราสามารถติดต่อเพื่อพูดคุยกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่ถูกต้องได้ หากความคิดเห็นของบุคคลเหล่านั้นเปลี่ยนเป็นคำสั่งจากรัฐบาล ถ้าเช่นนั้นเราอาจต้องหยุดการจำหน่ายในประเทศนั้น

หนึ่งในหัวข้อหลักๆ ที่ยังเป็นคำถามอยู่ในปัจจุบันคือ 5G หากคุณพิจารณา 4G ดู ผมไม่คิดว่าเคยมีความขัดแย้งหรือข้อโต้เถียงใดๆ ที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่มีข้อถกเถียงเช่นนี้ เราจะเดินหน้าต่อไปเพื่อผลักดันยอดขายของเรา บางประเทศตัดสินใจที่จะไม่ซื้ออุปกรณ์จาก Huawei ดังนั้น เราจึงสามารถเปลี่ยนเป้าหมายของเราเพื่อดูแลประเทศที่ต้อนรับ Huawei ให้ดียิ่งขึ้นแทน เราสามารถสร้างเครือข่ายคุณภาพสูงในประเทศเหล่านั้นเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าเรามีความน่าเชื่อถือ ดังนั้น จากมุมมองทางเทคนิคแล้วมันเป็นเหมือนการแข่งขันที่สงบสุข และผมคิดว่ามันก็ยุติธรรมดี

11. Joe McDonald จาก Associated Press: รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของจีนได้จับกุมพลเมืองชาวแคนาดาสองคนในข้อหาด้านความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวานนี้ ศาลได้ตัดสินโทษประหารชีวิตชาวแคนาดาผู้ซึ่งถูกกล่าวหาว่าครอบครองยาเสพติด คนบางกลุ่มที่อยู่นอกประเทศจีนมีความเห็นว่า ชาวแคนาดาทั้งสองคนนี้ถูกกักตัวเพื่อเป็นตัวประกันอันเกี่ยวเนื่องกับการจับกุมคุณ Meng Wanzhou ที่ประเทศแคนาดา และคดีครอบครองยาเสพติดก็อาจได้รับอิทธิพลจากคดีดังกล่าวก็เป็นได้ คุณรู้สึกอย่างไรที่มีคนพูดถึงบริษัทของคุณในแง่นี้ หรือการที่คุณมีความเกี่ยวข้องเป็นการส่วนตัวกับรัฐบาลจีนที่จับกุมตัวประกันเพื่อช่วยเหลือคุณ หรือคดีครอบครองยาเสพติดดังกล่าวอาจมีอิทธิพลทางการเมืองบางประการเพื่อช่วยเหลือบริษัทของคุณ ประเด็นนั้นทำให้คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง

คุณ Ren: ก่อนอื่น ผมไม่ทราบเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับคดีนี้ และคดีดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้องกับ Huawei เลยไม่ว่าในแง่ใดก็ตาม

12. Dan Strumpf จาก Wall Street Journal: ผมสงสัยเกี่ยวกับการเปิดตัวเครือข่าย 5G ในอีกไม่กี่ปีนี้ มีหลายประเทศที่กำลังทำตามแบบอย่างที่เริ่มประเดิมโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ในการนำข้อจำกัดใหม่มาบังคับใช้กับการเข้าร่วมใน 5G ของ Huawei และเป็นไปได้ว่าอาจมีข้อจำกัดอื่นเพิ่มเติมที่ขยายเป็นวงกว้างมากขึ้นอีก ผมก็เลยสงสัยว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเจ้าหน้าที่รัฐของโปแลนด์ได้ระบุว่าพวกเขาต้องการมีจุดยืนร่วมกับ NATO ในประเด็นที่เกี่ยวกับ Huawei เนื่องจากข้อจำกัดใหม่ที่อาจเกิดขึ้น มีความหมายอย่างไรต่อ Huawei เมื่อทราบว่าบริษัทอาจถูกกีดกันจากกลุ่มเครือข่ายโทรคมนาคมที่สำคัญของโลกได้ในอนาคต ทั้งในมุมมองทางธุรกิจและมุมมองด้านชื่อเสียงของบริษัท แล้ว Huawei จะรับมือกับข้อจำกัดเหล่านี้ได้อย่างไร

คุณ Ren: อย่างแรก ผมไม่แน่ใจว่าข้อเสนอนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน และโปแลนด์จะสามารถผลักดันข้อเสนอจนสำเร็จหรือไม่ ผมคิดว่าประเทศอย่างเช่นฝรั่งเศสและเยอรมนีอาจมีสิทธิ์มีเสียงใน NATO มากกว่า

ดังนั้นผมจึงไม่แน่ใจว่าโปแลนด์จะสามารถทำให้ข้อตกลงได้รับการอนุมัติ ถึงแม้ว่าพวกเขาได้สิ่งที่ต้องการมาจริงๆ ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่กระทบ Huawei มากมายเท่าไรนัก เพราะอย่างที่คุณทราบว่าเราไม่ใช่บริษัทมหาชน เราจึงไม่กังวลมากนักเกี่ยวกับตัวเลขที่ดูสวยงาม หรืองบดุลที่ดูดี หากเราไม่ได้รับอนุญาตให้ขายผลิตภัณฑ์ของเราในบางตลาด เราก็ย่อส่วนธุรกิจลงเล็กน้อยเสียดีกว่า ตราบใดที่เรายังสามารถเลี้ยงปากท้องพนักงานของเราได้ ผมเชื่อว่าจะยังมีอนาคตสำหรับ Huawei เสมอ

ดังที่ผมได้กล่าวไป ในขณะนี้การลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของเรามีมูลค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1.5-2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ทำให้ในแง่ของความกระตือรือร้นทางด้านการวิจัยและพัฒนา Huawei อยู่ในตำแหน่ง 5 อันดับแรกจากทุกอุตสาหกรรมในโลก เราได้รับสิทธิบัตรทั้งหมดถึง 87,805 ฉบับ ในสหรัฐอเมริกา เราได้จดทะเบียนสิทธิบัตรสำหรับเทคโนโลยีหลักถึง 11,152 ฉบับ เรามีส่วนร่วมอย่างแข็งขันต่อหน่วยงานกำหนดมาตรฐานมากกว่า 360 แห่ง ซึ่งเราเคยส่งข้อเสนอไปแล้วกว่า 54,000 ข้อเสนอ

ดังนั้นเราจึงเป็นบริษัทที่แข็งแกร่งที่สุดในด้านประสิทธิภาพของระบบโทรคมนาคม ผมเชื่อว่าสุดท้ายแล้วผู้คนจะทำการเปรียบเทียบด้วยตนเอง ระหว่างประเทศที่เลือก Huawei และประเทศที่ไม่ได้ร่วมงานกับ Huawei แน่นอนว่าเราไม่มีทางควบคุมการตัดสินใจของผู้คนได้

