การแถลงข่าวสื่อมวลชน โดย มร. เคน หู

2018.12.19

ท่ามกลางการรายงานข่าวจากสื่อต่างๆ ทั่วโลกเกี่ยวกับความท้าทายที่เกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศ มร. เคน หู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หมุนเวียนตามวาระ ได้จัดงานแถลงข่าวกับสื่อชั้นนำระดับโลกขึ้นที่แคมปัสแห่งใหม่ของหัวเว่ยในเมืองตงกวนเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พร้อมกับเปิดห้องปฏิบัติการด้าน R&D เพื่อจัดแสดงอุปกรณ์ที่พัฒนาขึ้นสำหรับ 5G และห้องปฏิบัติการอิสระด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ให้สื่อมวลชนได้เข้าชมเป็นครั้งแรก สื่อถึงการเปิดกว้างมากยิ่งขึ้น โดยมีสื่อมวลชนแขนงต่างๆ เข้าร่วมงานแถลงข่าวรวม 22 ราย ทั้งจากสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย ได้แก่ Financial Times, CNN, CNBC, Reuters, Fortune และ Nikkei

มร. หู ได้แสดงความมั่นใจถึงการเติบโตทางธุรกิจและโอกาสได้ลูกค้าใหม่ของหัวเว่ย โดยอ้างถึงความไว้วางใจจากผู้ประกอบการเครือข่ายหลายร้อยราย เกือบครึ่งหนึ่งของบริษัทในทำเนียบ Fortune 500 และผู้บริโภคหลายร้อยล้านคน รวมถึงรายได้ของบริษัทที่คาดว่าจะเกินกว่า 100 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี พ.ศ. 2561  เขาได้กล่าวถึงข้อกล่าวหาที่มีต่อหัวเว่ยโดยตรง โดยระบุว่าการให้ข้อเท็จจริงพูดออกมาเองนั้นเป็นวิธีการที่ดีที่สุด ในขณะเดียวกันก็เน้นย้ำว่าประวัติด้านความปลอดภัยของบริษัทนั้นขาวสะอาด ในช่วง 30 ปีไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกี่ยวกับความปลอดภัยด้านไซเบอร์

ต่อไปนี้เป็นไฮไลต์จากงานแถลงข่าว:

-        ด้าน 5G หัวเว่ยได้ทำสัญญาเชิงพาณิชย์กับลูกค้า 25 รายและเป็นผู้นำตลาด โดยมีการส่งมอบสถานีฐานไปแล้วกว่า 10,000 สถานี  ลูกค้าเครือข่ายเกือบทั้งหมดได้ระบุว่า พวกเขาต้องการหัวเว่ย เพราะหัวเว่ยเป็นผู้นำตลาดที่มีอุปกรณ์ที่ดีที่สุดสำหรับการอัพเกรดไปสู่ 5G ที่รวดเร็วและคุ้มค่ากว่า อย่างน้อยก็ในช่วง 12 – 18 เดือนข้างหน้า สำหรับข้อกังวลด้านความปลอดภัยในเรื่องของเทคโนโลยีสำหรับ 5G บริษัทได้ปฏิบัติตามระเบียบข้อกฎหมายอยู่แล้ว แต่ก็สามารถชี้แจงหรือแก้ไขได้ด้วยการทำงานร่วมกับโอเปอเรเตอร์และรัฐบาล สำหรับ “กรณีที่พบได้น้อยมาก” ที่บางประเทศได้นำเอาประเด็น 5G มาเป็นข้อต่อรอง โดยอ้างข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลจาก “การพิจารณาอุดมการณ์หรือบริบททางการเมือง” เป็นสำคัญ ในขณะที่ความกังวลด้านความปลอดภัยอื่น ๆ ที่ถูกยกขึ้นมาเป็นข้ออ้างเพื่อปิดกั้นการแข่งขันในตลาดก็จะทำให้การนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ล่าช้าออกไปอีก ทำให้ต้นทุนในการติดตั้งใช้งานเครือข่ายเพิ่มสูงขึ้น และทำให้ผู้บริโภคมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น จากข้อมูลของนักเศรษฐศาสตร์บางท่าน หากหัวเว่ยสามารถเข้าร่วมแข่งขันในการติดตั้งเครือข่าย 5G ได้ในอเมริกาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 จนถึงปี พ.ศ. 2563 จะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายด้านเงินลงทุนในโครงข่ายไร้สายได้ถึง 20,000 ล้านดอลลาร์

-        ความปลอดภัยด้านไซเบอร์ ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดเหนือสิ่งอื่นใด  มร. หู ได้เปิดโอกาสให้มีการซักถามเกี่ยวกับการสร้างศูนย์ประเมินความปลอดภัยด้านไซเบอร์ในประเทศต่าง ๆ อาทิ สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย  และยังได้กล่าวถึงศูนย์ดังกล่าวในสหราชอาณาจักร แคนาดา และเยอรมนี ในระหว่างการชี้แจงและไขข้อสงสัยเกี่ยวกับความกังวลในเรื่องดังกล่าว  หัวเว่ยเองก็มีการตรวจสอบภายในองค์กรที่เข้มงวดที่สุด และยังมีการตรวจสอบโดยหน่วยงานที่กำกับดูแลรวมถึงลูกค้า  ควบคู่ไปกับการทำความเข้าใจข้อกังวลต่างๆ  อย่างไรก็ดี ไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่บ่งชี้ว่าอุปกรณ์ของเราเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคง ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศของจีนก็ได้ชี้แจงอย่างเป็นทางการไปแล้วว่า ไม่มีข้อกฎหมายใดที่บังคับให้บริษัทต่างๆ ต้องสร้างช่องโหว่สำคัญในซอฟต์แวร์  หัวเว่ยเองก็พร้อมรับฟังข้อกังวลต่างๆ ในเรื่องการเปิดกว้าง ความโปร่งใส และความเป็นอิสระ รวมไปถึงการพูดคุย  ซึ่งหากมีข้อพิสูจน์หรือหลักฐานใด ๆ ก็สามารถนำมาแสดงกับผู้ให้บริการโทรคมนาคม หัวเว่ยหรือสาธารณะได้

-        การปฏิบัติตามกฎหมาย สื่อมวลชนได้ถามถึงเรื่องของเมิ่ง หว่านโจ่ว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน มร. หู กล่าวว่า เขาไม่สามารถแสดงความคิดเห็นใดๆ ในเรื่องนี้ เนื่องจากอยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย การดำเนินธุรกิจยังไม่มีผลกระทบใดๆ  แผนการเดินทางต่างๆ ของผู้บริหารยังคงเป็นไปตามเดิม  หัวเว่ยมั่นใจเป็นอย่างมากในขั้นตอนการปฏิบัติตามกฎหมายการค้าของบริษัทซึ่งเริ่มใช้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 บริษัทมีความเชื่อมั่นในความยุติธรรมและเป็นอิสระของกระบวนการตุลาการในแคนาดาและสหรัฐอเมริกา

มร. หู ได้บรรยายถึงความสำเร็จล่าสุดของบริษัทว่า เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้น และย้ำถึงการทำงานเกือบ 30 ปีของเขากับหัวเว่ยในช่วงที่มีการเพิ่มคน ก่อเกิดวัฒนธรรมองค์กร และการบริหารจัดการที่ก้าวหน้าขึ้น “นี่คือการเดินทางของการเปลี่ยนผ่านที่ช่วยให้เราได้เติบโตจากผู้จำหน่ายที่ไม่เป็นที่รู้จัก มาเป็นผู้นำในด้าน 5G

นอกจากนี้ เขายังตระหนักว่า ปัญหาความท้าทายต่างๆ ยังมีอยู่ และขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้ความสนใจมาร่วมพูดคุย รวมถึงพนักงานของหัวเว่ย ลูกค้าและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย “ผมขอยกคำพูดของโรแมง โรลองด์ (นักเขียนชาวฝรั่งเศสที่ได้รับรางวัลโนเบลด้านงานเขียนในปี พ.ศ. 2458) ว่า “ความกล้าหาญเพียงหนึ่งเดียวในโลกนี้คือ การมองโลกอย่างที่มันเป็น และจงรักมัน”  สำหรับหัวเว่ยก็เช่นกัน เรามองสิ่งที่เราต้องเผชิญและเราก็ยังรักงานที่เราทำอยู่ ในภาษาจีน ก็มีคำพูดที่ว่า "道阻且长,行且将至." ซึ่งหมายถึง ถนนข้างหน้านั้นยากลำบากและยาวไกล แต่เราก็จะเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ จนถึงจุดหมาย เพราะเราได้ก้าวเข้ามาในเส้นทางนี้แล้ว”

คำกล่าวเปิดพิธี

มร. เคน หู:  สวัสดีตอนบ่ายครับทุกๆ ท่าน  ขอต้อนรับเข้าสู่แคมปัสแห่งใหม่ของพวกเรา  นี่คือแคมปัสที่ใหญ่ที่สุดในโลกของเรา เราได้สร้างศูนย์การผลิตแห่งใหม่ของเราขึ้นที่นี่ รวมไปถึงศูนย์ฝึกอบรมและศูนย์ R&D และเราได้ย้ายพนักงานของเราจำนวนมากจากเซินเจิ้นมาที่ตงกวนนี้  สิ่งที่ผมได้รู้ก็คือ พนักงานของเรารู้สึกตื่นเต้นมากกับแคมปัสใหม่แห่งนี้

ผมเชื่อว่า เมื่อช่วงเช้าพวกคุณคงได้สนุกกับการเยี่ยมชมห้องแล็บเทคโนโลยี และห้องปฏิบัติการด้านความปลอดภัยที่นี่ของเราไปแล้ว  ครั้งหน้าที่คุณมาที่นี่ เรายินดีที่จะพาคุณนั่งรถไฟเล็กๆ ทัวร์แคมปัสที่สวยงามของเรา นี่เป็นแคมปัสริมทะเลสาบที่งดงามมาก  ผมรู้ว่าช่วงเทศกาลเป็นช่วงที่ยุ่งมากสำหรับพวกคุณทุกคน ผมต้องขอขอบคุณที่ได้สละเวลามาเจอพวกเราในวันนี้

ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมายเลย ใช่มั้ยครับ  และผมเชื่อว่าวันนี้พวกคุณต้องมีคำถามมากมายในระหว่างการพูดคุยของเรา   ก่อนที่เราจะเริ่ม ผมขอถือโอกาสนี้ให้ข้อมูลความก้าวหน้าทางธุรกิจของเราในปีนี้กันก่อนที่จะเข้าไปสู่ในช่วงการถาม-ตอบ  

ปีนี้ธุรกิจของเราถือว่าดีมาก  เราค่อนข้างแน่ใจว่า ปลายปีนี้รายได้รวมของเราจะสูงกว่าหนึ่งแสนล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ

นี่ถือเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของเรา เป็นครั้งแรกที่รายได้ยอดขายของเราสูงเกินกว่าแสนล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ และกลุ่มธุรกิจต่างๆ ของเราก็มีการเติบโตที่น่าพอใจมากเช่นกัน

ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจโทรคมนาคมของเรา ซึ่งสร้างยอดขายส่วนใหญ่ที่สุดของบริษัท เราได้ลงนามสัญญา5G เชิงพาณิชย์แล้วกว่า 25 ฉบับ โดยตอนนี้เราเป็นอันดับหนึ่งในด้านสัญญาเชิงพาณิชย์ 5G  และนี่คือผลลัพธ์ของนวัตกรรมเทคโนโลยีชั้นนำของเราสำหรับทั้งอุตสาหกรรม และเราได้เริ่มส่งมอบอุปกรณ์ 5G ไปทั่วโลกแล้ว อันที่จริงพวกเราได้ส่งมอบฐานสถานีฐาน 5G ไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกแล้วกว่า 10,000 สถานี

ธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของเราก็เห็นความก้าวหน้าดีมากเช่นกัน  เราได้สัญญาจากบริษัทชั้นนำระดับโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ  ปีนี้ องค์กรกว่า 200 แห่งในทำเนียบ Fortune 500 ได้เลือกหัวเว่ยเป็นผู้จำหน่ายสำหรับการปรับเปลี่ยนด้านดิจิทัลของพวกเขา นี่ก็เป็นการก้าวไปข้างหน้าที่สำคัญอีกก้าวหนึ่งเช่นกัน

