ความจริงจากหัวเว่ย

เชื่อมโยงผู้คนกว่าสามพันล้านคนในกว่า 170 ประเทศ

icon world

พนักงานเป็นเจ้าของ
ทั้งหมด 100%

icon employee

ตลอด 30 ปีแห่ง
ความปลอดภัยและความมั่นคง

icon shield1

หัวเว่ยเป็นบริษัทอิสระที่มีเอกชนเป็นเจ้าของซึ่งให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT)

เราให้บริการลูกค้า 3 ประเภทหลักทั่วโลก:

  • ผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่ให้บริการอินเทอร์เน็ต บรอดแบนด์ ระบบไร้สาย รวมถึงบริการโทรศัพท์พื้นฐานและโทรศัพท์มือถือ
  • วิสาหกิจ องค์กร สถาบัน รัฐบาลและสาธารณูปโภค ตลอดจนอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งการเงิน พลังงาน การขนส่งและการผลิต
  • ผู้บริโภคที่ซื้อสมาร์ทโฟน นาฬิกาอัจฉริยะ คอมพิวเตอร์แล็ปท็อปและอุปกรณ์อื่นๆ ของเรา

ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่เราพัฒนาและส่งมอบให้กับลูกค้าของเรานั้นมีความปลอดภัย น่าเชื่อถือและเสมอต้นเสมอปลายมาตลอด 30 ปีที่ผ่านมา

เราก่อตั้งขึ้นในปี 1987 ในเมืองเซินเจิ้นทางตอนใต้ของจีน ด้วยทุนจดทะเบียนประมาณ 21,000 หยวน นับแต่นั้นเป็นต้นมา เราได้เติบโตขึ้นจนกลายเป็นผู้จัดหาอุปกรณ์โทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสอง

โดยคาดว่ารายได้ของเราในปี 2019 จะมีมูลค่าถึง 1.229 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

หัวเว่ยจ้างพนักงานมากกว่า 194,000 คนจากมากกว่า 170 ประเทศ เราเป็นผู้นำตลาดในประเทศจีนและในหลายๆ ประเทศทั่วยุโรป เอเชียและแอฟริกา ประชากรโลกมากกว่า 3 พันล้านคนใช้ผลิตภัณฑ์และบริการของหัวเว่ยในการสื่อสารด้วยโทรศัพท์ ส่งข้อความ หรือท่องอินเทอร์เน็ต

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวเว่ย

เราให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและเป็นหนึ่งในผู้ลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เรามีการทำวิจัยและพัฒนาในระดับโลก โดยมีสถาบันและศูนย์วิจัยและพัฒนา 14 แห่ง ศูนย์นวัตกรรมร่วม 36 แห่ง และศูนย์ฝึกอบรม 45 แห่ง เกือบครึ่งของพนักงานของเราต่างมีส่วนร่วมในการวิจัยและพัฒนาในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง และในปี 2018 หัวเว่ยได้ลงทุนไปมากกว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และในอีกห้าปีข้างหน้า เราวางแผนที่จะลงทุนเป็นจำนวน 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

หัวเว่ยเป็นหนึ่งในบริษัทที่ครอบครองสิทธิบัตรเป็นจำนวนมากที่สุดในโลก เราได้รับสิทธิบัตร 87,805 ฉบับและสิทธิบัตรด้านเทคโนโลยีหลักจำนวน 11,152 ฉบับจากสหรัฐอเมริกา

เรามีส่วนร่วมกับองค์กรระบบมาตรฐานมากกว่า 360 องค์กรอย่างจริงจัง และได้ส่งข้อเสนอเพื่อกำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรมกว่า 54,000 ข้อเสนอ นอกจากนี้ เรายังลงทุนในชุมชนโอเพนซอร์สและร่วมมือกับผู้มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมเพื่อคิดค้นพัฒนาในโดเมนเกิดใหม่ เช่น การประมวลผลแบบคลาวด์, 5จี และ Internet of Things