ในแง่ของ 5G วันนี้เราได้ลงนามในสัญญาเชิงพาณิชย์ไปแล้วมากกว่า 30 ฉบับ และเราได้ทำการจัดส่งสถานีฐาน 5G ไปแล้วกว่า 25,000 สถานี เรามีสิทธิบัตร 5G ถึง 2,570 ฉบับ ผมเชื่อว่า ตราบใดที่เราสร้างผลิตภัณฑ์ให้ออกมาน่าดึงดูดใจมาก ก็จะมีลูกค้าที่จะซื้อผลิตภัณฑ์นั้น

หากผลิตภัณฑ์ของคุณไม่ดี ไม่ว่าคุณจะทำการประชาสัมพันธ์อย่างหนักหน่วงมากเพียงใด ก็จะไม่มีใครซื้อผลิตภัณฑ์นั้น ดังนั้นสิ่งที่สำคัญต่อบริษัท Huawei มากกว่า คือการปรับปรุงการจัดการภายในบริษัทของเรา พัฒนาผลิตภัณฑ์ของเรา และพัฒนาบริการของเรา ผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่เราควรดำเนินการเพื่อรับมือกับความท้าทายของโลกใบนี้ที่กำลังเปลี่ยนแปลง

มีบริษัทไม่กี่แห่งบนโลกที่กำลังพัฒนาอุปกรณ์โครงสร้างพื้นฐาน 5G และมีไม่กี่บริษัทที่เริ่มใช้เทคโนโลยีไมโครเวฟ Huawei เป็นบริษัทเดียวในโลกที่สามารถผนวกรวมสถานีฐาน 5G เข้ากับเทคโนโลยีไมโครเวฟที่ล้ำหน้าที่สุดได้ ด้วยประสิทธิภาพดังกล่าว สถานีฐาน 5G ของเราจึงไม่จำเป็นต้องมีการเชื่อมต่อไฟเบอร์ด้วยซ้ำ แต่สามารถใช้ไมโครเวฟที่มีความเร็วสูงเพื่อรองรับช่องสื่อสารภาคพื้นดินที่มีแบนด์วิธกว้างเป็นพิเศษได้ นี่จึงเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาที่น่าดึงดูดใจ ซึ่งสมเหตุสมผลมากในมุมมองทางเศรษฐกิจ คลื่นจะใช้งานได้ดีที่สุดในพื้นที่ชนบทที่มีประชากรบางตา

เราไม่ควรทึกทักไปเองว่าพื้นที่ชนบทนั้นยากจน เขตที่อยู่อาศัยจำนวนมากในสหรัฐอเมริกามักอยู่ในบริเวณชนบท หากไม่มีไฟเบอร์ พวกเขาจะเพลิดเพลินกับประสบการณ์การรับชมทีวีด้วยความละเอียด 8K ในอนาคตได้อย่างไร หาก Huawei ไม่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง เขตเหล่านี้อาจต้องจ่ายเงินในราคาที่สูงมากเพื่อจะได้รับประสบการณ์ระดับนั้น เมื่อถึงเวลานั้น สิ่งต่างๆ ก็คงจะต่างออกไปมาก ประเทศเหล่านั้นอาจเข้ามาติดต่อ Huawei ด้วยความสมัครใจ และขอให้ Huawei ขายผลิตภัณฑ์ 5G ให้แก่ประเทศเหล่านั้น แทนที่จะห้ามไม่ให้ Huawei จำหน่ายระบบ 5G เราเป็นบริษัทที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ดังนั้นผมจึงคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่เราจะจำหน่ายอุปกรณ์ของเราให้กับประเทศเหล่านั้น

13. Arjun Kharpal จาก CNBC: คุณ Ren ผมเพียงต้องการที่จะพูดถึงประเด็นที่คุณกล่าวถึงก่อนหน้านี้ คุณบอกว่าหากรัฐบาลร้องขอการเข้าถึงข้อมูล หรือเพื่อติดตั้งช่องโหว่และเครือข่ายต่างๆ คุณจะปฏิเสธคำขอนั้น คุณจะไม่ปฏิบัติตาม แต่ในเมื่อคุณเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ คุณจะปฏิเสธสิ่งที่พวกเขาขอได้อย่างไร คุณมีหนทางใดในการต่อต้านคำขอใดๆ จากรัฐบาลจีนที่ให้กระทำสิ่งเหล่านี้ คุณมีหลักประกันใดที่คุณสามารถมอบให้แก่ลูกค้าของคุณได้บ้าง ว่าถ้าเกิดมีการร้องขอในทำนองนั้นขึ้นมาคุณจะสามารถปฏิเสธได้จริงๆ

คุณ Ren: เราเป็นบริษัท และเราเป็นธุรกิจ คุณค่าของธุรกิจต้องมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางและลูกค้าจะต้องมาก่อนเสมอ เราเป็นองค์กรธุรกิจ ดังนั้นเราจึงต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ทางธุรกิจ ภายใต้บริบทนั้น ผมไม่เห็นความเกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิดระหว่างความเชื่อทางการเมืองส่วนตัวของผม กับการดำเนินการทางธุรกิจที่ถือว่าเป็นจุดยืนของธุรกิจเลย ผมคิดว่าก่อนหน้านี้ผมได้ชี้แจงอย่างชัดเจนมากแล้ว แน่นอนว่าเราจะปฏิเสธคำขอประเภทนั้น หลังจากที่คุณเขียนประโยคนี้ลงในข่าวของคุณ อาจจะเป็นเวลา 20 หรือ 30 ปีต่อจากนี้ หากผมยังมีชีวิตอยู่ ผู้คนจะนำประโยคนี้ไปพิจารณาและเปรียบเทียบพฤติกรรมของผมกับประโยคนี้ รวมถึงพฤติกรรมของบริษัทของเราด้วยเช่นกัน

Arjun Kharpal จาก CNBC: คำถามนี้เป็นเพียงคำถามต่อเนื่องจากก่อนหน้านี้ อย่างที่คุณกล่าวมาว่า Apple เคยขึ้นศาลเพื่อต่อกรกับรัฐบาล ที่นี่มีระบบใดไหม ที่จะช่วยให้คุณสามารถขึ้นศาลกับรัฐบาลเพื่อต่อสู้กับคำขอดังกล่าวได้

คุณ Ren: หากผมหรือ Huawei ปฏิเสธคำขอเหล่านั้น ผมคิดว่าควรเป็นรัฐบาลที่เป็นฝ่ายยื่นฟ้องร้องต่อ Huawei ต่างหาก ไม่ใช่ในทางกลับกัน ไม่ว่ารัฐบาลจะยื่นฟ้องร้องทางกฎหมายหรือไม่ ผมก็ไม่ทราบ