สำหรับธุรกิจคอนซูมเมอร์ เราทุกคนก็รู้ว่ายอดขายสมาร์ทโฟนของเรานั้นดีมาก  ปีนี้เรามีรายได้ยอดขายและการส่งมอบเพิ่มขึ้นมากจากการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแฟลกชิพของเรา ซึ่งก็คือ P20 และ Mate 20 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่นี้ได้นำฟังก์ชั่นที่น่าทึ่งมาสู่ตลาด ซึ่งรวมทั้งกล้องคุณภาพสูง และโดยเฉพาะ AI

ดังนั้นในกลุ่มธุรกิจทั้งสามกลุ่ม เรามีการเติบโตที่น่าพึงพอใจมากปีนี้  โดยเฉพาะในเดือนตุลาคม เป็นครั้งแรกที่เราประกาศเปิดตัวโซลูชั่น AI แบบเต็มรูปแบบ รองรับการทำงานทุกสถานการณ์ 

เราได้ทุ่มเทพัฒนาปัญญาประดิษฐ์มานับสิบปีแล้ว  ปีนี้เราจึงได้ประกาศเปิดตัวโซลูชั่นเต็มรูปแบบ และรองรับทุกสถานการณ์ของเรานี้ออกมา  เราเชื่อว่าด้วยโซลูชั่นนี้ เราจะสามารถทำให้ AI กลายมาเป็นเทคโนโลยี GPT (General Purpose Technology) หรือเพื่อประโยชน์ทั่วไปได้ในที่สุด

เราพยายามที่จะทำให้ AI เข้าถึงได้มากขึ้นและมีราคาย่อมเยาขึ้นเพื่อสังคมโดยรวม และเราก็หวังว่า ในอีกสองสามปีที่จะถึงนี้ เราจะเปิดตัวชิปเซ็ท  ฮาร์ดแวร์ และโซลูชั่นซอฟต์แวร์ที่รองรับ AI เพื่อช่วยให้ลูกค้าได้ใช้ประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยีใหม่นี้

นี่คือการเติบโตอันน่าตื่นเต้นที่เราทำได้ในปีนี้  แน่นอนว่าในขณะเดียวกันเราก็กำลังเผชิญกับความท้าทายบางอย่าง  คุณทุกคนคงรู้เรื่องเกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่มีต่อหัวเว่ยในปีนี้  แม้ว่าในหลายประเทศจะมีความพยายามสร้างกระแสให้เกิดความหวาดกลัวเกี่ยวกับหัวเว่ย รวมถึงการใช้การเมืองแทรกแซงการเติบโตของอุตสาหกรรม แต่เราก็ภูมิใจที่จะพูดว่าลูกค้าของเรายังคงเชื่อใจและตระหนักถึงการมีส่วนร่วมของเราที่มีต่ออุตสาหกรรมนี้

พวกเขาจะยังทำงานร่วมกับเรา สร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมไปกับเรา และสร้างเครือข่ายของพวกเขาด้วยเทคโนโลยีอันเป็นนวัตกรรมของเรา เราขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งสำหรับการสนับสนุนของพวกเขา

เมื่อพูดถึงเรื่องความปลอดภัย ในฐานะองค์กรธุรกิจชั้นนำ เราเชื่อว่า เราต้องพูดคุยเกี่ยวกับเทคโนโลยีและวิธีการพัฒนาให้มากขึ้น  สำหรับข้อกล่าวหาด้านความปลอดภัย มันจะเป็นการดีที่สุดคือ นำความจริงออกมาพูด และความจริงก็คือ สถิติของหัวเว่ยในด้านความปลอดภัยขาวสะอาด เราเชื่อว่าความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นปัญหาระดับโลก มันเป็นเรื่องของทั้งอุตสาหกรรม และเราจำเป็นต้องรับมือกับมันร่วมกัน

ในอนาคตข้างหน้า เราจะยังลงทุนในด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ทั้งในด้านบรอดแบนด์  คลาวด์  AI และอุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆ ต่อไป และเราเชื่อว่าการลงทุนอย่างต่อเนื่องในด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีจะช่วยให้เราสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงในภาคโทรคมนาคมในปีที่จะมาถึงด้วยการติดตั้งใช้งานเทคโนโลยี 5G ที่รวดเร็วกว่าเดิม มันจะช่วยให้ตำแหน่งของเราในตลาดเอ็นเตอร์ไพรส์แข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วยการทรานส์ฟอร์มด้านดิจิทัลให้กับอุตสาหกรรมแนวตั้งต่างๆ  และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มันจะช่วยนำอุปกรณ์อันเป็นนวัตกรรมและน่าตื่นเต้นกว่าเดิมมาสู่ผู้บริโภค  เรากำลังจะเปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G เครื่องแรกของเรา และเราก็สามารถคาดหวังได้อีกมากจากสิ่งนั้น 

นี่เป็นภาพคร่าวๆ เกี่ยวกับความก้าวหน้าทางธุรกิจของเรา ผมยินดีที่จะให้รายละเอียดแก่พวกคุณมากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องนั้น เพื่อที่ว่าเราจะได้มีเวลาเพียงพอสำหรับช่วง Q&A

ตอนนี้ ผมขอเปิดพื้นที่สำหรับคำถามครับ

ช่วงถามตอบ

โจเซฟ วอริ่ง จาก Mobile World Live: จากข้อกล่าวหาและความหวั่นเกรงที่กดดันไปยังหน่วยงานรัฐบาลทั้งหมด หัวเว่ยมีแผนจะทำการอย่างไรในระยะใกล้หรือระยะกลาง เพื่อบรรเทาแรงกดดันนั้น  ผมทราบว่าคุณมีศูนย์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ในประเทศอังกฤษ ที่ทำงานกับโอเปอเรเตอร์หลายราย และศูนย์อื่นที่คล้ายๆ กันอีกจำนวนหนึ่ง คุณสามารถอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้หรือไม่ 

มร. เคน หู: เราตระหนักดีว่าอุตสาหกรรมที่เราอยู่นี้กำลังเผชิญกับช่วงการเปลี่ยนผ่านทางด้านเทคโนโลยีที่เร็วขึ้นกว่าเดิม  เทคโนโลยีต่างๆ มีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ  เครือข่ายมีการเปิดกว้างมากขึ้น  ด้วยเหตุนี้ แน่นอนว่าเราได้เห็นความสนใจและใส่ใจมากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ของผู้ให้บริการเครือข่ายและหน่วยงานที่กำกับดูแล รวมถึงประชาชนทั่วไป เราคิดว่านี่คือเรื่องปกติ

เมื่อเรามองกลับมาที่ตัวเราเอง อย่างที่ผมเพิ่งกล่าวไป ธุรกิจของหัวเว่ยได้เติบโตอย่างรวดเร็ว รายได้ของเราจะเกินหนึ่งแสนล้านดอลลาร์สหรัฐในเร็วๆนี้   เราทำธุรกิจใน 170 ประเทศทั่วโลก และบริษัทราวกึ่งหนึ่งในทำเนียบ Fortune 500 เลือกใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ย บริษัทผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมชั้นนำส่วนใหญ่ใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ย และสมาร์ทโฟนของเราก็กำลังมีผู้ใช้งานหลายร้อยล้านคนทั่วโลก 

ด้วยสเกล ขนาด และศักยภาพของเราในปัจจุบัน แน่นอนว่าเราจำต้องนำเรื่องนี้มาพิจารณาอย่างจริงจัง  เมื่อเรามองเห็นความกังวล หรือความสนใจ ที่รัฐบาลหลายประเทศ สังคม และประชาชนทั่วไป แสดงออกมา 

ในบริบทเช่นนี้ เราตระหนักดีว่า มันเป็นสิ่งที่เราต้องทำเพื่อให้เกิดการเจรจาและพูดคุยเชิงสร้างสรรค์  โปร่งใส กับรัฐบาลต่างๆ  ชุมชนในท้องถิ่น และกับลูกค้าของเรา

ซึ่งก็ตรงกับสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ ผมสามารถให้รายละเอียดแผนการของเราในด้านนี้ได้สั้นๆ  ยกตัวอย่างเรื่องความปลอดภัย หลายคนได้แสดงความกังวลหรือความสนใจในเรื่องนี้  สำหรับหัวเว่ยแล้ว เราถือว่าความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญสูงสุด และเป็นแนวทางที่ครอบคลุมการดำเนินงานในทุกด้าน

ในปี 2011 การกำหนดให้ความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญสูงสุดและเป็นแนวทางที่ครอบคลุมการดำเนินงานในทุกด้าน ได้รับการอนุมัติเป็นมติคณะกรรมการบริษัท นั่นก็คือจดหมายเปิดผนึกที่มร. เหริน ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ ของเรา ได้ประกาศต่อสาธารณชนทั่วโลก เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างจริงจังของพวกเราในเรื่องของความปลอดภัย

หลังจากที่ได้มีมติและการกำหนดให้ความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญสูงสุด เราได้ดำเนินการหลายขั้นตอนและหลายมาตรการทั้งภายในและภายนอก ตัวอย่างเช่น ภายในองค์กร ได้มีการสร้างและดำเนินการเรื่องการรับประกันและการป้องกันความปลอดภัยด้านไซเบอร์ครอบคลุมการดำเนินธุรกิจของเรา ตั้งแต่การกำกับดูแลกิจการภายใน โครงสร้างองค์กร นวัตกรรมด้านเทคโนโลยี การบริหารบุคลากร และระบบไอที  ผมเชื่อว่าเมื่อตอนเช้า ฌอน หยาง คงได้แนะนำระบบความปลอดภัยบางอย่างให้แก่พวกคุณแล้ว        

สำหรับภายนอก เมื่อเราประสานงานกับลูกค้า หน่วยงานกำกับดูแล และสาธารณชน เราได้ดำเนินการตามกลยุทธ์หรือแนวคิดที่เราเรียกว่า “ทำสีขาวให้บริสุทธิ์ยิ่งขึ้น"  ตลอดระยะเวลากว่าสิบปี

หรือพูดได้ว่า เราเข้าใจความกังวลจากลูกค้าและหน่วยงานกำกับดูแลต่างๆ ดังนั้นพวกเราก็ยินดีที่จะดำเนินการเพิ่มเติมหรือก้าวไปอีกระดับเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน

ส่วนหนึ่งของความพยายามดังกล่าว เราจึงได้ดำเนินการตรวจสอบรับรองฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ของหัวเว่ย และโซลูชั่นของเรา โดยให้หน่วยงานรับรองอิสระจากภายนอกเข้ามาดำเนินการ

และถ้าเราพิจารณาผลการตรวจสอบเหล่านั้น พวกเราสามารถเห็นได้ชัดเจนว่า กว่า 30 ปีที่ผ่านมา หัวเว่ยและอุปกรณ์ของหัวเว่ยยังคงรักษาสถิติอันแข็งแกร่งที่ขาวสะอาดในอุตสาหกรรมหากพูดถึงเรื่องความปลอดภัย

เราไม่เคยมีปัญหารุนแรงในด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์กับอุปกรณ์ของเรา

และแม้แต่กับการรีวิวที่เข้มงวดที่สุดหรือการคัดกรองโดยผู้กำกับดูแลหรือลูกค้าของเรา ก็ไม่เคยมีหลักฐานใดที่แสดงว่าอุปกรณ์ของเราก่อให้เกิดภัยคุกคามด้านความปลอดภัย

จากรายงานฉบับล่าสุดที่ออกโดย CFI หน่วยงานอิสระด้านการตรวจสอบจากภายนอก อุปกรณ์ของหัวเว่ยในด้านเสถียรภาพในการปฏิบัติการและความน่าเชื่อถือในการดำเนินการ มีคะแนนสูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยในอุตสาหกรรมมากตลอดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

เรายินดีที่จะแชร์รายงานฉบับนี้แก่พวกท่านหลังการสัมภาษณ์นี้

เรารู้สึกภูมิใจมากกับการที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้าและในอุตสาหกรรมของเรา 

แต่แน่นอนว่าเราจะไม่ผ่อนปรนมาตรฐานใดๆ ที่เรากำหนดให้กับองค์กรของเรา  เพราะเราตระหนักดีว่า เทคโนโลยีจะมีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ เครือข่ายก็จะยิ่งเปิดกว้างมากยิ่งขึ้น  ดังนั้นความต้องการด้านความปลอดภัยจึงต้องสูงขึ้นไปอีก

ด้วยเหตุผลนี้ เราจึงจะยังเพิ่มการลงทุนในด้านความปลอดภัย รวมไปถึงเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย

ในการประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อเร็วๆ นี้ เราได้ตัดสินใจเรื่องโปรแกรมการเปลี่ยนแปลงทั่วทั้งองค์กรเพื่อพัฒนาความสามารถด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ 