5G

Huawei คือบริษัทแนวหน้าในการแข่งขันสู่ยุค 5G เราล้ำหน้ากว่าคนอื่นในอุตสาหกรรมมากกว่าหนึ่งปี ในแง่ของเทคโนโลยี 5G และการนำไปใช้ เราเป็นบริษัทเดียวที่สามารถให้บริการระบบ 5G แบบครบวงจรได้ ซึ่งรวมถึงสถานีฐานไร้สาย และเสาอากาศและชิปที่พัฒนาเอง ข้อได้เปรียบทางเทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์นี้ทำให้ Huawei สามารถส่งมอบโซลูชัน 5G ที่มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีที่สุด ผสานเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัวที่สุด และประหยัดพลังงานที่สุดในอุตสาหกรรม

มีคู่ค้าที่ให้ความไว้วางใจเราในการนำ 5G ไปปรับใช้งานมากกว่าบริษัทอื่นๆ โดยเราได้ลงนามในสัญญาทางการค้ามากกว่า 40 ฉบับและลงนามในข้อตกลงการร่วมมือกันกับคู่ค้ามากกว่า 50 ราย เราได้จัดส่งสถานีฐาน 5G มากกว่า 70,000 สถานีไปทั่วยุโรป เอเชียและตะวันออกกลาง ในปี 2019 เราจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่ขับเคลื่อนด้วยชิป 5G

หากไม่มีนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ของ Huawei การเปลี่ยนผ่านสู่ยุค 5G จะใช้เวลานานยิ่งขึ้น แพงขึ้นและผู้บริโภคจะเป็นผู้แบกรับค่าใช้จ่าย รัฐบาลและลูกค้าที่มุ่งเน้นการใช้ผู้จัดจำหน่ายที่ดีที่สุดในการนำเครือข่าย 5G ไปใช้งานจะลดระยะเวลาการเผยแพร่เทคโนโลยีใหม่นี้สู่ท้องตลาดลงอย่างมาก ตัวอย่างเช่น LG U+ ในเกาหลีเปิดตัวบริการ 5G หลังจากนำอุปกรณ์เครือข่าย 5G ของ Huawei มาใช้

Huawei เริ่มต้นการค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับ 5G ตั้งแต่ปี 2009 และเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนามาตรฐาน 5G เราเชื่อมั่นในตลาดที่เปิดกว้างและมีการแข่งขัน ซึ่งช่วยให้ผู้ให้บริการและผู้บริโภคเข้าใจประโยชน์จาก 5G ราคาประหยัด ในการนี้ เราได้จัดตั้งองค์กรอุตสาหกรรม เช่น 5G Automotive Association (5GAA), 5G Slicing Association (5GSA) และ 5G Alliance for Connected Industries and Automation (5G-ACIA) รวมถึงเป็นสมาชิก 5G Infrastructure Public-Private Partnership (5G PPP) ของสหภาพยุโรป

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ 5G

ปัญญาประดิษฐ์ (AI)

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กล่าวอย่างเข้าใจง่ายที่สุดก็คือการสร้างเครื่องจักรที่สามารถคิด ปรับตัวและแสดงสติปัญญาที่คล้ายคลึงกับมนุษย์ AI จะเป็นเทคโนโลยีสำคัญแห่งศตวรรษที่ 21 เช่นเดียวกับความสำคัญของกระแสไฟฟ้าในการปฏิวัติอุตสาหกรรม การนำ AI ไปประยุกต์ใช้งานนั้นแทบไม่มีขีดจำกัด ทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมมากมายอยู่แล้ว เช่น การดูแลสุขภาพ ยานยนต์ การเงินและเกม Huawei คาดหวังว่าตลาดของ AI ทั่วโลกจะมีมูลค่าถึง 3.8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2025