14. Joseph Waring จาก Mobile World Live: สงครามการค้ากับสหรัฐอเมริกาดูเหมือนจะพัฒนากลายเป็นมากกว่าแค่สงครามการค้าแล้ว และเริ่มมีการกล่าวถึงคำว่า "สงครามเย็น" อยู่บ้าง เมื่อมองจากค่ายเทคโนโลยี อย่าง GSM และ CDMA เมื่อหลายปีก่อนผมเคยมีส่วนร่วมกับ CDMA คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับค่ายเทคโนโลยีทั้งสองค่าย สหรัฐอเมริกาและจีนจะเป็นผู้นำค่ายเทคโนโลยีเหล่านี้ ซึ่งได้รับแรงหนุนคล้ายกับที่เราเคยเห็นในแพลตฟอร์มมือถืออย่าง Android และ iOS หรือไม่

คุณ Ren: ผมขอยกตัวอย่างทางรถไฟมาเพื่อตอบคำถามนี้ เราเคยมีมาตรฐานที่หลากหลาย ทั้งรางรถไฟที่แคบ รางรถไฟแบบมาตรฐาน และรางรถไฟแบบกว้าง ซึ่งเพิ่มความยุ่งยากอย่างมากให้แก่อุตสาหกรรมการขนส่งทั่วโลก ในทำนองเดียวกันกับทางด้านการสื่อสาร เราก็ได้ก้าวผ่านช่วงเวลาที่เคยมีมาตรฐานที่แตกต่างกันในสมัยเดียวกัน การทำเช่นนั้นยังเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายในการปรับใช้งานเครือข่ายอีกด้วย เราเคยเห็นมาแล้วจาก 3G และ 4G เพื่อสร้างเครือข่ายการสื่อสารที่รวมเป็นหนึ่ง เราได้พยายามอย่างมากเพื่อคิดค้นมาตรฐานระดับสากลที่เป็นหนึ่งเดียว ผมคิดว่ามาตรฐาน 5G เป็นรากฐานที่ดีสำหรับมนุษยชาติในการก้าวไปสู่โลกที่ชาญฉลาด การแบ่งเทคโนโลยีออกเป็นสองค่ายที่ต่างกันโดยพลการ รังแต่จะสร้างผลเสียต่อผลประโยชน์ของโลกเพียงเท่านั้น ผมเชื่อในอุดมคติของสังคมเทคโนโลยีและบรรดานักวิทยาศาสตร์ รวมถึงปัญญาของบุคคลทางการเมืองที่เมื่อนำมารวมกันแล้ว จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของมนุษยชาติ โดยส่วนตัวแล้ว ผมสนับสนุนมาตรฐานระดับสากลที่เป็นหนึ่งเดียวกันอย่างมาก

15. Josh Chin จาก Wall Street Journal: ผมต้องการต่อยอดคำถามของเพื่อนร่วมงานผมจาก Associated Press เกี่ยวกับการกักตัวชาวแคนาดา และคดีของชาวแคนาดาที่เพิ่งถูกตัดสินประหารชีวิต ผมทราบดีว่าคดีเหล่านี้บางคดีไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Huawei แต่มีแนวความคิดที่ว่ามีความเกี่ยวข้องกับ Huawei ผมอยากทราบว่าคุณจะสามารถแสดงความคิดเห็นได้หรือไม่ ว่าคดีเหล่านั้นจะช่วยเหลือหรือทำลายโอกาสในการปล่อยตัวคุณ Meng แล้วจากนั้น สำหรับประเด็นดังกล่าว ผมแค่อยากพูดถึงความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างคุณกับคุณ Meng ในฐานะลูกสาวของคุณ และความสัมพันธ์นั้นแปรมาเป็นความสัมพันธ์ในสถานที่ทำงานที่ Huawei อย่างไรบ้าง

คุณ Ren: โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่เห็นความเชื่อมโยงใดๆ ระหว่างคดีเหล่านั้นกับคดีของ Meng ในส่วนคดีของ Meng ผมเชื่อว่าเราคงต้องปล่อยให้ผลลัพธ์เป็นไปตามการดำเนินการทางกฎหมายที่เหมาะสม

แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างผมกับ Meng จะเป็นฐานะพ่อและลูกสาวก็ตาม ผมคงพูดได้ว่าความสัมพันธ์เช่นนี้มีความใกล้ชิดในบางแง่มุม และในบางแง่มุมก็ไม่ค่อยใกล้ชิดเท่าไรนัก

ทำไมผมถึงบอกว่าไม่ค่อยใกล้ชิดมากนัก เพราะตลอดช่วงวัยเด็กของเธอผมอยู่ในกองทัพ ซึ่งหมายความว่าในแต่ละปีผมจะไม่อยู่บ้าน 11 เดือนและใช้เวลาหนึ่งเดือนกับครอบครัวของผม เพราะ Meng ต้องไปโรงเรียน และหลังเลิกเรียนเธอก็ต้องทำการบ้าน ดังนั้น ความสัมพันธ์ของเราในช่วงวัยเด็กและวัยรุ่นของเธอจึงไม่ได้แน่นแฟ้นขนาดนั้น นอกจากนี้ เมื่อผมเริ่มก่อตั้ง Huawei ผมต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของบริษัท ผมใช้เวลา 16 ชั่วโมงต่อวันในสำนักงาน ผมมีลูกชายหนึ่งคนและลูกสาวสองคน และผมไม่คิดว่าความสัมพันธ์ของผมกับลูกๆ มีความใกล้ชิดกันมากเท่าไร ในฐานะพ่อ ผมรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณลูกๆ ผมเคยพูดคุยกับลูกทุกคนอยู่ครั้งหนึ่ง ผมถามลูกๆ ว่าอยากใช้เวลาร่วมกันมากขึ้นในฐานะครอบครัวไหม ทางเลือกที่ผมมอบให้ลูกๆ คือ ผมจะสร้างรากฐานที่ช่วยให้ลูกๆ เติบโต คำตอบของลูกๆ ก็คือตกลง พวกเราจะเลือกการสร้างรากฐานเพื่อการพัฒนาทางวิชาชีพของเรา

ภายใน Huawei ระบบการบริหารของ Huawei มีพื้นฐานมาจากกระบวนการต่างๆ กระบวนการเป็นสิ่งที่ไม่ละเอียดอ่อน และผมไม่ได้กำกับดูแลความรับผิดชอบของคุณ Meng โดยตรง ดังนั้นเราจึงไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในที่ทำงานอีกเช่นเดียวกัน แน่นอนว่า อาจจะหลังจากที่ผมเกษียณอายุในอนาคต ผมจะพยายามชดเชยสิ่งเหล่านี้อย่างสุดความสามารถ

16. Gao Yuan จาก Bloomberg: คำถามที่ต่อเนื่องกับคำถามก่อนหน้านี้: คุณได้พูดถึงการเกษียณอายุ ขณะนี้คุณมีแผนที่จะเกษียณอายุแล้วหรือยัง และอีกสองคำถามที่เกี่ยวข้องกับสหรัฐอเมริกา ก่อนหน้านี้คุณได้ระบุว่าคุณไม่มีสิทธิในการเข้าถึงหรือมีช่องทางในการสนทนากับรัฐบาลสหรัฐฯ ขณะนี้เรามีสื่อต่างชาติหลายสำนักและนักข่าวมากมายมารวมตัวกันที่นี่ คุณมีสารใดที่ต้องการสื่อสารผ่านเราไปยังรัฐบาลสหรัฐฯ และคุณทรัมป์ยังได้กล่าวถึงหรือทวีตว่า เขาสามารถเข้าไปแทรกแซงในคดีของคุณ Meng ได้ ถ้าหากการกระทำดังกล่าวจะช่วยหนุนการเจรจาทางการค้ากับประเทศจีน คุณมีความคิดเห็นว่าอย่างไรบ้าง และคุณรู้สึกอย่างไรต่อคุณโดนัลด์ ทรัมป์ในฐานะคนๆ หนึ่ง