บริษัทจะลงทุนงบประมาณพิเศษในเบื้องต้น 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐใน 5 ปีข้างหน้า เพื่อพัฒนาขีดความสามารถด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของเราอย่างครอบคลุม เพื่อเตรียมผลิตภัณฑ์ของเราให้รับมือกับโลกในอนาคตได้ดีขึ้น

เราเชื่อว่าด้วยความพยายามเหล่านี้ เราจะยังคงสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมทางด้านความปลอดภัยบนไซเบอร์ของเราไว้ได้  พวกเรายังหวังว่าด้วยความพยายามดังกล่าวจะช่วยให้เรารักษาสถิติด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์อันแข็งแกร่งของเราไว้ได้

ในขณะเดียวกัน เราจะยังคงเพิ่มความพยายามในด้านการสื่อสาร การเข้ามีส่วนร่วมและทำงานร่วมกับรัฐบาลต่างๆ ทั่วโลก เราจะทำให้รัฐบาลต่างๆ เข้าใจถึงสถิติที่ดีที่เรามีในด้านความปลอดภัย และจะพูดคุยกับรัฐบาลประเทศต่างๆ เพื่อให้พวกเค้าได้เข้าใจถึงความพยายามและการกระทำของเราที่ได้ดำเนินการมาด้านความปลอดภัยบนไซเบอร์

ตัวอย่างเช่น ห้องปฏิบัติการด้านความปลอดภัยบนไซเบอร์ภายในองค์กรที่ท่านได้ไปเยี่ยมชมมาในตอนเช้า นั่นก็เป็นห้องปฏิบัติการที่เราทำประสบความสำเร็จและเปิดให้รัฐบาลและลูกค้าจากทั่วโลกเข้าชม และจากการเข้าชมและพูดคุย พวกเขาสามารถที่จะเข้าใจตำแหน่งของเรา และสิ่งที่เรากำลังทำอยู่   ในอนาคต เอาเป็นว่าเราจะพยายามปรับความพยายามบางอย่างนี้ให้เหมาะกับแต่ละที่ให้มากขึ้น

ยกตัวอย่างเมื่อสิบปีก่อนเราได้จัดตั้งศูนย์ประเมินความปลอดภัยด้านไซเบอร์อิสระแห่งหนึ่งขึ้นมาในสหราชอาณาจักร  ผลที่ได้คือ เราได้สร้างรูปแบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพในระยะยาวร่วมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างๆ ในสหราชอาณาจักรขึ้นมา และเราก็กำลังจะทำแบบนี้ต่อไป เรายังมีการจัดการในลักษณะเดียวกันนี้ในแคนาดาอีกด้วย สิ่งเหล่านั้นคือความพยายามที่เราจะยังทำต่อและทำให้เข้มข้นมากขึ้น

ในขณะเดียวกัน เราจะเร่งขยายความร่วมมือในลักษณะเดียวกันนี้กับรัฐบาลในประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เมื่อเดือนที่แล้วผมเองเพิ่งไปกรุงบอนน์ เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดห้องปฏิบัติการนวัตกรรมด้านความปลอดภัยที่นั่น ห้องแล็บแห่งนี้เป็นแพลตฟอร์มแบบเปิด เพื่อให้หน่วยงานรัฐและลูกค้าของเราในประเทศเยอรมนี ได้ทำการทดสอบความปลอดภัยของอุปกรณ์ของหัวเว่ย ความพยายามของเราได้รับการยอมรับจากรัฐบาลเยอรมัน

ขั้นตอนต่อไปคือ การเปิดศูนย์ความโปร่งใสด้านความปลอดภัยของเราในกรุงบรัสเซลส์ในไตรมาสแรกของปีหน้า นั่นเป็นส่วนหนึ่งของแผนการในระยะยาวของเราด้วย  นอกจากนี้เรายังจะสร้างและจัดตั้งกลไกการจัดการด้านความปลอดภัยแบบโปร่งใสให้เข้าที่ในส่วนอื่นๆ ของโลกด้วยหากจำเป็น

เมื่อพูดสั้นๆ ถึงเรื่องของความปลอดภัย ผมอยากจะพูดว่า เราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง และให้ความใส่ใจกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เราได้ดำเนินการหลายอย่างในด้านนี้ และเราจะทำต่อไปเพื่อให้เกิดการเจรจาและความร่วมมือกับรัฐบาลต่างๆ ทั่วโลก

เมื่อพูดถึงความกังวลของรัฐบาลเกี่ยวกับหัวเว่ย ผมคิดว่ายังมีส่วนอื่นๆ ที่เราต้องจัดการด้วย 

หัวเว่ยเป็นบริษัทที่มาจากประเทศจีน และเราไม่ใช่บริษัทมหาชน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเราไม่สามารถทำให้เกิดความโปร่งใสได้ในระดับเดียวกัน เราได้ทุ่มเทความพยายามและมาตรการต่างๆ ในด้านนี้ด้วย

เราได้ประกาศโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทของเรามาตั้งแต่แรกเริ่ม เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าหัวเว่ยเป็นองค์กรเอกชนที่มีพนักงานเป็นเจ้าของ

ทุกๆ ปี เราได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบที่เข้มงวดมาก ก่อนที่จะเผยแพร่รายงานประจำปีของเรา เพื่อให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนได้ทราบถึงความถูกต้อง ความซื่อสัตย์ และความเป็นอิสระในการดำเนินธุรกิจของเรา 

ในขณะเดียวกัน กับข้อกังวลเฉพาะบางอย่าง เราได้พูดคุยกับรัฐบาลในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกในเรื่องความเป็นอิสระในการดำเนินธุรกิจของหัวเว่ย ความจริงที่ว่าเราไม่เคยได้รับการเรียกร้องจากรัฐบาลของประเทศใดๆ ในการทำให้ธุรกิจหรือเครือข่ายของลูกค้าของเราหรือของประเทศอื่นๆ เสียหาย  ตามที่ผมได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ สำหรับข้อกังวลใดๆ ก็ตาม วิธีที่ดีที่สุดคือ "นำความจริงออกมาพูด"  ความจริงที่ว่าคือ ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ไม่มีปัญหาด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ร้ายแรง ไม่มีภัยคุกคามทางไซเบอร์และไม่มีหลักฐานที่แสดงว่าหัวเว่ยกำลังทำสิ่งที่เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยบนไซเบอร์  และเราจะดำเนินการสื่อสารเชิงรุกต่อไป และความร่วมมือในแบบเปิดเผย เพื่อให้คนตระหนักและรับรู้เรื่องนี้กันมากขึ้น

หยางหยวน, Financial Times: ดิฉันมีคำถามเกี่ยวกับการจับกุมตัวคุณเมิ่งที่ประเทศแคนาดา  รอยเตอร์สได้มีการรายงานว่า บริษัทสกายคอม ซึ่งเป็นบริษัทลูกของหัวเว่ยได้มีการขายเทคโนโลยีจากบริษัทอเมริกันให้กับลูกค้าในอิหร่าน และเรายังพบว่าคุณเมิ่งเคยเป็นผู้อำนวยการของสกายคอม และพนักงานของสกายคอมก็มองว่าตัวเองเป็นพนักงานของหัวเว่ย คุณช่วยอธิบายความสัมพันธ์กับบริษัทสกายคอม และกิจกรรมของสกายคอมในอิหร่านได้มั้ยคะ 

มร. เคน หู: ผมรู้ว่าพวกคุณให้ความสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้จริง ๆ  แต่คุณก็อาจจะรู้อยู่ว่า ตอนนี้เรื่องกำลังอยู่ในกระบวนพิจารณาในชั้นศาล ผมจึงไม่สามารถที่จะให้ข้อมูลใดๆ ได้ในขณะนี้  มีอยู่สองเรื่องที่ผมอยากจะแชร์ให้พวกคุณได้ทราบก็คือ

หนึ่ง เรามีความมั่นใจมากในระบบบริหารจัดการการปฏิบัติตามกฎระเบียบทางการค้าของเรา  เราเริ่มพัฒนาระบบนี้มาตั้งแต่ปี 2007 ซึ่งครอบคลุมธุรกิจทุกส่วนของเราทั่วโลกและรวมถึงพนักงานของหัวเว่ยทั้งหมด  เราเชื่อว่าด้วยระบบบริหารจัดการการปฏิบัติตามกฎระเบียบทางการค้าที่มีประสิทธิภาพ เราจึงมีการรับประกันธุรกิจพื้นฐานมูลค่ากว่าแสนล้านดอลลาร์ของเรา เรามีการรับประกันเพื่อให้มั่นใจถึงการดำเนินธุรกิจของเราว่าจะราบรื่น มีประสิทธิภาพ และมีเสถียรภาพ และรวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าของเราทั่วโลกด้วย

และสอง เรามีความมั่นใจในความยุติธรรมและความเป็นอิสระของระบบตุลาการในประเทศที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ และเราคาดหวังว่าจะได้ข้อสรุปที่ยุติธรรมในเรื่องนี้

เอมอน บาร์เร็ต จาก Fortune: หนึ่งในประเด็นที่รัฐบาลหลายๆ ประเทศได้หยิบยกขึ้นมาเกี่ยวกับหัวเว่ย และความเสี่ยงต่อภัยคุกคามด้านความปลอดภัยก็เป็นกฎหมายด้านข่าวกรองแห่งชาติ ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งจะบังคับให้อุตสาหกรรมหรือบริษัทใด ต้องให้ความร่วมมือกับหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ ตอนนี้คุณอาจพูดได้ว่าหัวเว่ยไม่เคยได้รับการร้องขอจากรัฐบาลของเราให้แทรกซึมหรือมิฉะนั้นก็สอดแนมเครือข่ายใดเครือข่ายหนึ่ง แต่ถ้ารัฐบาลจีนขอความร่วมมือมาที่หัวเว่ยและขอให้หัวเว่ยทำล่ะ จะมีเหตุผลทางกฎหมายใดที่หัวเว่ยจะบอกปฏิเสธการร้องขอได้

มร. เคน หู: ก่อนอื่นเลย เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนได้ชี้แจงอย่างเป็นทางการในระหว่างการแถลงข่าวไปแล้วว่า ไม่มีกฎหมายใดในประเทศจีนที่บังคับให้บริษัทต่างๆ ต้องติดตั้งประตูหลังหรือช่องโหว่ของระบบเพื่อส่งถ่ายข้อมูลทั้งสิ้น

แน่นอนว่าจีนก็เหมือนสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย ที่มีข้อกำหนดทางกฎหมายบางประการสำหรับการต่อต้านการก่อการร้ายหรือวัตถุประสงค์ด้านความปลอดภัยด้านไซเบอร์  จีนยังเน้นให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติตามกฎหมาย เป็นคำอธิบายที่ชัดเจนมาก

สำหรับหัวเว่ย แนวคิดของเราคือ การจัดการกับปัญหาดังกล่าวตามกฎหมายอย่างเข้มงวด ในอดีตเราก็ไม่เคยได้รับการร้องขอให้ส่งข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง  ในอนาคตเราก็จะปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดในการรับมือกับสถานการณ์เฉกเช่นเดียวกัน เมื่อเราพูดในแง่กฎหมายแล้ว กฎหมายมีการระบุไว้ชัดเจนเกี่ยวกับเงื่อนไขการอ้างอิงสำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

เกาหยวน จาก Bloomberg: เรารู้ว่าหัวเว่ยได้มีการแต่งตั้งรักษาการประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) หลังจากคดีของซาบริน่า คำถามของผมคือ กับคดีปัจจุบัน ถ้าซาบริน่าสามารถทำงานในความรับผิดชอบของเธอในฐานะประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินขององค์กร และอะไรคือความหมายที่แท้จริงและผลกระทบของคดีต่อการดำเนินงานของหัวเว่ย เพราะเราได้รู้จากพนักงานในต่างประเทศของหัวเว่ยบางท่านว่า หากไม่มีคำแนะนำทางการเงินแล้ว มันจะมีผลกระทบกับธุรกิจของพวกเขา เช่น การจัดซื้อ 

มร. เคน หู: ตอนนี้ การดำเนินธุรกิจของเราไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีที่เกิดขึ้นในแคนาดา การดำเนินธุรกิจของเราในฐานะของบริษัทและการดำเนินงานในระบบการเงินของบริษัทยังอยู่ในสภาวะปกติ