เราทำงานด้าน AI มาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว และกลยุทธ์ของเราคือการลงทุนเพื่อการวิจัยและบุคลากร รวมถึงการสร้างกลุ่มผลิตภัณฑ์ AI ที่แข็งแกร่ง ส่งเสริมระบบนิเวศทั่วโลกแบบเปิดและขับเคลื่อนประสิทธิภาพการใช้งานที่ Huawei โซลูชัน AI ของเรากำลังทำให้เทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่และมีพัฒนาการอยู่ตลอดนี้เป็นเทคโนโลยีที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ทั้งยังมีราคาไม่แพงสำหรับทุกคน

เมื่อไม่นานมานี้ เราได้เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ AI ที่ครอบคลุมทั้งหมดสำหรับทุกสถานการณ์ซึ่งสามารถใช้งานได้กับเครือข่าย ระบบคลาวด์และอุปกรณ์ทุกประเภท รวมถึงมอบฟังก์ชันการใช้งานที่กว้างขวางสำหรับลูกค้าของเรา ในภาคโทรคมนาคม เทคโนโลยี AI จะช่วยปรับปรุงการทำงานและการจัดการเครือข่ายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โซลูชัน AI ของเราช่วยให้ธุรกิจและรัฐบาลต่างๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น

สำหรับผู้บริโภค เทคโนโลยีของเราทำให้อุปกรณ์อัจฉริยะฉลาดยิ่งขึ้นไปอีก อุปกรณ์ Mate 20 Pro รุ่นใหม่ของเรานั้นได้รวมคุณสมบัติของ AI อันน่าเหลือเชื่อเอาไว้ในกล้อง รวมทั้งแอปที่สามารถ “แปล” การแสดงออกทางสีหน้าและอารมณ์ให้เป็นเสียงที่สอดคล้องสำหรับผู้มีความบกพร่องทางการมองเห็น และชิป AI ซีรีส์ Ascend รุ่นใหม่ของเรานั้นมุ่งเน้นไปที่ศูนย์ข้อมูลและอุปกรณ์อัจฉริยะ ชิปเหล่านี้สามารถประมวลผลข้อมูลได้รวดเร็วกว่าชิปอื่นๆ ในตลาด ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้เร็วยิ่งขึ้น

เรามีความมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรทางอุตสาหกรรม ชุมชนโอเพนซอร์สและนักพัฒนาในการทำให้ AI เป็นแบบรวม มีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้มากขึ้นสำหรับทุกคน เพื่อเป็นบทพิสูจน์ในข้อนี้ ในเดือนตุลาคม 2018 เราได้ประกาศว่าจะมอบทุนการศึกษา 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อการฝึกอบรมบุคลากรด้าน AI รุ่นถัดไป

โทรศัพท์มือถือ

Huawei คือผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก ในปีที่ผ่านมา ยอดขายสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคในปี 2018 ทะลุสถิติ 5.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เราได้จำหน่ายสมาร์ทโฟนมากกว่า 200 ล้านเครื่อง และคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต อุปกรณ์แบบสวมใส่ เราเตอร์และอุปกรณ์ IoT อื่นๆ รวม 100 ล้านเครื่อง

สมาร์ทโฟนเรือธงของเรา 2 รุ่น ทั้งซีรีส์ Mate และซีรีส์ P เป็นผลิตผลจากประสบการณ์ยาวนาน 30 ปีในอุตสาหกรรม ICT อุปกรณ์เหล่านี้รวมเอานวัตกรรมที่ดีที่สุดของเราไว้ด้วยกัน เพื่อช่วยให้ผู้คนใช้ประโยชน์จากสิ่งรอบตัวได้อย่างเต็มที่

ในปี 2018 เราได้เปิดตัวซีรีส์ Huawei Mate 20 ที่ใช้ชิป AI ใหม่ล่าสุด พร้อมด้วยเทคโนโลยีเลนส์อันน่าทึ่งจาก Leica คู่ค้าของเรา เป็นการเปิดตัวกล้องสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในอุตสาหกรรม

ในเดือนธันวาคมของปีที่ผ่านมา เราได้ก้าวไปอีกขั้นด้วย Mate 20 Pro ซึ่งปัจจุบันมาพร้อมกับซอฟต์แวร์ที่สามารถ “แปล” การแสดงออกทางสีหน้าและอารมณ์ให้เป็นเสียงที่สอดคล้องกัน เพื่อช่วยให้ผู้บกพร่องทางสายตาสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งต่างๆ ในโลกรอบตัว