คุณ Ren: สำหรับคำถามแรกของคุณ ผมจะเกษียณอายุเมื่อไรนั้นขึ้นอยู่กับว่า Google จะสามารถคิดค้นยาชนิดใหม่ที่ทำให้ผู้คนมีชีวิตอยู่ตลอดไปได้เมื่อไร ผมกำลังรอยาชนิดนั้นอยู่

ส่วนคำถามที่สองของคุณ สารที่ผมต้องการสื่อสารไปยังสหรัฐอเมริกา คือผมต้องการการทำงานร่วมกันและประสบความสำเร็จร่วมกัน ในโลกแห่งเทคโนโลยีขั้นสูงของเรา การที่บริษัทเพียงแห่งเดียวหรือแม้แต่ประเทศใดประเทศหนึ่งเลือกจะทำทุกสิ่งด้วยตนเองนั้นเป็นไปได้น้อยลงมาก

ในยุคแห่งอุตสาหกรรม บางทีแค่ประเทศเพียงประเทศเดียวอาจมีความสามารถที่จำเป็นทั้งหมดในการผลิตเครื่องผลิตสิ่งทอที่สมบูรณ์ รถไฟทั้งขบวน หรือเรือทั้งลำได้ เราอยู่ในโลกแห่งสารสนเทศ ในสังคมแห่งสารสนเทศ การพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันนี้ คือสิ่งที่จะผลักดันสังคมมนุษย์ให้ก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น สังคมแห่งสารสนเทศที่เรากำลังจะได้เห็นนั้นจะมีความยิ่งใหญ่ และสำหรับโอกาสใดก็ตามที่มาจากตลาดเดียว จะไม่สามารถดำรงอยู่หรือได้รับแรงสนับสนุนจากบริษัทเพียงแห่งเดียวได้ แต่เป็นการเรียกร้องให้เกิดความร่วมมือกันระหว่างบริษัทนับพัน หรือแม้แต่นับหมื่นบริษัทให้ทำงานร่วมกัน

สำหรับคำถามที่สามของคุณ จากคำกล่าวของประธานาธิบดีทรัมป์ที่เขาอาจเข้ามาแทรกแซงในคดีของ Meng Wanzhou เราจำเป็นต้องรอดูว่าเขาจะดำเนินการกับเรื่องนี้หรือไม่ ตอนนี้ผมยังไม่สามารถตัดสินอะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้นได้

และสำหรับประธานาธิบดีทรัมป์ในฐานะคนๆ หนึ่ง ผมยังเชื่อว่าเขาเป็นประธานาธิบดีที่ยอดเยี่ยม ในแง่ที่ว่าเขากล้าที่จะสั่งลดภาษี ผมคิดว่าการกระทำเช่นนั้นจะนำไปสู่การพัฒนาในอุตสาหกรรมต่างๆ ของสหรัฐอเมริกา

และเนื่องจากมีการนำ AI เข้ามาใช้ในอุตสาหกรรมและการจัดการของบริษัทเพิ่มมากขึ้น บรรดาความท้าทายในสมัยก่อน เช่น สหภาพแรงงาน ปัญหาเกี่ยวกับสวัสดิภาพทางสังคม และแนวโน้มที่จะเกิดการนัดหยุดงานอาจลดลงได้

การลดภาษีจะนำไปสู่การส่งเสริมการลงทุน เหมือนกับการขุดร่องดินบนพื้น ที่ทำให้น้ำสามารถไหลลงไปในร่องนั้นได้อย่างง่ายดาย แต่ทว่าการปฏิบัติต่อทุกประเทศและทุกบริษัท ซึ่งเป็นผู้นักลงทุนที่มีศักยภาพ ให้ดีนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อประเทศและบริษัทเหล่านั้นจะได้ลงทุนในเชิงรุก ผลประโยชน์จากการลงทุนที่เพิ่มขึ้น สามารถชดเชยการสูญเสียรายได้จากการลดภาษีของรัฐบาลได้

หากประเทศหรือบริษัทต่างๆ เกิดความหวาดกลัว ยกตัวอย่างเช่น จากการกักตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่ง อาจทำให้นักลงทุนที่มีศักยภาพเหล่านั้นหลีกหนี และสภาพแวดล้อมที่เอื้อประโยชน์อันเนื่องมาจากการลดภาษีก็จะไม่ทำให้การดำเนินการเป็นไปตามที่คาดหวังไว้

17. Yuan Yang จาก Financial Times: มีหลายคนกล่าวว่าข้อกังขาที่รายล้อม 5G ของ Huawei ในยุโรปและสหรัฐอเมริกานั้น ไม่ได้เป็นเรื่องเทคโนโลยีทั้งหมด มันเกี่ยวข้องกับการเมืองด้วยเช่นกัน บางคนถึงกับโต้แย้งว่า Huawei ทำให้สงครามเย็นระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาเป็นรูปเป็นร่างขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบ คุณมีความเห็นอย่างไรกับประเด็นดังกล่าว

คุณ Ren: ก่อนอื่น ผมคงจะตอบว่า Huawei ไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น เราก็เหมือนกับเมล็ดงาเมล็ดเล็กๆ ที่ติดอยู่ตรงกลางของความขัดแย้งระหว่างสองฝั่งมหาอำนาจ เราสามารถมีบทบาทอะไรได้บ้าง ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ไม่เคยส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อธุรกิจของเรา มีการคาดการณ์ไว้ว่าเราจะเติบโตต่อไปในปี 2019 แต่การเติบโตดังกล่าวจะไม่มากไปกว่า 20%

ประการที่สอง พนักงานบางคนจากโลกตะวันตกเชื่อว่าอุปกรณ์ของ Huawei ประทับตราไว้ด้วยอุดมการณ์อะไรบางอย่าง การคิดเช่นนั้นถือว่าไร้สาระไม่ต่างจากการที่ผู้คนทำลายเครื่องจักรสิ่งทอสมัยยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม เพียงเพราะผู้คนเหล่านั้นเชื่อว่าเครื่องจักรสิ่งทอจะเป็นสิ่งที่ทำให้โลกแตกแยก เราเพียงจัดหาอุปกรณ์ให้แก่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมเท่านั้น และอุปกรณ์นั้นไม่มีอุดมการณ์ใดๆ อุปกรณ์นั้นควบคุมโดยผู้ให้บริการโทรคมนาคม ไม่ใช่โดย Huawei ดังนั้นผมจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้คนจะไม่ย้อนกลับไปยังยุคสมัยการปฏิวัติอุตสาหกรรม ที่มีการทำลายเครื่องจักรสิ่งทอ