ไรอัน แม็คมอโร จาก AFP: หลังจากที่คุณเมิ่งถูกจับกุมตัวในแคนาดา รัฐบาลจีนก็ได้จับชาวแคนาดาสองคนในเรื่องความกังวลด้านความมั่นคงของชาติ รัฐบาลจีนได้พูดว่านี่ไม่ใช่การตอบโต้ แต่ผู้เชี่ยวชาญอิสระส่วนใหญ่มองว่าเป็นการตอบโต้ หัวเว่ยมีความคิดเห็นหรือความคิดเกี่ยวกับการจับกุมชาวแคนาดาสองคนในประเทศจีนหรือไม่

มร. เคน หู: ผมไม่มีความคิดเห็นในเรื่องนี้

ยูนนีส ยุน จาก CNBC: คุณคิดว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่หัวเว่ยจะมีธุรกิจขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา และมันสำคัญต่ออนาคตของหัวเว่ยหรือไม่

มร. เคน หู: สหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในตลาดด้านการสื่อสารที่ใหญ่ที่สุดในโลก และแน่นอน ผมไม่อาจพูดว่ามันไม่สำคัญกับเรา แต่ความจริงในวันนี้คงเป็นการยากมากสำหรับหัวเว่ยที่จะพัฒนาธุรกิจให้เติบโตด้วยเหตุผลที่พวกคุณทุกคนรู้อยู่แล้ว

ดังนั้น สถานการณ์ปัจจุบันธุรกิจของเราในสหรัฐอเมริกา ผมอยากจะพูดว่าก็อยู่ในสถานะที่จำกัด แน่นอนว่าเรายังมีลูกค้าในสหรัฐอเมริกา  และเราจะยังคงยึดมั่นในหลักการทางธุรกิจของเราที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นหลัก เราพยายามลองทุกอย่างที่สามารถเพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดที่เป็นไปได้แก่ลูกค้า และพวกเขาก็พึงพอใจกับบริการของเรามาก

ในอีกด้านหนึ่งเราก็เห็นว่าสหรัฐอเมริกาเองยังอยู่ในช่วงของการพัฒนาตลาดโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล

และเนื่องจากหัวเว่ยไม่สามารถที่จะเข้าร่วมพัฒนาตลาดในอเมริกา เราจึงมองว่าอเมริกาจะเป็นตลาดที่ขาดการแข่งขันกันอย่างใหญ่หลวง 

จากการวิเคราะห์ของนักเศรษฐศาสตร์บางท่าน ในระหว่างปี 2560 ถึง 2563 ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญในการติดตั้ง 5G หากหัวเว่ยสามารถเข้าร่วมแข่งขันในตลาดได้ จะสามารถประหยัดต้นทุนการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานไร้สายทั้งหมดลงได้ 20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ในขณะเดียวกันเนื่องจากหัวเว่ยไม่สามารถเข้าร่วมแข่งขันในตลาดได้ ดัชนี HHI (Herfindahl-Hirshman Index) ซึ่งอธิบายถึงการกระจุกตัวของตลาดในพื้นที่ภูมิศาสตร์บางแห่ง เช่น ในอเมริกา – มีค่าดัชนี HHI สูงถึง 2,500 ซึ่งสูงกว่าตลาดอื่นๆ ของโลกมาก ที่โดยทั่วไปแล้วจะอยู่ในช่วงประมาณ 1,000 

เนื่องจากสหรัฐอเมริกาไม่ยอมให้ซัพพลายเออร์ที่ดีที่สุดและเทคโนโลยีที่ดีที่สุดเข้าร่วมแข่งขันในตลาด ผมเชื่อว่าต้นทุนการติดตั้งจะสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะเดียวกัน ก็จะทำให้การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ ไปใช้ล่าช้าออกไปมาก

ในขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลตอนนี้ขึ้นอยู่กับห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก  หรืออาจกล่าวได้ว่า อุปกรณ์ของบริษัทใด ๆ ในอุตสาหกรรมต้องพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานจากทั่วโลกในการพัฒนาและผลิตอุปกรณ์ของตน

ในเวลาเดียวกันการติดตั้งระบบในกรณีส่วนใหญ่แล้วเราสามารถพูดได้ว่าโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลต้องเป็นผลมาจากการทำงานร่วมกันของผู้ค้าหลายรายทั่วทั้งอุตสาหกรรม

จากมุมมองนี้ การกีดกันไม่ให้บริษัทหัวเว่ยเข้าร่วมแข่งขันในตลาดนี้ไม่ใช่วิธีการแก้ไขปัญหาข้อกังวลด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์  เราเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้ว สหรัฐอเมริกาก็ต้องการเทคโนโลยีที่ดีที่สุด และบริษัทที่ดีที่สุดที่จะเข้าร่วมการแข่งขันในตลาด แน่นอนว่าเราไม่ทราบว่าวันนั้นจะมาถึงเมื่อไหร่ แต่เราจะอดทนรอ

เรย์มอน จง จาก New York Times: เมื่อต้นปีเราเห็นว่า ZTE เกือบต้องออกจากธุรกิจเพราะสหรัฐฯ ไม่ยอมให้ ZTE ใช้เทคโนโลยีของอเมริกา เห็นได้ชัดว่าหัวเว่ยยังไม่ได้อยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น แต่หากสถานการณ์เดียวกันเกิดขึ้นกับหัวเว่ย คุณช่วยอธิบายหน่อยได้ไหมว่า หัวเว่ยจะมีแผนการในการปกป้องซัพพลายเชนของตัวเองจากการพึ่งพาอเมริกาหรือไม่

มร. เคน หู: เราจะไม่แสดงความคิดเห็นต่อสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่ผมก็ยินดีที่จะแบ่งปันความคิดของเราและแผนการของเราในด้านการจัดการซัพพลายเชนและความต่อเนื่องทางธุรกิจ

ดังที่เราทุกคนรู้กันดีว่าอุตสาหกรรมไอซีทีนั้นพึ่งพาซัพพลายเชนจากทั่วโลกเป็นอย่างมาก และหัวเว่ยก็เช่นกัน 

ปัจจุบันนี้ เรามีซัพพลายเออร์ 13,000 รายในระบบซัพพลายเชนของเรา จากญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป จีน และประเทศอื่นๆ ในหลากหลายภูมิภาคทั่วโลก ลองดูปีนี้เป็นตัวอย่าง การจัดซื้อของเราในปีนี้มีมูลค่าราว 70 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ

ในด้านหนึ่ง นวัตกรรมทางเทคโนโลยีของหัวเว่ยเกิดจากความทุ่มเทของเราเอง  แต่ในอีกด้านหนึ่ง เราก็ต้องทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับพันธมิตรทั้ง 13,000 รายในระบบซัพพลายเชนของเราทั่วโลก 

เรายังตระหนักดีว่า ยิ่งระบบซัพพลายเชนโดยธรรมชาติของคุณมาจากทั่วโลก มันก็จะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น  ดังนั้นเมื่อเกือบ 10 ปีก่อน หัวเว่ยได้เริ่มพัฒนาระบบการบริหารจัดการความต่อเนื่องทางธุรกิจที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ 

ระบบการบริหารจัดการนี้ครอบคลุมฝ่ายต่างๆ ของธุรกิจ เช่น ฝ่ายวิจัยและพัฒนา ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายผลิต ฝ่ายโลจิสติกส์ และรวมไปถึงฝ่ายบริการ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เราประสบความสำเร็จในการจัดการกับเหตุฉุกเฉินต่างๆ ด้วยระบบนี้ ปัญหาภัยธรรมชาติต่างๆ เช่น เหตุสึนามิในญี่ปุ่น อุทกภัยในไทย เหตุการณ์แผ่นดินไหวในเนปาล หรือการโจมตีของ Ransomware  และเพื่อรับประกันความต่อเนื่องของระบบซัพพลายเชน เราต้องคิดให้ถี่ถ้วนเมื่อต้องกำหนดกลยุทธ์ด้านการจัดหา รวมถึงวิธีรับประกันว่าอุปกรณ์ของเราจะทำงานได้

ตัวอย่างเช่นกลยุทธ์ด้านซัพพลายเชน เราใช้เป็นกลยุทธ์การจัดหาที่หลากหลาย หมายความว่าเราใช้วิธีคัดเลือกผู้ขายหลายๆ อย่าง เรามองตัวเลือกหลายๆ แบบในด้านโซลูชั่นเทคโนโลยี และเราก็ยังมีเครือข่ายจัดหาจากหลายแห่ง  ในขณะเดียวกันเนื่องจากว่าเรายังทำงานร่วมกับโอเปอเรเตอร์ด้านโทรคมนาคมหลายร้อยรายทั่วโลก รวมถึงลูกค้าองค์กรธุรกิจอีกจำนวนมาก  ดังนั้นเราจึงต้องมองไปถึงการรองรับตลอดอายุการใช้งานซึ่งจำเป็น และต้องมีคลังอะไหล่และส่วนประกอบสำรองเพื่อให้แน่ใจว่าสามารถรองรับได้ตลอดอายุการใช้งานผลิตภัณฑ์ 

นอกจากนี้ยังมีแผนและมาตรการบางอย่างที่เรานำมาใช้เพื่อรับประกันความต่อเนื่องของธุรกิจ ในขณะเดียวกัน เราก็คิดว่าความต่อเนื่องของห่วงโซ่อุตสาหกรรมไอซีทีก็มีความสำคัญเช่นกัน เราเชื่อว่านี่ก็เป็นเรื่องที่ทั้งอุตสาหกรรมและประชาคมนานาชาติควรให้ความสนใจ  

ดังที่ผมได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า เรามีซัพพลายเออร์ 13,000 ราย และมีการจัดซื้อตลอดปีนี้ถึง 70 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  ถ้าเรามองตลอดทั้งห่วงโซ่อุตสาหกรรม  บริษัทหรือประเทศต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง พวกเขาทั้งหมดล้วนพึ่งพาซึ่งกันและกัน

หากมีตัวเชื่อมใดในห่วงโซ่อุตสาหกรรมทั่วโลกถูกกีดขวางในลักษณะที่ผิดปกติ ซึ่งจะมีผลกระทบอย่างมากต่อการพัฒนาของห่วงโซ่อุตสาหกรรม หรือแม้กระทั่งการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศที่เกี่ยวข้อง

ดังนั้นหากเรามองให้กว้างขึ้น ทั้งสังคมโดยรวม ประเทศที่เกี่ยวข้องและอุตสาหกรรม ทั้งหมดจะต้องทำงานร่วมกันเพื่อให้แน่ใจว่าห่วงโซ่อุตสาหกรรมมีความต่อเนื่อง

สตีเว่น เจียง จากซีเอ็นเอ็น: ผมมีสองคำถามสั้นๆ เกี่ยวกับสิ่งที่คนอาจจะพูดถึง  คำถามแรกคือ ผมรู้ว่าคุณไม่สามารถให้ความเห็นเกี่ยวกับคดีของคุณเมิ่งได้ในตอนนี้ เพราะตอนนี้กำลังเป็นคดีทางกฎหมาย แต่เป็นเรื่องของผลกระทบ  ในส่วนของตัวคุณเองและผู้บริหารระดับอาวุโสท่านอื่นๆ มีผลกระทบอะไรบ้าง คุณต้องจำกัดหรือปรับแผนการเดินทางหรือหลีกเลี่ยงบางประเทศหรือเปล่า แล้วผลกระทบต่อสภาพจิตใจของพนักงานหัวเว่ยล่ะ 

อีกคำถามเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวต่อไปของสหรัฐฯ เพราะเราเริ่มมองเห็นความเคลื่อนไหวบางอย่างของรัฐบาลหรือผู้ประกอบการในสหรัฐอเมริกาและประเทศพันธมิตร เช่น ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร หรือแม้แต่ญี่ปุ่น เพื่อระงับการใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยในเครือข่ายหลักของ 5G  คุณกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่  คุณคิดว่านี่เป็นปัญหาทางการเมืองไม่ว่าคุณจะพูดหรือทำอะไรก็ตามหรือไม่

มร. เคน หู: สำหรับคำถามแรกของคุณ ไม่มีผลกระทบใดๆ กับแผนการเดินทางของผม เมื่อวานนี้ผมก็ยังคงอยู่บนเครื่องบินตอนเวลานี้ 

สำหรับคำถามที่สองเกี่ยวกับการพัฒนา 5G ล่าสุดในหลาย ๆ ประเทศ ผมเพิ่งกลับมาจากยุโรปเมื่อวานนี้ และผมอยากจะพูดให้คุณฟังเกี่ยวกับข้อสังเกตบางอย่างของผม