แต่นวัตกรรมของเราไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น: แบตเตอรี่ของเราช่วยให้อุปกรณ์บางรุ่นในตลาดมีอายุการใช้งานยาวนานที่สุดในตลาด เทคโนโลยีการประมวลผล GPU Turbo ให้กราฟิกที่ราบลื่นเป็นพิเศษทำให้เล่นเกมบนมือถือได้อย่างสนุกสุดๆ และเรายังเป็นบริษัทสมาร์ทโฟนแห่งแรกที่ได้รับการรับรองด้านความปลอดภัยชั้นนำของอุตสาหกรรมสำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ที่รวดเร็วมาก

ปี 2019 จะได้พบกับนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ จากการใช้ชิป 5G ในอุปกรณ์ของเรา อีกทั้งจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนแบบพับได้เครื่องแรกของโลกในเดือนกุมภาพันธ์ 2019

เรามุ่งมั่นที่จะร่วมมือกันทำงานกับทั่วทั้งอุตสาหกรรม เช่นเดียวกับเทคโนโลยีอื่นๆ ทั้งหมดของเรา ระบบนิเวศ HiAI ของเราที่อิงจากชิปเซ็ต Kirin (AI) เปิดให้คู่ค้าและนักพัฒนาทั่วโลกเข้าร่วมสร้างสรรค์แอปพลิเคชันอัจฉริยะใหม่ๆ

เพิ่มเติมเกี่ยวกับมือถือ

ความปลอดภัยคือสิ่งที่อยู่ใน DNA ของหัวเว่ยและคุณสมบัติด้านความมั่นคงปลอดภัยเป็นพื้นฐานสำคัญที่หลอมรวมอยู่ในการออกแบบ การสร้างและการส่งมอบผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเรา นับตั้งแต่ก่อตั้งหัวเว่ยในปี 1987 เราไม่เคยพบเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ร้ายแรงใดๆ

เราตระหนักดีถึงความสำคัญของความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และเข้าใจในความกังวลของรัฐบาลและลูกค้าเกี่ยวกับความปลอดภัย หัวเว่ยเชื่อว่าการทำงานแบบเปิดกว้างและโปร่งใสจะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนและแข็งแรงให้กับอุตสาหกรรมและนวัตกรรมทางเทคโนโลยี นอกจากนี้ยังช่วยให้การสื่อสารระหว่างผู้คนเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย

ด้วยความตระหนักในเรื่องนี้ หัวเว่ยจึงได้ริเริ่มการลงทุนระบบการรับประกันความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลกแบบครบวงจรและจะเดินหน้าต่อไป ในทุกๆ ปีเราใช้จ่าย 5% ของงบประมาณการวิจัยและพัฒนาของเราไปกับการวิจัยและพัฒนาการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ยิ่งไปกว่านั้น เราจะลงทุนเป็นจำนวน 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดช่วงเวลาห้าปีข้างหน้าเพื่อเพิ่มความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์และบริการของเราทั่วโลก

นี่คือกลยุทธ์สำคัญของบริษัท แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการขยาย และทำให้ระบบการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่แข็งแกร่งอยู่แล้วดียิ่งขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าเราปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่มีผลบังคับใช้ทุกข้อในประเทศและภูมิภาคที่เราดำเนินกิจการ รวมถึงกฎหมายและข้อบังคับว่าด้วยการควบคุมการส่งออกและคว่ำบาตรของสหประชาชาติ สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นทั้งนโยบายขององค์กรและหลักการดำเนินงานขั้นพื้นฐานที่สุดของเรา