18. Eamon Barrett จาก Fortune: ขอบคุณ ก่อนหน้านี้คุณได้พูดถึงความจำเป็นของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมทั่วโลก ในการผนวกรวมและเชื่อมต่อกัน มาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับ ZTE คู่แข่งของบริษัทคุณที่รัฐเป็นเจ้าของในปีที่แล้ว เมื่อการคว่ำบาตรจากสหรัฐอเมริกาส่งผลให้การผลิตของบริษัทลดลง คุณกังวลไหมว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่คล้ายกันนี้กับ Huawei ถ้าสหรัฐอเมริกากำหนดให้มีการคว่ำบาตร ธุรกิจของ Huawei จะหยุดชะงักหรือไม่ ประการที่สอง ผมทราบมาว่าสมัยที่ Huawei เพิ่งดำเนินกิจการใหม่ๆ และยังเป็นเพียงแค่ผู้ผลิตสวิตช์โทรศัพท์ คุณได้นัดพบกับคุณเจียง เจ๋อหมินและคุณได้บอกเขาว่าสวิตช์โทรศัพท์เกี่ยวข้องกับความมั่นคงแห่งชาติ และประเทศที่ไม่มีสวิตช์โทรศัพท์เป็นประเทศที่ไม่มีกองทัพเป็นของตนเอง ผมแค่อยากถามว่า คุณหมายความว่าอย่างไรที่กล่าวเช่นนั้น บางทีคุณอาจจะยังคิดว่าอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมที่ผลิตภายในประเทศนั้น มีความสำคัญต่อความมั่นคงของประเทศจีนใช่ไหม

คุณ Ren: เราลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาอย่างมหาศาลมาหลายปีแล้ว และเราได้พยายามมากขึ้นอย่างยิ่ง เราเป็นบริษัทที่แตกต่างจาก ZTE สิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับ ZTE ผมเชื่อว่าจะไม่เกิดขึ้นกับ Huawei และยิ่งไปกว่านั้น เราได้ชี้แจงไว้อย่างชัดเจนแล้วในนโยบายองค์กรและหลักการดำเนินธุรกิจขั้นพื้นฐานที่ว่าเราต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และระเบียบข้อบังคับที่บังคับใช้ทั้งหมดในประเทศที่เราเข้าไปดำเนินธุรกิจ ซึ่งรวมถึงกฎหมายและระเบียบข้อบังคับทั้งหมดเกี่ยวกับการควบคุมการส่งออก และการคว่ำบาตรจากองค์การสหประชาชาติ สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป เรามุ่งมั่นที่จะสร้างและพัฒนาระบบการปฏิบัติตามกฎระเบียบของเรา

หากเกิดสถานการณ์ประเภทนั้นกับ Huawei จริง มันอาจส่งผลกระทบต่อ Huawei แต่ผมคิดว่าผลกระทบนั้นอาจไม่สำคัญมากนัก เป็นเพราะผมเชื่อว่าผู้ให้บริการโทรคมนาคมทั่วโลกจะยังคงไว้วางใจเราต่อไป

ผมขอยกตัวอย่างขึ้นมาบางเรื่อง ตัวอย่างแรกคือเหตุสึนามิที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ที่เมืองฟุกุชิมะเคยเกิดเหตุกัมมันตรังสีนิวเคลียร์รั่วไหล มีการอพยพผู้คนออกจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ แต่เหล่าพนักงานของ Huawei ได้เข้าไปในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเพื่อกู้คืนอุปกรณ์โทรคมนาคม พนักงาน Huawei เสี่ยงชีวิตของตนและกู้คืนสถานีฐาน 680 แห่งได้ภายในสองสัปดาห์ ถือว่าเป็นการช่วยชีวิตครั้งสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนั้น ในช่วงเวลานั้น Meng Wanzhou ก็บินจากฮ่องกงไปยังญี่ปุ่นด้วย มีผู้โดยสารเพียงสองคนในเที่ยวบินนั้น Huawei เป็นบริษัทที่ไม่หนีหายเมื่อเกิดเหตุภัยพิบัติ ในทางกลับกัน เรากลับมุ่งเข้าไปสู่บริเวณที่ประสบเหตุภัยพิบัติเหล่านั้น

ตัวอย่างที่สองคือเหตุสึนามิในประเทศอินโดนีเซีย พนักงานของ Huawei 47 คน ได้กู้คืนสถานีฐาน 668 แห่งในบริเวณที่ได้รับผลกระทบภายใน 13 ชั่วโมง ซึ่งช่วยสนับสนุนความพยายามในการบรรเทาความเสียหาย

อีกตัวอย่างหนึ่งคือเหตุแผ่นดินไหวขนาด 9.1 ในประเทศชิลี พนักงานของ Huawei สามคนขาดการติดต่อ ณ บริเวณใจกลางที่เกิดเหตุแผ่นดินไหว ทีมงานท้องถิ่นถามความคิดเห็นจากผมเมื่อพวกเขากำลังจะส่งทีมเข้าไปช่วยเหลือ ผมคิดว่าอาจมีแผ่นดินไหวตามมาอีก และผมเกรงว่าจะเกิดความสูญเสียมากกว่าเดิมหากเราจะส่งทีมช่วยเหลือเข้าไป เราจึงตัดสินใจรออย่างอดทน สุดท้าย ทั้งสามคนดังกล่าวสามารถติดต่อหัวหน้างานของตนได้สำเร็จ หัวหน้างานผู้นั้นบอกพวกเขาว่าอุปกรณ์ไมโครเวฟที่ชำรุดอยู่ตรงไหน แล้วทั้งสามคนนั้นก็กลับมาเพื่อซ่อมแซมอุปกรณ์ไมโครเวฟ แล้วเราก็ได้ถ่ายภาพยนตร์สั้นที่อิงจากประสบการณ์ของพวกเขา หลังจากนั้น ผมไปที่ชิลีและพูดคุยกับพนักงานเหล่านั้น เศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในชิลีได้มอบไวน์คุณภาพยอดเยี่ยมให้แก่ผมเป็นของขวัญ ผมนำมันไปมอบให้พนักงานทั้งสามคน

อีกตัวอย่างหนึ่งคือที่แอฟริกา หลายๆ ประเทศในแอฟริกา นอกจากจะมีสงครามแล้วยังมีโรคที่ร้ายแรงมากอีกด้วย พนักงานของ Huawei หลายคนติดเชื้อมาลาเรีย พนักงาน Huawei หลายคนมักต้องลงพื้นที่สงคราม หรือพื้นที่ที่มีโรคระบาดเพื่อทำงานของพวกเขา เรามีภาพถ่ายเพื่อเป็นการพิสูจน์ หากคุณสนใจ เราสามารถให้พนักงานประชาสัมพันธ์ของเราส่งภาพถ่ายเหล่านั้นให้คุณได้