ก่อนอื่นเลย ผมต้องขอแก้ไขข้อมูลของคุณเล็กน้อย ตอนนี้ฝรั่งเศสและญี่ปุ่นยังไม่มีการตัดสินใจอย่างเป็นทางการใด ๆ ที่จะไม่ใช้ 5G ของหัวเว่ย  แต่สิ่งที่เราเห็นในตอนนี้คือ รัฐบาลและผู้ประกอบการในหลายต่อหลายประเทศกำลังหารืออย่างกระตือรือร้นกับหัวเว่ยในเรื่อง 5G

อย่างที่ผมได้กล่าวมาก่อนหน้านี้ในตอนต้นว่า หัวเว่ยมีสัญญา 5G เชิงพาณิชย์จำนวน 25 ฉบับ ตัวเลขนี้สูงกว่าคู่แข่งใด ๆ ในอุตสาหกรรม  ในขณะเดียวกัน เราก็อยู่ในตำแหน่งผู้นำในด้าน 5G ไม่ว่าเวลาที่เราจะมองไปที่ภาวะการเป็นผู้นำหรือการเติบโตเต็มที่ของเทคโนโลยีของเรา  

พวกคุณได้เยี่ยมชมห้องแล็บของเราบางห้องไปแล้วเมื่อเช้านี้ และผมก็เชื่อว่าพวกคุณต้องได้เห็นเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมหลายๆ อย่างที่นั่น ซึ่งมีเพียงหัวเว่ยเท่านั้นที่ทำได้ในอุตสาหกรรม และเพราะเทคโนโลยีเหล่านี้ได้สร้างความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งในด้าน 5G ให้กับเราในวันนี้ เราได้เข้าร่วมการทดสอบ 5G ก่อนการให้บริการเชิงพาณิชย์หลายสิบครั้ง จากผลการทดสอบพบว่า หัวเว่ยมีความก้าวหน้าในด้านเทคนิคมากกว่าเพื่อนร่วมอุตสาหกรรมรายอื่น ๆ ก่อนถึงประมาณ 12 – 18 เดือน

ความเป็นผู้นำของหัวเว่ยได้รับการยอมรับทั่วไปในกลุ่มลูกค้าของเรา เช่น เดือนที่แล้วในงาน Mobile Broadband Forum ซึ่งจัดขึ้นที่ลอนดอน หัวหน้าสถาปนิกของบริติช เทเลคอม ได้แสดงความเห็นต่อสาธารณชนว่า หัวเว่ยเป็นผู้จัดหาโซลูชั่น 5G ที่แท้จริงเพียงรายเดียวในขณะนี้ และบริษัทอื่นๆ ต้องเร่งให้ทัน 

การได้รับการยอมรับจากลูกค้าและรัฐบาลถือเป็นสิ่งแรกที่แสดงถึงความเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยี 5G

รัฐบาลและลูกค้าเหล่านั้นเชื่อว่าการใช้ซัพพลายเออร์ที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างเครือข่าย 5G จะช่วยลดระยะเวลาการนำเทคโนโลยีใหม่นี้ออกสู่ตลาดได้เป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น LG U+ ในเกาหลี ได้มีการเปิดตัวบริการ 5G แล้วหลังจากที่ได้ติดตั้งเครือข่ายด้วยอุปกรณ์ของหัวเว่ย ซึ่งจะช่วยให้ LG U+ มีโครงสร้างต้นทุนที่แข่งขันได้มากขึ้น และผู้บริโภคมีโอกาสใช้เทคโนโลยีนี้เร็วขึ้น

ในขณะเดียวกันเรายังเห็นว่าหลายๆ ประเทศมีข้อกังวลที่แตกต่างกันเกี่ยวกับ 5G ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล สำหรับข้อกังวลดังกล่าวเราเชื่อว่า การทำงานร่วมกับผู้ประกอบการและสื่อสารกับรัฐบาลจะสามารถชี้แจง และคลายความกังวลลงได้  แน่นอนว่ายังมีกรณีที่ไม่ค่อยเกิดขึ้น ที่บางประเทศใช้แนวทางปฏิบัติ ที่เราอยากจะเรียกว่า เป็นแนวทางที่ผิดปกติ 

ประเทศเหล่านั้นได้นำปัญหาเรื่องความปลอดภัยของ 5G ซึ่งเป็นธรรมชาติของอุตสาหกรรมและของเทคโนโลยี ไปเป็นการคาดเดาที่ปราศจากหลักฐานที่พุ่งเป้าไปที่บริษัทบางแห่ง โดยที่ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การป้องกันและการส่งเสริมเทคโนโลยี  แต่จบลงด้วยด้วยการคาดเดาที่พุ่งเป้าไปที่บริษัทบางแห่งด้วยการใช้การพิจารณาอุดมการณ์หรือบริบททางการเมืองเป็นที่ตั้ง

ในกรณีที่ไม่ค่อยเกิดขึ้น เมื่อต้องเลือกเทคโนโลยี 5G บางประเทศเลือกแนวทางที่ขาดความรับผิดชอบ ซึ่งไม่ได้ตั้งอยู่บนความเป็นจริง ด้วยการกีดกันบางบริษัทออกจากการแข่งขันในตลาด

เราเชื่อว่าการตัดสินใจลักษณะนี้ควรจะเป็นการตัดสินใจที่จริงจังและเป็นมืออาชีพ จะต้องมีหลักฐานหรือข้อพิสูจน์มาประกอบในการตัดสินใจ  หากไม่มีหลักฐานแล้ว ผมคิดว่าการตัดสินใจเช่นนี้จะส่งผลกระทบต่อภายภาคหน้า เราเชื่อว่าเรื่องความปลอดภัยของ 5G ควรที่จะต้องกลับไปเป็นการพูดคุยในด้านเทคโนโลยี และควรตั้งอยู่บนการประเมินวัตถุประสงค์ของบริษัท

ความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรก และเป็นเรื่องที่อุตสาหกรรมต้องเผชิญด้วยกันทั้งหมด  ไม่ควรนำพุ่งเป้าไปที่บริษัทใดๆ โดยไม่มีหลักฐาน

เราสามารถรับมือกับข้อกังวลด้านความปลอดภัยได้ด้วยการพูดคุยในเชิงเทคนิค การพูดคุยด้านความปลอดภัยควรให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดในอุตสาหกรรมได้เข้าร่วม ในแง่ของการเลือกใช้เทคโนโลยี 5G  เราเชื่อว่าการตัดสินใจของรัฐบาลใด ๆ ควรเป็นเรื่องจริงจังและเป็นมืออาชีพ สิ่งที่สำคัญคือต้องมีข้อพิสูจน์หรือหลักฐาน

หากมีหลักฐานก็ควรนำมาเปิดเผยต่อสาธารณะ หากไม่อยากเปิดเผยต่อสาธารณะ ไม่อยากให้หัวเว่ยทราบ อย่างน้อยก็ควรเปิดเผยต่อผู้ประกอบการ เพราะพวกเขาต้องการที่จะซื้ออุปกรณ์ของหัวเว่ย

เรื่องการท้าทายในเรื่องความปลอดภัย ทั้งอุตสาหกรรมและสังคมของเราจะต้องเผชิญเป็นระยะยาวนานในอนาคตข้างหน้า ดังนั้นเราเชื่อว่าการสื่อสารแบบเปิดเผยและการทำงานร่วมกันจะช่วยแก้ไขปัญหานี้  และ
หัวเว่ยเองก็มุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการนี้

แต่การเลือกปฎิเสธบริษัทหนึ่ง โดยเฉพาะบริษัทชั้นนำในตลาดไม่เพียงแต่ไม่สามารถแก้ปัญหาความปลอดภัยบนไซเบอร์ แต่ยังเพิ่มต้นทุนในการติดตั้งใช้งานเครือข่าย และทำให้เกิดความล่าช้าในการใช้เทคโนโลยีใหม่ ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว ก็จะเป็นการเพิ่มภาระให้กับผู้บริโภค 

ยกตัวอย่างจากออสเตรเลียซึ่งเรามีข้อมูลตัวเลขบางอย่าง จากข้อมูลของนักวิเคราะห์องค์กรอิสระ หากหัวเว่ยไม่สามารถเข้าร่วม ต้นทุนของการก่อสร้างสถานีฐานไร้สายในออสเตรเลียจะเพิ่มขึ้นราว 15% ถึง40%  ต้นทุนของการสร้างเครือข่ายทั้งหมดจะสูงขึ้นหลายพันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย แย่ยิ่งไปกว่านั้นคือ เวลาที่ประชาชนจะได้ใช้เทคโนโลยี 5G ในประเทศออสเตรเลียจะล่าช้าออกไป

ชุนสึเกะ ทาเบตะ, นิกเกอิ: คุณได้พูดถึงศูนย์ตรวจสอบความโปร่งใสและความมั่นคงปลอดภัยว่าเป็นโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นในยุโรป แล้วคุณมีมาตรการแบบเดียวกันนี้เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยในญี่ปุ่น เอเชีย หรือในออสเตรเลียหรือไม่

มร. เคน หู: สำหรับด้านความปลอดภัยนั้น เราตั้งใจเต็มที่ที่จะใช้มาตรการเชิงรุกเพื่อแก้ไขและคลี่คลายข้อกังวลต่างๆ เพราะว่านี่คือหลักการของเรานั่นเอง ในหลักการดังกล่าว เรายังเปิดโอกาสสำหรับการหารือในเชิงรุกร่วมกับรัฐบาลจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพื่อทำความเข้าใจถึงข้อกังวลเหล่านั้น รวมถึงแสวงหาทุกแนวทางที่เป็นไปได้

เรามีตัวอย่างความสำเร็จมากมายที่เกิดขึ้นในประเทศต่างๆ ทั้งในอังกฤษ แคนาดา เยอรมนีและฝรั่งเศส และแน่นอนว่าย่อมรวมถึงภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคด้วย นอกจากนี้ เรายังได้ติดต่อพูดคุยเชิงรุกกับผู้ออกกฎหมายของประเทศเหล่านั้นด้วย โดยหัวเว่ยพร้อมที่จะตอบสนองความต้องการและข้อบังคับ พร้อมทั้งแสวงหาแนวทางที่เหมาะสมเพื่อปรับตามข้อบังคับที่กำหนดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้

โจ แมคโดนัลด์, เอพี: มีคนบางกลุ่มได้ชี้ว่า รัฐบาล เช่น สหรัฐฯ ได้กล่าวว่า หัวเว่ยเป็นภัยคุกคาม จริงๆ แล้วคนเหล่านั้นไม่ได้กังวลเกี่ยวกับภัยคุกคามแต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องของการค้าต่างหาก และรัฐบาลเหล่านั้นก็พยายามที่จะหยุดยั้งหัวเว่ยไม่ให้ก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งกับบริษัทเทคโนโลยีของอเมริกัน    ผมขอถามข้อแรกว่า คุณมองว่าในกรณีนี้ รัฐบาลต่างๆ กำลังนำประเด็นนี้มาเป็นเรื่องการแข่งขันเพื่อสกัดกั้นหัวเว่ยหรือไม่

ข้อที่สอง คุณคิดว่าเรื่องนี้จะสร้างความเสียหายต่อธุรกิจของหัวเว่ยหรือไม่

คุณคิดอย่างไรกับการถูกตีตราว่าเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัย

คุณต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงในเรื่องใดบ้างในด้านการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ หรือจีนกับประเทศต่างๆ ซึ่งจะเอื้อต่อบริษัทของคุณ

มร. เคน หู: สำหรับคำถามข้อแรกที่ว่า หัวเว่ยถูกตีตราว่าเป็นภัยคุกคามด้านความปลอดภัย เรามองว่า นี่เป็นข้อสรุปที่ใครๆ ก็พูดได้ แต่การคาดเดาอะไรก็ตามควรมีหลักฐานมายืนยันด้วยเช่นกัน

และคุณก็ต้องมีหลักฐานมายืนยันด้วยเช่นกันหากจะบอกว่า โซลูชั่นหรืออุปกรณ์ของหัวเว่ยไม่มีความมั่นคงปลอดภัย

ตลอดช่วง 30 ปีที่ผ่านมา มีผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมหลายร้อยรายที่ใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ย แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์เกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ที่สำคัญแต่อย่างใด และอุปกรณ์ของหัวเว่ยเองนั้นก็มีการติดตั้งใช้งานน้อยมากในสหรัฐอเมริกา แล้วอย่างนี้ จะมีหลักฐานอะไรที่ยืนยันได้ว่าหัวเว่ยไม่มีความปลอดภัย