ความมุ่งมั่นด้านความปลอดภัย

ในสังคมที่เชื่อมต่อถึงกันในปัจจุบัน หากอุตสาหกรรมไอซีทีระดับโลกไม่สามารถแก้ไขปัญหาหรือเผชิญหน้ากับภัยคุกคามความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ได้ โลกดิจิทัลย่อมพังทลายลงอย่างเลี่ยงไม่ได้

และนั่นคือเหตุผลที่การสร้างเครือข่ายที่ปลอดภัยสำหรับลูกค้าคือเป้าหมายอันดับหนึ่งของเรา

และการให้บริการลูกค้านั้นเป็นเพียงเหตุผลเดียวที่ หัวเว่ยยังคงดำเนินธุรกิจมาจนถึงปัจจุบัน

ภัยพิบัติทางธรรมชาติ สงคราม หรือการโจมตีทางไซเบอร์ สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถหยุดเราจากการทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อมอบเครือข่ายที่เสถียร เชื่อถือได้และปลอดภัยให้แก่ลูกค้าของเรา

อาจจะขัดกับสิ่งที่คุณเคยได้ยินมา แต่เราเป็นบริษัทเอกชน 100% ที่มีพนักงานทุกคนเป็นเจ้าของ เราไม่มีคู่ค้าที่ไม่เปิดเผยตัว เราไม่รับคำสั่งจากใคร เราปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับทุกข้อ

หากมีอำนาจใดๆ ที่พยายามบังคับให้เรากระทำการที่ละเมิดความไว้วางใจของลูกค้าโดยไม่ประสงค์ดี เรายอมปิดบริษัทลงดีกว่าให้ชื่อเสียงของบริษัทเสื่อมเสียไปตลอดกาล

บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ทุกแห่งต่างมีวิสัยทัศน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีจินตนาการถึงอนาคต วิสัยทัศน์ของเราคือการนำเสนอเทคโนโลยีดิจิทัลให้แก่ทุกคน ทุกครอบครัว และทุกองค์กรเพื่อโลกที่เชื่อมต่อและเป็นอัจฉริยะอย่างสมบูรณ์

เราพร้อมเสียสละทุกอย่าง เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์นั้น และเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของลูกค้าของเรา

เราให้คำปฏิญาณว่าจะไม่ทำให้เกิดความเสียหายใดๆ ต่อประเทศ องค์กรหรือผู้ใดก็ตาม โดยการทำให้เกิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัย หรือละเมิดความเชื่อใจของลูกค้า

นั่นคือวาระที่สำคัญที่สุดของเรา และเป็นสัญญาที่เราให้กับคุณอย่างจริงจัง



ลงทุน 2 พันล้านดอลลาร์สำหรับการเปลี่ยนรูปแบบวิศวกรรมซอฟต์แวร์

เรามุ่งมั่นต่อการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์และการปกป้องความเป็นส่วนตัว เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความไว้วางใจและมอบคุณภาพระดับสูงให้กับผลิตภัณฑ์และโซลูชันด้านโครงสร้างพื้นฐานไอซีทีที่เราพัฒนาทั้งหมด

หัวเว่ยจะลงทุนราว 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดช่วง 5 ปีข้างหน้าเพื่อเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยของอุปกรณ์ของเรา และพัฒนาความสามารถและแนวทางปฏิบัติด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของเรา

ประเด็นหลักด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ของหัวเว่ย

ความปลอดภัย: เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ขีดความสามารถในการป้องกันของผลิตภัณฑ์ของเรา รวมถึงความสามารถในการปกป้องความลับ ความถูกต้องและความพร้อมใช้งานของบริการและข้อมูล

การฟื้นคืนสู่สถานะปกติ: เพื่อให้แน่ใจว่าระบบจะยังคงอยู่ในสถานะที่รู้จักในขณะที่ถูกโจมตี แม้ว่าจะอยู่ในสถานะที่ประสิทธิภาพลดลง และฟื้นคืนสภาพได้อย่างรวดเร็วหลังจากถูกโจมตี