สาเหตุส่วนหนึ่งที่เราสามารถกระทำสิ่งเหล่านี้ได้เนื่องจากเราไม่ใช่บริษัทมหาชน ดังนั้นเราจึงสามารถดำเนินงานเพื่อสนองอุดมการณ์ของเราได้อย่างแท้จริงและเพื่อมอบสิ่งที่ดีกว่าให้แก่สังคมได้ บริษัทมหาชนมีแนวโน้มที่จะให้ความสนใจกับตัวเลขทางการเงินของบริษัทตนมากกว่า ดังนั้นไม่ว่าสภาพการทำงานจะยากลำบากเพียงใด เราก็ยังมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่ออุดมคติที่เหนือกว่าให้แก่สังคมมนุษย์

นอกจากนี้ผมยังได้ไปเยี่ยมชมหมู่บ้านหนึ่งที่อยู่ใกล้กับยอดเขาเอเวอร์เรสที่ระดับความสูง 5,200 เมตร เช่นเดียวกับสถานีฐานต่างๆ ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ผมบอกกับทุกคนว่า หากผมกลัวความตายเป็นการส่วนตัว แล้วผมจะจูงใจให้คนของผมก้าวไปข้างหน้าได้อย่างไร

หาก Huawei เป็นบริษัทมหาชน ผมคิดว่าผมคงไม่มีทางกระทำพฤติกรรมหลายอย่างที่ผมเพิ่งแบ่งปันกับคุณในตอนนี้ได้ ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา Huawei ได้สร้างผลงานที่น่าชื่นชมอย่างมากต่อความก้าวหน้าของผู้คนทั่วโลก โดยเฉพาะผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ยากจนและห่างไกล คนของเราบางคนได้สละชีวิตของตนด้วยซ้ำ ผู้คนเหล่านั้นไม่ควรถูกลืม ในทำนองเดียวกัน เราก็ไม่ควรลืมผลงานที่ Huawei ได้มอบให้แก่สังคมของมนุษย์ และที่สำคัญไปกว่านั้น เราไม่ควรปล่อยให้ข้อกังขาสร้างความสับสนต่อข้อเท็จจริง

สำหรับคำถามที่สองของคุณ ประธานาธิบดีเจียง เจ๋อหมินเคยมาเยือน Huawei ครั้งหนึ่ง ช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่ Huawei ยังมีขนาดเล็ก เล็กมาก และพื้นก็ปูด้วยซีเมนต์ที่ยังเปียกอยู่ ยังไม่ทันแห้งเลยด้วยซ้ำ ประธานาธิบดีเจียงไม่ได้ให้คำแนะนำใดๆ เป็นพิเศษ ผมไม่เคยได้ยินสิ่งที่คุณเพิ่งพูดถึงเมื่อสักครู่นี้ แต่เขาก็ได้ปลุกใจให้เราทำงานหนักขึ้น

19. Josh Chin จาก Wall Street Journal: คุณคิดจะให้ใครมาสืบทอดตำแหน่ง CEO ของ Huawei ต่อจากคุณ คำถามที่สองเกี่ยวกับบทบาทของคุณในการจัดตั้งวัฒนธรรมของ Huawei ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีความดุดัน พร้อมกับมาตรฐานที่สูง และผู้คนเรียกมันว่า "วัฒนธรรมหมาป่า" คุณมีบทบาทอะไรในการหล่อหลอมวัฒนธรรมของ Huawei เหตุใดวัฒนธรรมของ Huawei จึงมีความสำคัญ

คุณ Ren: เหตุผลเดียวที่ Huawei ดำรงอยู่ก็เพื่อบริการลูกค้าของเรา อำนาจหน้าที่คือสารขับดันและสารหล่อลื่นที่ขับเคลื่อนค่านิยมที่เรามีร่วมกัน ผู้ที่จะรับช่วงต่อความเป็นผู้นำระดับสูงสุด และผู้ที่จะมีอำนาจหน้าที่อยู่ในมือ จะทำหน้าที่เป็นสารขับดันและสารหล่อลื่นเพื่อขับเคลื่อนค่านิยมที่เรามีร่วมกันไปข้างหน้า หากไม่มีการยับยั้งอำนาจหน้าที่ด้วยความยับยั้งชั่งใจ มันจะบั่นทอนหรือถึงขั้นทำลายค่านิยมที่เรามีร่วมกัน ดังนั้นมาตรการการกำกับดูแลของเราจึงออกแบบมาพร้อมกับแนวคิดเพื่อการตระหนักถึงฝ่ายผู้มีอำนาจ ความคืบหน้าร่วมกัน และการตรวจสอบและถ่วงดุล วิธีนี้จะทำให้แน่ใจว่าอำนาจหน้าที่จะหมุนเวียนในวัฏจักรแบบปิด และเริ่มต้นใหม่ด้วยตนเองจากการหมุนเวียนในแต่ละครั้ง

บริษัทไม่สามารถฝากอนาคตของตนไว้กับบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้ หากบุคคลดังกล่าวประสบปัญหา ก็หมายความว่าการดำเนินงานของบริษัทเราก็จะต้องหยุดชะงักไปด้วยใช่ไหม ท่ามกลางอนาคตที่ไม่แน่นอนในสภาพแวดล้อมที่เราเอาชีวิตรอดและเติบโต เราต้องยึดถือหลักการเป็นผู้นำร่วมกันเอาไว้เพื่อที่เราจะได้สามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ และประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องได้

พละกำลังและความต่อเนื่องของกลไกหลักการเป็นผู้นำร่วมกันนี้ จะสำเร็จลุล่วงได้จากการสืบทอดตามลำดับขั้น ดังที่ผมได้กล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ว่า ในปีนี้เราได้จัดการเลือกตั้งที่มีพนักงาน 96,768 คนจากมากกว่า 170 ประเทศและภูมิภาคต่างๆ เข้าร่วม โครงสร้างการปกครองทั้งหมดนี้มีไว้เพื่อสร้างสถาบันผู้มีอำนาจใหม่ ดังนั้น เราจึงมองหาการสืบทอดในระดับสถาบันและใช้วิธีนั้นเพื่อรับรองว่าค่านิยมที่เรามีร่วมกัน โดยเฉพาะการมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางและการสร้างคุณค่าจากลูกค้า จะได้รับการปกป้องและได้รับการสืบทอด

เรามีโครงสร้างของการปกครองที่แตกต่างกันหลายชั้น บทบาทและความรับผิดชอบต่างๆ ของการปกครองในแต่ละระดับมีความแน่วแน่และชัดเจน มีการแบ่งอำนาจหน้าที่ออกเป็นหลายฝ่าย และในขณะเดียวกันก็มีการดำเนินการตรวจสอบและดำรงความสมดุลเอาไว้ด้วย ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้อำนาจหน้าที่มีกระจุกรวมมากเกินไป

นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันการใช้อำนาจหน้าที่โดยไร้ข้อจำกัด และขัดขวางไม่ให้มีการนำไปใช้ในทางที่ผิดอีกด้วย ตัวอย่างเช่น หน่วยงานกำกับดูแลหน่วยงานหนึ่งที่อยู่ภายใน Huawei คือหน่วยงานที่เราเรียกว่า Core Elite Group สมาชิกของ Core Elite Group เคยเป็นสมาชิกคณะกรรมการบริหาร และสมาชิกของคณะกรรมการกำกับดูแลมาก่อน Core Elite Group มีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องผลประโยชน์ระยะยาวของ Huawei และได้รับความไว้วางใจด้วยการมอบอำนาจให้เลือกหัวหน้าหน่วยงานกำกับดูแลอีกด้วย ณ ช่วงเวลาที่เราออกแบบโครงสร้างการปกครองนี้ เราได้รับแรงบันดาลใจจาก Fredmund Malik กูรูผู้มีชื่อเสียงด้านการบริหารจากยุโรป นอกจากนี้เรายังได้รับแรงบันดาลใจจากโครงสร้างการปกครองของบริษัทอื่นๆ ทั้งในยุโรปและทั่วโลกอีกด้วย

สมาชิกคณะกรรมการบริหารจะได้รับเลือกตามหลักคุณธรรม ความรับผิดชอบของพวกเขาคือการปลูกพืชให้เยอะขึ้น หรือเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ผืนดินของเรา พวกเขาควรจะนำทางบริษัทไปข้างหน้า เมื่อเราเลือกสมาชิกคณะกรรมการ ระดับความอาวุโสไม่ใช่เรื่องสำคัญ สมาชิกของคณะกรรมการกำกับดูแลจะได้รับเลือกตามความซื่อสัตย์ พวกเขาจะดูแลประสิทธิภาพการทำงานของคณะกรรมการบริหารและผู้บริหารอาวุโสคนอื่นๆ นี่คือความหมายของการหมุนเวียนอำนาจหน้าที่ในวัฏจักรแบบปิด และเริ่มต้นใหม่ด้วยตนเองจากการหมุนเวียนทุกครั้ง

ปัจจุบันเรามีประธานกรรมการบริหารแบบหมุนเวียนตามวาระอยู่สามคน แต่ละคนจะสลับกันเข้ามาบริหารเป็นระยะเวลาหกเดือน ในช่วงเวลาหกเดือนดังกล่าว บุคคลนั้นจะเป็นผู้นำระดับสูงสุดของ Huawei แต่ผู้นำระดับสูงสุดคนนั้นก็อยู่ภายใต้กฎหมายของบริษัทเราด้วย กฎหมายนั้นก็คือมาตรการกำกับดูแลของเรา ส่วนอำนาจหน้าที่ของประธานกรรมการบริหารแบบหมุนเวียนตามวาระและประธานรักษาการก็ขึ้นอยู่กับกลไกการตัดสินใจแบบส่วนรวมของเราอีกเช่นกัน กล่าวคือ ประธานกรรมการบริหารแบบหมุนเวียนตามวาระและประธานรักษาการมีสิทธิ์ที่จะเสนอญัตติ จากนั้นญัตติเหล่านี้ก็จะถูกนำไปหารือในกลุ่มประธานหมุนเวียนทั้งสามคน ก่อนที่จะนำไปเสนอต่อคณะกรรมการผู้บริหารของคณะกรรมการบริหาร

คณะกรรมการผู้บริหารประกอบไปด้วยผู้บริหารเจ็ดคน พวกเขาจะลงคะแนนเสียง และญัตติใดๆ ก็ตามจะต้องได้รับคะแนนเสียงส่วนใหญ่เสียก่อนจึงจะสามารถนำไปนำเสนอในที่ประชุมใหญ่ของคณะกรรมการบริหารได้ ในระหว่างการประชุมใหญ่ของคณะกรรมการบริหาร เราก็ดำเนินตามหลักการเสียงส่วนใหญ่ด้วยเช่นกัน ไม่มีญัตติใดที่จะกลายเป็นมติของคณะกรรมการได้ จนกว่าจะผ่านการลงคะแนนเสียงหรือการตัดสินใจในที่ประชุมใหญ่

นอกจากประธานกรรมการบริหารแบบหมุนเวียนตามวาระและประธานรักษาการแล้ว เรายังมีประธานของคณะกรรมการอีกด้วย ประธานของคณะกรรมการจะเป็นผู้ดูแลตัวแทนคณะกรรมาธิการ เพื่อให้แน่ใจว่าคณะกรรมการผู้บริหารและคณะกรรมการบริหารทั้งหมดได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กำหนดไว้ในมาตรการกำกับดูแล

นอกจากนี้เรายังมีคณะกรรมการกำกับดูแลที่คอยตรวจสอบพฤติกรรมสมาชิกคณะกรรมการบริหารอีกด้วย ดังนั้นเพื่อตอบคำถามของคุณ ผมจึงไม่ทราบว่าผู้สืบทอดตำแหน่งของผมคือใคร โดยธรรมชาติแล้วผู้สืบทอดตำแหน่งจะปรากฏขึ้นมาเองในระหว่างการหมุนเวียนนี้ และกระบวนการเริ่มต้นอำนาจหน้าที่ใหม่ ซึ่งไม่ใช่คนที่ผมแต่งตั้ง ผมไม่ใช่พระราชา

20. Arjun Kharpal จาก CNBC: ผมแค่อยากถามเกี่ยวกับภาพรวมทางธุรกิจของคุณในปีนี้ ผมทราบว่ามันไม่ได้เป็นวิธีการดำเนินธุรกิจโดยทั่วไปของ Huawei แต่ส่วนตัวแล้วคุณมีมุมมองอย่างไรบ้าง จากที่บริษัทคู่แข่งของคุณในยุโรปบางรายกำลังประสบกับอุปสรรค อย่างเช่นบริษัท Ericsson เป็นต้น มุมมองดังกล่าวจะช่วยให้คุณกระจายธุรกิจหรือไม่ คุณช่วยเผยผลคาดการณ์รายได้สำหรับปี 2019 ที่คุณกำหนดเป้าหมายเอาไว้ได้ไหม

คุณ Ren: ในปี 2019 เราอาจเผชิญกับความท้าทายและความยากลำบากในตลาดต่างประเทศ จึงเป็นเหตุผลที่ผมเคยบอกเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า การเติบโตของเราในปีหน้าจะน้อยกว่า 20% และผมคิดว่ารายได้ประจำปี 2019 ของเราอาจจะมีมูลค่าราว 1.25 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เราจะไม่ฉวยโอกาสจากความยากลำบากที่บริษัทสหายของเราอย่างเช่น Nokia และ Ericsson กำลังประสบอยู่เพื่อคว้าส่วนแบ่งในตลาดของพวกเขา และผมยังคิดว่าสิ่งแวดล้อมมหภาคเอื้ออำนวยให้แก่พวกเขา เนื่องจากบางประเทศมีข้อจำกัดสำหรับ Huawei แต่กลับไม่มีข้อจำกัดสำหรับบริษัทเหล่านั้น ดังนั้นผมจึงเชื่อว่าพวกเขาอาจมีโอกาสมากกว่า Huawei