หรือหากคุณจะบอกว่า พฤติกรรรมของหัวเว่ยก่อใหเกิดปัญหาต่างๆ ผมขอย้ำอีกครั้งว่า ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา เราได้ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทที่มีมูลค่ากว่าหนึ่งแสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  ที่มีธุรกิจใน 170 กว่าประเทศ ซึ่งก็ไม่มีหลักฐานที่ระบุได้ว่าพฤติกรรมของหัวเว่ยนำมาซึ่งปัญหาแต่อย่างใด

ผมจึงขอถามกลับด้วยคำถามที่ว่า สำหรับบริษัทที่มีรายได้หนึ่งแสนล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ และมีธุรกิจใน 170 กว่าประเทศ และมีข้อมูลยืนยันได้ว่า เราได้จัดส่งผลิตภัณฑ์ชั้นนำให้กับผู้ให้บริการโทรคมนาคมส่วนใหญ่ทั่วโลก เราได้ให้บริการบริษัทนับร้อยแห่งในทำเนียบ Fortune 500 นอกจากนี้ ยังได้ให้บริการลูกค้านับร้อยล้านรายทั่วโลก แล้วคุณบอกว่า หัวเว่ยมีความเสี่ยงต่อความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์โดยไม่มีหลักฐานมายืนยัน แล้วมีเหตุผลอื่นใดอีก

สำหรับประเด็นเรื่องการแข่งขัน

หากคุณมองย้อนกลับไปถึงความก้าวหน้าในแง่ของเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกิดขึ้นในสังคมมนุษย์นั้น มีแรงขับเคลื่อนที่ยิ่งใหญ่ซึ่งก็คือ การแข่งขันอันชอบธรรมระหว่างอุตสาหกรรมและบริษัทต่างๆ

หากปราศจากการแข่งขัน ผู้บริโภคก็ไม่สามารถสัมผัสกับเทคโนโลยีที่ดีกว่าเดิมในช่วงเวลาที่สั้นลงได้

นอกจากนี้ เรายังเชื่อด้วยว่า ความเป็นผู้นำนั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการแข่งขันกัน

การสกัดกั้นคู่แข่งออกจากสนามย่อมไม่อาจทำให้ตัวคุณเองเก่งกล้าขึ้นมาได้

เราจึงเชื่อว่า ไม่ว่าจะด้วยข้อกังวล คำกล่าวหา หรือความสงสัยใดๆ ก็ตามในเรื่องความปลอดภัยเกี่ยวกับหัวเว่ย ควรที่จะตั้งอยู่บนหลักฐานที่มีมูลความจริง หากปราศจากหลักฐานดังกล่าวแล้ว เราก็จะไม่ยอมรับและต่อต้านข้อกล่าวหาเหล่านั้น

สำหรับเทคโนโลยี 5G ที่กำลังจะติดตั้งใช้งาน หัวเว่ยมีสถานะเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งในด้านนี้

บริษัทชั้นนำต่างก็ต้องการความเคารพและส่งเสริมสนับสนุน จากการที่เราได้ดำเนินการแข่งขันที่ถูกต้องตามกติกาและผลักดันให้เกิดการพัฒนาที่เฟื่องฟูในอุตสาหกรรม ในท้ายที่สุดแล้ว สังคมโดยรวมก็จะได้ประโยชน์นั่นเอง

แดน สทรัมปฟ์, วอลล์ สตรีท เจอร์นัล: ตามที่คุณทราบแล้วว่า มีความพยายามอย่างยิ่งยวดในการต่อต้านหัวเว่ยตลอดช่วงปีที่ผ่านมาในประเทศตะวันตกหลายประเทศทั่วโลกโดยมีสหรัฐอเมริกาและหน่วยงานด้านความมั่นคงในสหรัฐฯ เป็นตัวตั้งตัวตี และมีรายงานหนาหูว่า ความพยายามดังกล่าวนี้เกิดจากความร่วมมือกัน ผ่านมา 6 ปีแล้วที่รัฐบาลอเมริกาได้หยิบยกข้อกังวลด้านความปลอดภัยของหัวเว่ยมาเป็นประเด็น และบริษัทเองก็ตระหนักถึงสถานะดังกล่าวนี้หลังจากที่ได้ปกป้องตนเองจากข้อกล่าวหาแบบเดียวกันนี้ผ่านไป 6 ปีให้หลัง ผมเพียงสงสัยว่า หากคุณเชื่อ หากหัวเว่ยเชื่อว่า บริษัทน่าจะมีการดำเนินการที่ต่างไปจาก 6 ปีก่อนเพื่อติดต่อสื่อสารกับตำแหน่งที่ตั้งของบริษัทในสหรัฐฯ แต่รัฐบาลต่างๆ กลับคิดว่าเป็นการกระทำที่ไม่น่าไว้วางใจ โดยเฉพาะรัฐบาลที่เคยต้อนรับหัวเว่ย แต่ปัจจุบันไม่เต็มใจเหมือนแต่ก่อนที่จะนำอุปกรณ์ของหัวเว่ยมาใช้ในโครงข่าย 5G ที่กำลังจะเริ่มขึ้น ขอบคุณครับ

มร. เคน หู: ตลอดช่วงสองปีมานี้ หัวเว่ย ได้ใช้มาตรการต่างๆ เพื่อสื่อสารกับรัฐบาลในเชิงรุก นอกเหนือจากการพูดคุยสื่อสารแล้ว เรายังได้วางกลไกความร่วมมือด้านความมั่นคงปลอดภัยร่วมกับรัฐบาลประเทศต่างๆ รวมถึงรัฐบาลของอังกฤษ แคนาดา เยอรมนี และฝรั่งเศส เราขอขอบคุณแนวทางที่เปิดกว้างอันนำไปสู่การปฏิบัติที่รัฐบาลต่างๆ ได้แสดงให้เห็นภายใต้ความร่วมมือเหล่านี้ และความคืบหน้าดังกล่าวได้ผลักดันให้หัวเว่ยทำในสิ่งที่ดียิ่งๆ ขึ้นไปในด้านต่างๆ นี่คือกลยุทธ์และแนวทางที่หัวเว่ยจะยังดำเนินต่อไป

ในขณะเดียวกัน อย่างที่ผมได้กล่าวไปแล้วในช่วงต้นว่า เรารู้ดีว่าการที่เราเติบโตขึ้นนั้น การสื่อสารและให้ความร่วมมือเชิงรุกย่อมเป็นส่วนหนึ่งในหน้าที่ของเราด้วย เพราะโดยธรรมชาติ บริษัทใหญ่ๆ มักเป็นที่สนใจและสร้างความกังวลได้มากกว่าอยู่แล้ว ดังนั้น เมื่อบริษัทของเรามีกิจการที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เราจึงยังคงเปิดกว้างและรักษาความโปร่งใสเอาไว้ พร้อมสื่อสารกับผู้เกี่ยวข้องดังกล่าวเพื่อแก้ไขและคลี่คลายข้อกังวลใจที่พวกเขามี

โทนี่ ฉาน, คอมส์เดย์: ผมมีคำถามสองข้อเกี่ยวกับออสเตรเลีย ผมอยากจะทราบตัวเลขเรื่องค่าใช้จ่ายการเปิดใช้งานสถานีฐานและเครือข่ายไร้สายโดยที่ไม่ใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยที่คุณได้พูดถึงไปก่อนหน้านี้ การศึกษานั้นหัวเว่ยดำเนินการเองหรือโดยผู้อื่น อีกข้อหนึ่งก็คือ หัวเว่ยยังคงมีส่วนร่วมกับรัฐบาลออสเตรเลียแม้จะมีนโยบายออกมาเมื่อเร็วๆ นี้ห้ามไม่ให้หัวเว่ยลงทุนในโครงการ 5G ผมต้องการทราบว่าได้มีการพูดคุยถึงข้อบังคับใดๆ สำหรับหัวเว่ยอย่างละเอียดหรือไม่ อย่างเช่น สิ่งที่หัวเว่ยสามารถดำเนินการเพื่อให้ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ หรือว่านี่เป็นการแบนที่ไม่มีมูลความจริง ไม่มีข้อมูลที่ชี้ชัดหรือข้อมูลด้านเทคนิคแต่อย่างใด

มร. เคน หู: สำหรับคำถามข้อแรก เรื่องตัวเลขที่ผมได้บอกคุณไปนั้นมาจากรายงานที่มีผู้ดำเนินการทำให้ ซึ่งก็คือ บริษัทฟรอนเทียร์ อีโคโนมิกส์ (Frontier Economics) รายงานนี้มีชื่อว่า คุณค่าของการแข่งขันด้านการพัฒนาเครือข่าย 5G   (The Value of Competition on 5G Network Deployment) หากสนใจ เราสามารถส่งรายงานนี้ให้คุณได้ทุกคน

สำหรับคำถามข้อที่สอง น่าเสียดายที่เราไม่ได้รับข้อความใดๆ ที่ชัดเจนจากรัฐบาลออสเตรเลีย ที่ระบุถึงปัญหาที่แท้จริงและหลักฐานที่สนับสนุนข้อสรุปของพวกเขา และเราก็ไม่มีโอกาสที่จะชี้แจงถึงข้อสงสัยนี้กับรัฐบาลออสเตรเลีย

เคลย์ แชนด์เลอร์, ฟอร์จูน: ขอย้อนกลับไปที่คำถามของแดน คุณได้โชว์ให้เราเห็นการทดสอบและศูนย์ประเมินผลของที่นี่ที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว  รวมถึงอธิบายเกี่ยวกับขั้นตอนต่างๆ ที่ดำเนินการในประเทศต่างๆ อย่างสหราชอาณาจักร ผมอยากรู้ว่า ในสหรัฐฯ และออสเตรเลียนั้น คุณเห็นถึงคุณค่าที่จะลงทุนสร้างศูนย์แบบเดียวกันนี้หรือไม่ เพื่อให้ผู้คนได้รับรู้ว่าเทคโนโลยีเหล่านี้สามารถตรวจสอบได้ ตลอดจนแสดงให้เห็นประวัติด้านความมั่นคงปลอดภัยของบริษัทอย่างเป็นรูปธรรมในบางประเทศที่ยังมีปัญหาอยู่

มร. เคน หู: ทำไมจะไม่ล่ะครับ หากเราโฟกัสเฉพาะแค่ที่ศูนย์ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ในสหราชอาณาจักร มันก็แค่เฉพาะของสหราชอาณาจักรเท่านั้น เรายังมีศูนย์แบบเดียวกันนี้ในแคนาดาเพื่อแก้ไขข้อกังวลเหล่านี้ ในเยอรมนีเราก็มีศูนย์ความมั่นคงปลอดภัยแห่งใหม่เพื่อให้บริการสำหรับตลาดเยอรมัน อย่างที่ผมได้กล่าวไปข้างต้น เราควรสื่อสารกับรัฐบาลเพื่อทำความเข้าใจข้อกังวลของพวกเขากันอย่างจริงจัง รวมถึงดำเนินการไปในทิศทางเดียวกันเพื่อแก้ไขและคลี่คลายข้อกังวลดังกล่าว

เมื่อมีคนหยิบยกประเด็นความกังวลเรื่องความปลอดภัยขึ้นมาพูดถึง หากพวกเขาต้องการจะแก้ไขจัดการปัญหาดังกล่าว ผมก็จะบอกอย่างชัดเจนว่าเราสามารถหาทางออกที่ถูกต้องเหมาะสมได้ 

ทว่าหากความกังวลด้านความปลอดภัยอื่น ๆ ถูกยกขึ้นมาเพื่อเป็นข้ออ้างในการปิดกั้นการแข่งขันในตลาด โดยที่ไม่ได้ต้องการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง ผมก็คงต้องบอกว่าผลลัพธ์ที่ได้นั้นจะต่างออกไปมาก ยกตัวอย่างเช่น ในกรณีเทคโนโลยี 5G หากมีคนอ้างเรื่องความกังวลด้านความปลอดภัยเพียงเพื่อจะปิดกั้นการแข่งขันในตลาด ผลที่ตามมาก็คือ จะทำให้การนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ล่าช้าออกไปอีก ต้นทุนในการติดตั้งใช้งานเครือข่ายก็จะเพิ่มสูงขึ้น และทำให้ผู้บริโภคไม่สามารถใช้เทคโนโลยีและบริการที่ดีได้ทันเวลา แถมยังต้องจ่ายแพงกว่าเพื่อซื้อบริการเหล่านั้นด้วย  