ความเป็นส่วนตัว: การปกป้องความเป็นส่วนตัวเป็นข้อบังคับด้านระเบียบกฎหมายและเป็นหนึ่งในคุณค่าที่หัวเว่ยให้ความสำคัญ ผู้ใช้ควรสิทธิอย่างเหมาะสมในการควบคุมวิธีการใช้ข้อมูลของตัวเอง และจะใช้ข้อมูลเมื่อใด และสิทธิที่จะได้รับข้อมูลเมื่อต้องการ นโยบายการใช้ข้อมูลควรมีความโปร่งใส และเราต้องทำให้แน่ใจว่ามีความสามารถและกลไกที่เหมาะสมในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวได้อย่างสมบูรณ์

ความน่าเชื่อถือและความพร้อมใช้งาน: เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของเราทำงานได้โดยไม่มีข้อบกพร่องในระยะยาวตลอดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ ต้องสามารถกู้คืนข้อมูลและจัดการตนเองได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงให้บริการที่คาดการณ์ได้และสม่ำเสมอ




ได้รับการรับรองโดยองค์กรอิสระภายนอก

มาตรฐานและการรับรองระดับโลกเป็นส่วนสำคัญของระบบการประกันความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ของหัวเว่ย นอกจากนี้บริษัทยังสนับสนุนและปฏิบัติตามมาตรฐานและการรับรองความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก

ตั้งแต่ปี 2004 เป็นต้นมา ระบบการจัดการความปลอดภัยของหัวเว่ยได้ผ่านการรับรอง BS7799-2/ISO 27001 และผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ยยังได้ผ่านการรับรองความปลอดภัยมากกว่า 200 รายการซึ่งรวมถึง CC, FIPS, PCI DSS, CSA STAR และ O-TTPS

หัวเว่ยยังคงรักษาความเปิดกว้างและความโปร่งใส ทั้งยังให้ความร่วมมือกับรัฐบาล ลูกค้าและสถาบันการทดสอบภายนอก ซึ่งทดสอบและประเมินความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์และโซลูชันของหัวเว่ยอย่างอิสระ

เราทำงานร่วมกับรัฐบาลของสหราชอาณาจักรมาตั้งแต่ปี 2010 เราได้จัดตั้งศูนย์ประเมินความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์อิสระในสหราชอาณาจักร ซึ่งประเมินความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ที่หัวเว่ยจำหน่ายในตลาดโทรคมนาคมของสหราชอาณาจักร เรายังได้สร้างระบบที่คล้ายกันนี้ในแคนาดาอีกด้วย

หัวเว่ยได้สร้างสภาพแวดล้อมสำหรับทดสอบความปลอดภัยขึ้นสองแห่งในกรุงบรัสเซลล์ และในเมืองตงกวนในประเทศจีน สภาพแวดล้อมเหล่านี้ให้เครื่องมือการทดสอบที่จำเป็น เช่น อุปกรณ์ ทรัพยากรและการสนับสนุนทางเทคนิคสำหรับลูกค้าหรือสถาบันทดสอบภายนอก ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาสามารถทดสอบความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ยได้โดยอิสระ ลูกค้าหลายรายผ่านการรับรองด้วยการสนับสนุนของหัวเว่ย




เพื่อการพัฒนา
อย่างยั่งยืน

icon sustainability

ส่งเสริม
การพัฒนาทางอุตสาหกรรม

icon development

ขับเคลื่อน
การเติบโตทางเศรษฐกิจ

icon economy

เราสร้างคุณค่าให้แก่ลูกค้าของเรา เรามอบแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีีสารสนเทศที่เปิดกว้าง ยืดหยุ่น และปลอดภัย ให้แก่องค์กรและอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อช่วยให้ลูกค้าก้าวสู่ยุคดิจิทัล เรานำเสนอบริการคลาวด์ที่มีความเสถียร เชื่อถือได้ และปลอดภัยแก่ลูกค้าระดับองค์กรที่จะพัฒนาตามความต้องการของพวกเขา สมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อัจฉริยะอื่นๆ ของเราช่วยพัฒนาประสบการณ์ดิจิทัลของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น ทั้งด้านการทำงาน การใช้ชีวิตประจำวัน และความบันเทิง