21. Yuan Yang จาก Financial Times: มีคำถามหลายข้อที่เกี่ยวข้องกับกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) ความสัมพันธ์ระหว่างคุณ Sun Yafang กับกระทรวงความมั่นคงของจีนเป็นอย่างไร และความสัมพันธ์ดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ Huawei อย่างไร ข้อที่สอง ความร่วมมือทางธุรกิจของคุณกับ PLA หรือสถาบันที่เกี่ยวข้องกับ PLA เป็นอย่างไร หากมีการร่วมมือกัน คุณจัดหาผลิตภัณฑ์ประเภทใดให้แก่พวกเขาบ้าง ข้อที่สาม ระหว่าง Huawei และสถาบันที่เกี่ยวข้องกับ PLA มีการร่วมมือกันหรือเป็นหุ้นส่วนด้านการวิจัยและพัฒนาใดๆ หรือไม่

คุณ Ren: สำหรับคำถามแรก มีการระบุประวัติส่วนตัวของคุณ Sun Yafang ไว้อยู่ในเว็บไซต์ของ Huawei คำถามที่สอง เราอาจมีการขายสินค้าพลเรือนจำนวนเล็กน้อยให้แก่ PLA แต่ผมไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัดเพราะเขาไม่ใช่ลูกค้ารายใหญ่ของเรา ประการที่สาม เราไม่ได้ร่วมมือกันหรือเป็นหุ้นส่วนกันในด้านการวิจัยและพัฒนากับสถาบันที่เกี่ยวข้องกับ PLA

22. Josh Chin จาก Wall Street Journal: ผมแค่อยากถามคำถามทั่วไป คุณได้พูดเกี่ยวกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และสิ่งแวดล้อมด้านการลงทุนในสหรัฐอเมริกา คุณมีมุมมองอย่างไรเกี่ยวกับปัญหาสงครามการค้า ซึ่งเป็นช่องทางของบริษัทสัญชาติอเมริกาในการเข้าถึงตลาดประเทศจีน ในปัจจุบันการลงทุนของต่างประเทศในภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับ Huawei ซึ่งก็คือระบบคลาวด์ ค่อนข้างมีข้อจำกัด คุณคิดว่าจีนควรเปิดโอกาสให้บริษัทต่างประเทศเข้ามาหรือไม่ และการกระทำดังกล่าวจะส่งผลต่อบริษัทเทคโนโลยีของประเทศจีนอย่างไรบ้าง

คุณ Ren: ผมเป็นบุคคลที่สนับสนุนนโยบายแบบเปิดกว้างอยู่เสมอ แต่ผมไม่ใช่ผู้ที่จะเป็นคนตัดสินใจ

ผมสามารถเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้คุณฟังได้ ในปี 2003 มีการฟ้องร้องระหว่าง Huawei และ Cisco เกิดขึ้น ซึ่งได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางในตอนนั้น สมัยนั้น บริษัท Huawei ยังคงเป็นบริษัทที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก ผมพูดได้เลยว่าเราต้องรับมือกับคดีนั้นซึ่งเป็นคดีที่ใหญ่เกินตัว และส่วนตัวผมก็รู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลที่โดยส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการขาดประสบการณ์ อย่างไรก็ตาม แม้แต่ในสมัยนั้น ผมก็ไม่ได้พยายามที่จะเอาชนะคดีนี้ด้วยการอ้างถึงแรงกระตุ้นภายในชาติเพื่อต่อกรกับ Cisco หลายปีต่อมา ณ การประชุมที่สนามบินที่ผมได้พบกับคุณ John Chambers เขาบอกผมว่าเขาตระหนักถึงทัศนคติของ Huawei ต่อ Cisco ในขณะนั้น ทั้งนี้เพราะเราเชื่อว่าประเทศจีน ในฐานะประเทศหนึ่ง จะมีความหวังก็ต่อเมื่อมีการเปิดประเทศและปรับใช้นโยบายการปฏิรูป จีนไม่ควรปิดประเทศเอาไว้เพียงเพื่อบริษัทเดียวคือ Huawei

เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงอันไม่คาดคิดขึ้น อย่างเช่นการที่บริษัทในสหรัฐฯ ตัดสินใจหยุดซื้อโทรศัพท์ Huawei อย่างฉับพลัน ผู้คนจากจีนบางคนกล่าวว่าเราควรกระทำอย่างเดียวกันกับ iPhone ของ Apple ในประเทศจีน ผมมีความเห็นว่ารัฐบาลจีนไม่ควรใช้มาตรการที่คล้ายคลึงกันต่อ Apple ในประเทศจีน อย่ายอมเสียผลประโยชน์หรือนโยบายของประเทศท่ามกลางการปฏิรูปเศรษฐกิจและการเปิดประเทศ เพียงเพื่อผลประโยชน์ของ Huawei กระทั่งจากอุปสรรคที่เราเพิ่งเผชิญล่าสุดในบางประเทศฝั่งตะวันตก เราก็ยังคงสนับสนุนให้ประเทศจีนเปิดกว้างยิ่งขึ้นในฐานะประเทศหนึ่ง ผมคิดว่าจีนจะเจริญรุ่งเรืองขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการเปิดกว้างมากขึ้น และเดินหน้าต่อไปพร้อมกับแผนการเพื่อการปฏิรูปประเทศ

กล่าวสรุปโดยคุณ Ren: ผมอยากขอบคุณทุกท่านที่สละระยะเวลาอันยาวนานมาเพื่อฟังผม ผมรู้ว่าผมไม่ได้ตอบอย่างแม่นยำเสมอไป แต่ผมคิดว่านี่เป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมที่เราจะได้ทำความรู้จักกันและกันให้ดียิ่งขึ้น

และผมก็เชื่อว่าในอนาคตจะมีโอกาสให้เราได้พบเจอกันอีก ในอนาคตเราอาจได้เจาะลึกประเด็นของบางคำถามอีกก็เป็นได้ ผมคิดว่าวันนี้เราได้พูดถึงหัวข้อต่างๆ มากมาย และด้วยการถามคำถามที่กว้างขึ้น ผมคิดว่าคุณได้ช่วยเหลือผมอย่างมาก ผมมักกังวลกว่านี้กับคำถามประเภทสอบสวนที่มีคำถามต่อเนื่องหลายๆ ข้อ หลังจากการพบปะของเราวันนี้ ผมคิดว่าเราสามารถไปดื่มกาแฟด้วยกันได้สักวันหนึ่ง และพูดคุยเรื่องทั่วไปมากกว่านี้ แต่ทว่า โปรดอย่านำการพูดคุยทั่วไปเหล่านั้นไปพาดหัวข่าวเลย ผมเชื่อว่าเราจะได้สนทนากันอย่างเปิดใจมากขึ้น ผมต้องขอขอบคุณพวกคุณทุกคนอย่างจริงใจอีกครั้ง