และหากมองในด้านความปลอดภัย วิธีการเช่นนี้ก็ไม่อาจช่วยแก้ไขและจัดการปัญหาเกี่ยวกับความปลอดภัยด้านไซเบอร์ได้อย่างแท้จริง ด้วยข้อเท็จจริงที่ว่าห่วงโซ่คุณค่าด้านไอซีที (ICT value chain) เกี่ยวข้องกับทุกประเทศทั่วโลกโดยธรรมชาติ หากมีความกังวลว่าอุปกรณ์ของหัวเว่ยผลิตขึ้นในประเทศจีน ขอให้คุณลองมองบริษัททั้งหลายในห่วงโซ่คุณค่าด้านไอซีที แล้วคุณจะพบว่าแทบไม่มีบริษัทไหนจะกล่าวได้อย่างเต็มปากว่าไม่มีผลิตภัณฑ์หรือชิ้นส่วนสินค้าใด ๆ ของพวกเขาที่ไม่ผลิตขึ้นในจีน    

เราตั้งใจจะผลักดันให้ผู้ประกอบการทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ล้มเลิกความคิดเรื่องอุดมการณ์หรือบริบททางการเมืองไปให้หมด และหันมาปรึกษาหารือในเรื่องความปลอดภัยและเทคโนโลยีแทน ผมยังได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายมาร่วมกันระบุปัจจัยความเสี่ยงที่แท้จริงและช่วยกันหาทางแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องด้วย

ซื่อเจีย เจียง, รอยเตอร์ส: อยากจะทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการลงทุน 2 พันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อปรับปรุงซ่อมแซมด้านความปลอดภัย ช่วยอธิบายเพิ่มเติมได้ไหมว่าทำไมต้องลงทุนเป็นจำนวนเงินเท่านี้ จะแบ่งสรรเงินทุนในตลาดไหนบ้าง อย่างไร และทำไมต้องลงทุนตอนนี้ นอกจากนี้ มันเกี่ยวอะไรกับรายงานจากศูนย์ประเมินความปลอดภัยด้านไซเบอร์เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาหรือไม่ที่คุณตัดสินใจจะจัดการแก้ไขปัญหาข้อกังวลบางประการในสหราชอาณาจักร ที่สำคัญคือบางปัญหาก็เคยถูกหยิบยกพูดถึงมาแล้วตั้งแต่เมื่อปี 2015 แล้วเพราะเหตุใดคุณถึงใช้เวลานานที่จะลงมือแก้ไข แล้วทำไมต้องตอนนี้

มร. เคน หู: โปรแกรมการพัฒนาระบบวิศวกรรมซอฟต์แวร์ระยะเวลา 5 ปีซึ่งมีมูลค่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐนั้น เป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโฉมด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์แบบบูรณาการ (Integrated Product Development: IPD) ของหัวเว่ย โดยปีนี้ บริษัทตัดสินใจที่จะเริ่มดำเนินแผนการที่เราเรียกกันว่าแผนการ IPD 2.0 ซึ่งโปรแกรมการพัฒนาระบบวิศวกรรมซอฟต์แวร์นี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามทั้งหมดดังกล่าว

ย้อนไปมากกว่าสิบปีที่ผ่านมา เราได้เริ่มกระบวนการปรับโฉมนี้ด้วยการนำเอาการพัฒนาผลิตภัณฑ์แบบบูรณาการมาปรับใช้กับเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งเราเรียกมันว่าแผนการ IPD 1.0 และด้วยความมุ่งมั่นพยายามของเราในตลาดกว่าสิบปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งแรงสนับสนุนให้เกิดกระบวนการปรับเปลี่ยนโครงสร้างต่าง ๆ เหล่านี้ เราจึงสามารถส่งมอบนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือและมีคุณภาพสูงให้แก่ลูกค้าได้

จากนั้นเราจึงริเริ่มแผนการ IPD 2.0 ด้วยการปรับความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับวิวัฒนาการเทคโนโลยีแห่งอนาคต สภาพแวดล้อมของเครือข่ายในอนาคต รวมถึงสิ่งที่ผู้บริโภคและสังคมคาดหวังจากเทคโนโลยีในภาพรวมด้วย หากมองในเชิงเทคนิค อย่างที่เราพูดกัน ภูมิทัศน์ด้านเทคนิคในอนาคตจะมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น หากมองด้านเครือข่าย สภาพแวดล้อมเครือข่ายในอนาคตจะเปิดกว้างมากขึ้นและเชื่อมต่อทั้งผู้คนและสิ่งของ หากมองในแง่สังคม เทคโนโลยีดิจิทัลก็จะยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นและกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้ในชีวิตของผู้คน ทั้งในแง่ของการทำงานและการใช้ชีวิต ดังนั้นผลที่ตามมาก็คือ สิ่งที่ผู้คนคาดหวังจากเทคโนโลยีจะไม่ใช่เพียงแต่ความเป็นผู้นำด้านเทคนิคและคุณภาพชั้นเยี่ยม แต่ความปลอดภัยจะกลายเป็นความต้องการและความจำเป็นขั้นพื้นฐานสำหรับทุกคนด้วย

เราคาดการณ์ว่าในอนาคตข้างหน้าอีกไม่นานนี้ ความไว้วางใจได้และความปลอดภัยของเทคโนโลยีจะกลายเป็นสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐานที่สุดสำหรับเทคโนโลยีทุกประเภท

นั่นคืออนาคตที่เรามองเห็น และเราจะเริ่มทำงานจากจุดนั้นย้อนมาให้จรดกับปัจจุบัน ความน่าเชื่อถือของเทคโนโลยีหรือผลิตภัณฑ์ไม่อาจวัดได้จากการดำเนินการทดสอบ ณ ขั้นตอนสุดท้ายของการพัฒนาเทคโนโลยีหรือผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดียว ทว่าควรเริ่มตั้งแต่ช่วงการออกแบบขั้นต้นเลยด้วยซ้ำ อย่างที่คนมักพูดกันว่า ผลิตภัณฑ์ที่ดีไม่ได้ถูกสร้างขึ้นหลังผ่านการทดสอบเท่านั้น แต่ผ่านการออกแบบและการพัฒนาด้วย

เช่นเดียวกัน เราเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความไว้วางใจและมีความปลอดภัยสำหรับอนาคตนั้นจะต้องพึ่งพาการออกแบบเป็นอันดับแรก ความไว้วางใจและความปลอดภัยด้านผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโฉม IPD 2.0 เป็นเป้าหมายที่สำคัญอย่างยิ่งที่เราจะต้องยึดถือไว้ในอนาคต ในขณะเดียวกัน เรามองว่า ซอฟต์แวร์จะมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์ในอนาคต ดังนั้น วิศวกรรมซอฟต์แวร์ก็จะมีบทบาทที่สำคัญมากยิ่งขึ้นในการรับประกันด้านความน่าไว้วางใจและความปลอดภัยสำหรับผลิตภัณฑ์แห่งอนาคต

คุณพูดถูกเกี่ยวกับเรื่องรายงานจากหน่วยงาน Oversight Board ในสหราชอาณาจักรที่เผยแพร่ในเดือนกรกฎาคม เมื่อเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานได้รับทราบถึงข้อมูลบันทึกย้อนหลังในด้านความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์หัวเว่ย พวกเขาก็ได้เตือนเราว่าหัวเว่ยต้องปรับปรุงขีดความสามารถและแนวทางด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์

นี่เป็นความช่วยเหลือจากรัฐบาลอังกฤษ ซึ่งเราเองก็รู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้รวมเอาความสามารถในด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์เข้าเป็นองค์ประกอบที่มีความสำคัญยิ่งในฐานะส่วนหนึ่งของแผนการปรับโฉม IPD 2.0 โดยรวม สำหรับประเด็นที่ว่าตัวเลขนี้ (2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) มีที่มาอย่างไร มันเกิดจากการผสมผสานเทคโนโลยีของเราเข้าด้วยกันและอิงจากการประเมินราคาของเราเอง

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี้ เราได้แสวงหาแนวทางการปรับปรุงด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์นี้ในฐานะส่วนหนึ่งของแผนการปรับโฉม IPD 2.0 โดยรวม และมีการวางแผนเพื่อนำไปปฏิบัติในอนาคต เราจึงค่อนข้างมั่นใจถึงการปรับเปลี่ยนในส่วนนี้

เนื่องจากหัวเว่ยเป็นบริษัทขนาดใหญ่ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะตัดสินใจ โดยเฉพาะในเรื่องใหญ่ๆ แต่เมื่อใดก็ตามที่เราได้ตัดสินใจไปแล้ว หัวเว่ยก็ไม่เคยพลาด เราจึงหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เห็นผลลัพธ์ของสิ่งที่เราได้ตัดสินใจไปแล้ว ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ เรามองว่าการปรับเปลี่ยนในด้านนี้  รวมถึงความพยายามปรับปรุงในสิ่งต่างๆ ล้วนเป็นสิ่งที่มีความหมายสำหรับเราในการรักษาความเชื่อมั่นที่มีต่ออนาคตในระยะยาวเอาไว้ได้ ตลอดจนความเชื่อมั่นที่มีต่อรัฐบาลต่างๆ ลูกค้า และพันธมิตรทั่วโลกของหัวเว่ย

ซื่อเจีย เจียง, รอยเตอร์ส: หัวเว่ยมีแผนที่จะรับคนใหม่ๆ เข้ามาหรือเปิดใช้งานห้องปฏิบัติการแห่งใหม่หรือไม่

มร. เคนหู: การลงทุนนี้จะครอบคลุมในหลายๆ ด้าน รวมถึงตัวองค์กรและพนักงาน อย่างเช่น เราจะเพิ่มคนเข้ามามากขึ้น  โดยเฉพาะคนที่เก่งๆ ในด้านความปลอดภัยซอฟต์แวร์ รวมถึงปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องปฏิบัติการ ตลอดจนตรวจสอบและปรับปรุงกระบวนการต่างๆ ของเราด้วย ในขณะเดียวกัน เราก็ต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการทางความคิดของวิศวกรฝ่ายวิจัยและพัฒนานับหมื่นคนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามนี้  เพื่อให้พวกเขารู้ว่าความปลอดภัยทางระบบและความไว้วางใจนั้นเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจสำคัญที่เราทุ่มเทเพื่อลูกค้าของเรา

เอ็ดวิน ชาน, บลูมเบิร์ก: ผมว่ามีเพื่อนสื่อที่ได้ถามคำถามนี้ไปแล้ว แต่ผมอยากจะขอถามเพิ่มเติมในรายละเอียดบางอย่างสักหน่อย อย่างที่เราทราบกันว่า ผู้ให้บริการโทรคมนาคมหลายรายกำลังพิจารณาหรือได้ตัดสินใจไปแล้วที่จะสกัดกั้นอุปกรณ์หัวเว่ย หรือเลี่ยงที่จะไม่ใช้อุปกรณ์ 5G ของหัวเว่ย แล้วอย่างนี้ หัวเว่ยจะมั่นใจถึงการสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนได้หรือไม่ ผมทราบมาว่า ทางบริษัทได้ประกาศผลประกอบการปี 2018 ซึ่งทะลุหนึ่งแสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปแล้ว แต่คุณมั่นใจหรือไม่ที่จะประคองอัตราการเติบโตให้อยู่ในระดับนี้ต่อไปเมื่อพิจารณาจากสิ่งที่ผมได้กล่าวถึง และหากพูดกันตามหลักปรัชญาแล้ว ผมคิดว่าคุณอาจจะยอมรับว่า หัวเว่ยได้มาถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญมากในหน้าประวัติศาสตร์   คุณมาถึงจุดที่จะได้เป็นมหาอำนาจด้าน 5G แล้ว แล้วก็เกิดเรื่องนี้ขึ้น ถึงตอนนี้ ผมเข้าใจว่าในบางแง่มุมมันเป็นปัญหาด้านเทคนิคนั่นเอง มีหลายฝ่ายที่ออกมาโต้ว่า หัวเว่ยเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี 5G อยู่แล้ว ซึ่งผมมองว่าข้อกังวลที่สำคัญนี้เป็นปัญหาที่มีแรงจูงใจมากกว่า หรือเป็นประเด็นเรื่องความเป็นอิสระของบริษัท แล้วคุณรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร

มร. เคน หู: เราไม่ได้มองเรื่องนี้ในแง่ลบเหมือนอย่างที่คุยกันอยู่ตอนนี้ เราไม่เห็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่บอกว่า พวกเขาอยากจะเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ของผู้ผลิตรายอื่นแทนหัวเว่ย หรือต้องการเลี่ยงไม่ใช้หัวเว่ย ในทางกลับกัน ผู้ให้บริการโทรคมนาคมนับร้อยรายที่เราร่วมงานด้วยทั่วโลก แทบทุกรายต่างพูดว่า พวกเขาต้องการทำงานร่วมกับหัวเว่ย ใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยเพื่อพัฒนาเครือข่าย  5G ของตนเอง เพราะพวกเขารู้ดีว่า เราเป็นผู้ให้บริการที่ดีที่สุดในด้านนี้ เพียงแค่ใช้อุปกรณ์ที่ดีที่สุด พวกเขาก็สามารถสร้างเครือข่าย  5G ที่เร็วกว่าขึ้นมาได้ และมีโอกาสที่จะแข่งขันทางด้านราคาได้มากกว่า

เช่นเดียวกับการแข่งขัน ที่มีนักวิ่งหลายคนในสนามและเราเป็นผู้นำอยู่ในตอนนี้  ผมคิดว่านักวิ่งตัวเก็งควรต้องมั่นใจเกี่ยวกับอนาคตไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม และเราก็มั่นใจว่าเราจะเป็นคนแรกที่เข้าถึงเส้นชัย

สำหรับเรื่องความเป็นอิสระของเรานั้น ผมคิดว่า วิธีโน้มน้าวใจที่ดีที่สุด คือการให้ข้อเท็จจริงพูดออกมาเองตลอดเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมานั้น เราได้ให้บริการแก่อุตสาหกรรมโทรคมนาคมและประวัติย้อนหลังในหลายๆ ด้านของเราก็พิสูจน์ได้ถึงความเป็นอิสระของเราเช่นกัน

ผมคิดว่าเราไม่จำเป็นที่จะต้องจมอยู่กับความหวาดกลัวหรือการคาดคะเนอยู่ตลอดเวลาโดยปราศจากมูลความจริง แต่การพูดเช่นนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเราไม่เห็นคุณค่าในเสียงสะท้อนของผู้อื่นหรือข้อกังวลที่มีต่อความเปิดกว้าง ความโปร่งใส หรือความเป็นอิสระของหัวเว่ยแต่อย่างใด

ดังนั้น ไม่ว่าจะในอดีตหรือในอนาคต เราจะยังคงปฏิบัติตามแนวทางเรื่องความโปร่งใสเพื่อสื่อสารเชิงรุกในส่วนที่เป็นข้อกังวลทางกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ข้อมูลที่พวกเขาต้องการพิ่มเติม

หยาง หยวน, ไฟแนนเชียล ไทม์ส: คุณได้กล่าวว่า (เรื่องที่เกิดขึ้น) เป็นความกังวลที่สัมพันธ์กับภูมิศาสตร์การเมืองมากกว่าความกังวลในแง่เทคนิค และเมื่อโยงไปถึงความกังวลของรัฐบาลต่างๆ เกี่ยวกับความปลอดภัย 5G ของหัวเว่ย คุณได้กล่าวถึงเรื่องนี้ในบริบทของสหรัฐอเมริกา  แต่คุณคิดหรือไม่ว่า ข้อกังวลเดียวกันนี้ในด้านภูมิศาสตร์การเมืองยังเป็นตัวกระตุ้นให้ประเทศต่างๆ ทั้งญี่ปุ่น หรือเมื่อเร็วๆ นี้ อย่างสาธารณรัฐเช็ค หรือแม้แต่บีทีก็ออกมาแสดงความคิดเห็นกีดกันอุปกรณ์หัวเว่ยออกจากเครือข่ายหลักของตนเอง หรือคุณจะบอกว่าประเทศเหล่านี้อาจได้รับอิทธิพลมาจากความกังวลทางการเมืองของสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน หรือเป็นเพราะข้อกังวลเรื่องเทคนิคจริงๆ  และหากจะตั้งคำถามที่เจาะลงไปมากขึ้นในประเด็นดังกล่าว หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลของอังกฤษและคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของสหรัฐฯ ที่เราได้เอ่ยถึงไปนั้นต่างลงความเห็นไปเมื่อเดือนกรกฎาคมว่า มาตรฐานความปลอดภัยของหัวเว่ยอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรม คุณคิดว่านี่เป็นข้อค้นพบทางด้านเทคนิคหรือมีแรงจูงใจทางการเมืองด้วยหรือไม่ และถ้าหากพบว่าเป็นเรื่องทางเทคนิค เหตุใดคุณจึงไม่เตรียมความพร้อมสำหรับเรื่องนี้

มร. เคน หู: ผมขอตอบประเด็นของบีทีก่อนละกันครับ เราทำงานกับบีทีมากว่า 10 ปี และเป็นพันธมิตรที่ดีมากต่อกันและกัน เราได้จัดหาอุปกรณ์มากมายทั้งแบบติดตั้งประจำที่และไร้สายให้กับบีที

ตั้งแต่เริ่มแรกที่หัวเว่ยและบีทีได้ร่วมมือกัน เราได้หารือกันอย่างรอบด้านเกี่ยวกับกลยุทธ์ทั้งหมดก่อนที่จะวางระบบเครือข่าย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจุดที่จะนำอุปกรณ์ของหัวเว่ยมาใช้กับโครงข่ายของบีที

สำหรับเทคโนโลยี 5G นั้น บีทีตระหนักดีถึงความเป็นผู้นำของหัวเว่ยอย่างที่ได้ยกตัวอย่างไปแล้วในแถลงการณ์ของประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสถาปัตยกรรมระบบ ที่กล่าวว่าหัวเว่ยเป็นซัพพลายเออร์ 5G ที่แท้จริงเพียงรายเดียวในตลาดตอนนี้ ด้วยเหตุนี้  นั่นจึงไม่ใช่เหตุผลที่บีทีซึ่งไม่ได้รับแรงกดดันทางด้านเทคนิคจะตัดสินใจกีดกันอุปกรณ์หลักๆ ของหัวเว่ยออกไปอย่างแน่นอน

ความร่วมมือทุกด้านระหว่างหัวเว่ยกับบีทีจะดำเนินไปตามกลยุทธ์การติดตั้งใช้งานเครือข่ายที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ระหว่างหัวเว่ยกับบีที

รายงาน OB ประจำปีนี้ครอบคลุมด้านต่างๆ ที่หัวเว่ยจะต้องปรับปรุงแก้ไขในเรื่องของขีดความสามารถทางเทคนิค เราได้ยึดมั่นให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก พร้อมให้คุณค่ากับความคิดเห็นและมุมมองที่อยู่ในรายงานนี้ด้วย

ในอีกด้านหนึ่งนั้น เราก็ได้หารือเชิงรุกกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมในอังกฤษ ตลอดจนผู้ออกกฎเพื่อศึกษาและหาแผนปฏิบัติการเพื่อแก้ไขปัญหาโดยใช้ข้อมูลดังกล่าว

ในขณะเดียวกัน เรายังได้เริ่มดำเนินการภายในองค์กร และผมก็อยากบอกด้วยว่า ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมานี้และในช่วงไม่ถึงครึ่งปี ความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นในมิติต่างๆ ได้รับการส่งเสริมมาพอสมควร

ยูนีซ ยูน, ซีเอ็นบีซี: ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ดูจะสนุกกับการเข้าไปมีส่วนร่วมโดยตรงกับผู้บริหารและหนึ่งในนั้นก็คือ แจ๊ค หม่า คุณหรือผู้บริหารหัวเว่ยเคยคิดที่จะไปเยือนทำเนียบขาวหรือไม่ หรือหากได้รับเชิญ คุณจะไปหรือไม่

มร. เคน หู: เรายังไม่เคยได้รับคำเชิญนั้น และยังไม่มีแผนสำหรับเรื่องนี้ด้วย

คำกล่าวปิดท้าย

มร. เคน หู: ท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษทุกท่านครับ ผมขอขอบพระคุณทุกท่านเป็นอย่างสูงที่ได้สละเวลามาร่วมงานสัมภาษณ์และการสนทนาอันยาวนานนี้ ซึ่งช่วยให้ผมได้ทำความเข้าใจมุมมองต่างๆ ที่มีในแวดวงสื่อมวลชนได้มากทีเดียว ผมขอสรุปรวบรัดก่อนที่จะเราจะปิดงานแถลงข่าวนี้

จากที่เราได้พูดคุยกันในวันนี้ กว่า 30 ปีที่ผ่านมา เราเชื่อว่าการที่หัวเว่ยมีทุกวันนี้ได้ก็เพราะการทุ่มเททำงานหนักและการเสียสละของพนักงานหัวเว่ยทุกคน เราขอขอบคุณสำหรับความไว้วางใจและการสนับสนุนจากลูกค้า พันธมิตร และรัฐบาลในประเทศต่างๆ ทั่วโลก

ผมร่วมงานกับหัวเว่ยมาตั้งแต่ปี 1990 หรือเกือบ 30 ปีที่แล้ว ผมรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เห็นมาเกือบทุกกระบวนการ ในมุมมองของผม ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา บนถนนแห่งการเปลี่ยนแปลงสายนี้ หัวเว่ยได้ออกเดินทางไปมาแล้วในหลายมิติ ทั้งด้านวัฒนธรรมและการบริหารบุคลากร เส้นทางสายนี้ทำให้เราเติบโตขึ้นจากที่เคยเป็นผู้จัดจำหน่ายที่ไม่มีใครรรู้จักมาสู่ผู้นำเทคโนโลยี 5G และในปัจจุบันนี้ โซลูชั่นผลิตภัณฑ์ 5G ของเราได้ก้าวขึ้นสู่แถวหน้าที่ล้ำกว่าผู้ให้บริการรายอื่นๆ ในอุตสาหกรรม     

ขอขอบคุณทั่วโลกที่ให้การยอมรับหัวเว่ย ขอขอบคุณสำหรับการทุ่มเททำงานของพนักงานหัวเว่ย เราเชื่อว่าผู้นำในอุตสาหกรรมสมควรได้รับการเคารพ จากการที่เราได้ส่งเสริมการแข่งขันที่ดีและขับเคลื่อนการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและสังคม ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว เทคโนโลยี 5G ที่จะเกิดขึ้นจะสร้างโอกาสและประโยชน์มหาศาลมาสู่สังคม ตลอดจนสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงต่อชีวิตผู้คนจำนวนมากและอนาคตของหลายอุตสาหกรรม และเราก็เชื่อว่า การพัฒนา 5G นั้นต้องพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก

สำหรับเรื่องความปลอดภัยนั้น ในช่วง 30ปีที่ผ่านมา หัวเว่ยยังได้มีการตรวจสอบบันทึกข้อมูลย้อนหลังเกี่ยวกับความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ และไม่มีหลักฐานว่าหัวเว่ยเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของประเทศใดๆ เรายินดีเสมอที่จะพูดคุยอย่างเปิดเผยไม่ว่ากับใครก็ตามที่มีข้อกังวลอันสมเหตุสมผล แต่สำหรับข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริงเกี่ยวกับหัวเว่ย พวกเราจะต้องปกป้องชื่อเสียงของบริษัท และพวกเราจะไม่ยอมให้บริษัทได้รับความเสียหาย

สุดท้ายนี้ “ผมขอยกคำพูดของโรแมง โรลองด์ (นักเขียนชาวฝรั่งเศสที่ได้รับรางวัลโนเบลด้านงานเขียนในปี พ.ศ. 2458) ว่า “ความกล้าหาญเพียงหนึ่งเดียวในโลกนี้คือ การมองโลกอย่างที่มันเป็น และจงรักมัน”  สำหรับหัวเว่ยก็เช่นกัน เรามองสิ่งที่เราต้องเผชิญและเราก็ยังรักงานที่เราทำอยู่ ในภาษาจีน ก็มีคำพูดที่ว่า "道阻且长,行且将至." ซึ่งหมายถึง ถนนข้างหน้านั้นยากลำบากและยาวไกล แต่เราจะยังคงเดินหน้าต่อไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดหมาย เพราะเราได้ก้าวเข้ามาในเส้นทางนี้แล้ว ขอขอบคุณทุกท่านอีกครั้งที่สละเวลามาร่วมงานในวันนี้ ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมสนทนากับพวกคุณทุกคน และสุดท้ายนี้ ขออวยพรทุกท่าน สุขสันต์วันคริสต์มาส และสวัสดีปีใหม่ ขอบคุณครับ!