เราช่วยให้การพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นไปได้ ในฐานะองค์กรในท้องถิ่นที่มีความรับผิดชอบ หัวเว่ยลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางเทคโนโลยีในพื้นที่ที่ห่างไกลที่สุดของโลก และชุมชนต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ อุปกรณ์ของเราได้ช่วยกู้คืนเครือข่ายการสื่อสาร และทำให้แน่ใจว่ามีการดำเนินการที่เชื่อถือได้ของอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมที่สำคัญ ทั้งในพื้นที่ที่มีการระบาดของเชื้ออีโบลาในแถบแอฟริกาตะวันตก ในเขตที่มีการปนเปื้อนรังสีนิวเคลียร์ภายหลังจากการเกิดเหตุสึนามิที่ญี่ปุ่น และแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สร้างความเสียหายในมณฑลเสฉวนประเทศจีน ทุกสิ่งที่เราทำ เราให้ความสำคัญต่อการใช้คาร์บอนต่ำและการปกป้องสิ่งแวดล้อม มอบผลิตภัณฑ์และโซลูชันชั้นนำที่ช่วยประหยัดพลังงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากหัวเว่ยให้แก่ลูกค้า โครงการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์เพื่ออนาคต (Seeds for the Future) ของเราที่จัดขึ้นทั่วโลก เป็นการทำงานร่วมกับเยาวชนผู้มีความสามารถจาก 108 ประเทศและภูมิภาคต่างๆ เพื่อถ่ายทอดความรู้และส่งเสริมการมีส่วนร่วมในชุมชนดิจิทัลอย่างเป็นวงกว้างมากขึ้น

เราทำให้มั่นใจว่าการทำงานของเครือข่ายมีความปลอดภัยและมีเสถียรภาพ เราได้พัฒนาความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับพันธมิตรผู้ให้บริการมาแล้วมากกว่า 30 ปี สร้างเครือข่ายมากกว่า 1,500 เครือข่ายในมากกว่า 170 ประเทศและภูมิภาคต่างๆ จากการร่วมมือกัน ทำให้เราได้ขับเคลื่อนสู่ยุคแห่งข้อมูลอย่างรวดเร็ว ด้วยการเชื่อมโยงผู้คนจากทั่วโลกมากกว่า 3 พันล้านคนเข้าด้วยกัน เราได้ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและเชื่อมต่อกันได้มากยิ่งขึ้น

เราส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรม เรากำลังผลักดันให้อุตสาหกรรมก้าวไปข้างหน้า ในฐานะสมาชิกที่มีความเคลื่อนไหวในองค์กรมาตรฐานกว่า 360 องค์กร ทั้งพันธมิตรในแวดวงอุตสาหกรรม และชุมชนโอเพ่นซอร์สต่างๆ เพื่อพัฒนามาตรฐานกระแสหลักและวางรากฐานสู่ความสำเร็จร่วมกันในอุตสาหกรรมนี้ เราร่วมมือกันเพื่อผลักดันนวัตกรรมของการประมวลผลแบบคลาวด์ เครือข่ายที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์ (SDN) ฟังก์ชันเครือข่ายเสมือน (NFV) และ 5จี

เราผลักดันให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจ การดำเนินธุรกิจของหัวเว่ยก่อให้เกิดรายได้จากภาษีอากร มอบโอกาสการจ้างงานให้แก่ผู้คนในท้องถิ่น และกระตุ้นการพัฒนาห่วงโซ่แห่งคุณค่าของอุตสาหกรรมไอซีทีในทุกประเทศที่เราดำเนินธุรกิจ ยิ่งไปกว่านั้น เรายังส่งมอบนวัตกรรมโซลูชันไอซีทีที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลในทุกอุตสาหกรรม เพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดียิ่งขึ้น

ถามตอบ

  • Huawei ตอบสนองต่อข้อเสนอแบนอุปกรณ์ 5G ของญี่ปุ่นอย่างไร

    แนวทางการจัดซื้อที่ออกโดยรัฐบาลญี่ปุ่นไม่ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับประเทศหรือบริษัทอย่างเฉพาะเจาะจง ธุรกิจของ Huawei ในญี่ปุ่นจึงดำเนินไปตามปกติ

  • หัวเว่ย ตอบสนองต่อข้อกล่าวหาของกระทรวงยุติธรรมในวันที่ 28 มกราคม 2019 อย่างไร

    เราผิดหวังเมื่อได้ทราบเกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่มีต่อบริษัท หลังการจับกุมตัวของคุณ Meng บริษัทก็ได้หาโอกาสพูดคุยเกี่ยวกับการสืบสวนของนิวยอร์กเขตตะวันออกกับกระทรวงยุติธรรม แต่คำขอนั้นกลับถูกปฏิเสธโดยไร้ซึ่งคำอธิบาย

    ข้อกล่าวหาในการฟ้องร้องคดีเกี่ยวกับความลับทางการค้าในวอชิงตันเขตตะวันตกได้มีการดำเนินการทางแพ่งซึ่งตัดสินโดยคู่สัญญา หลังจากที่คณะลูกขุนของเมืองซีแอตเทิลไม่พบว่าข้อเรียกร้องเกี่ยวกับการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายหรือมีเจตนามุ่งร้ายทางความลับทางการค้า

    เราปฏิเสธว่าเราหรือบริษัทย่อยหรือบริษัทในเครือของเราได้กระทำการใดๆ อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายของสหรัฐฯ ตามที่ระบุยืนกรานไว้ในแต่ละคำฟ้อง เราไม่ทราบว่าคุณ Meng ได้กระทำความผิดใดๆ และเราเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วศาลของสหรัฐอเมริกาจะได้ข้อสรุปเดียวกันนี้

  • หัวเว่ย ตอบสนองอย่างไรต่อเหตุการณ์ในโปแลนด์

    ตามรายงานวันที่ 11 มกราคม 2019 เจ้าหน้าที่ในโปแลนด์ได้จับกุมและตั้งข้อหาคนสองคนว่ามีพฤติกรรมสอดแนม และหนึ่งในนั้นเป็นพนักงานของ หัวเว่ย

    โฆษกของหน่วยงานความมั่นคงของโปแลนด์กล่าวว่าหน่วยงานความมั่นคงภายใน (ISA) ของโปแลนด์ได้กักตัวพลเมืองจีนและอดีตเจ้าหน้าที่ความมั่นคงชาวโปแลนด์เมื่อวันที่ 8 มกราคม พนักงานคนดังกล่าวระบุไว้อย่างชัดเจนว่า “เขากระทำโดยลำพัง บริษัทที่เขาทำงานให้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น”

    หัวเว่ย ได้ตัดสินใจยุติการจ้างงานเขา การกระทำที่เขาถูกกล่าวหาไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับบริษัท ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของสัญญาแรงงานของ หัวเว่ย เราได้ทำการตัดสินใจเช่นนี้เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ หัวเว่ย เสียชื่อเสียง

    หัวเว่ย พยายามอย่างเต็มที่ที่จะขยายและปรับปรุงระบบการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่แข็งแกร่งอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น เราปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่มีผลบังคับใช้ทุกข้อในประเทศและภูมิภาคที่เราดำเนินกิจการ รวมถึงกฎหมายและข้อบังคับว่าด้วยการควบคุมการส่งออกและคว่ำบาตรของสหประชาชาติ สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นทั้งนโยบายขององค์กรและหลักการดำเนินงานขั้นพื้นฐานที่สุดของเรา

  • สถานการณ์ในแคนาดาเป็นอย่างไร

    แคนาดายังไม่ได้ยับยั้งการใช้เทคโนโลยีของ Huawei ซึ่งรวมถึง 5G และระบบเครือข่ายมือถือและการเชื่อมต่อที่มีอยู่ เราจะยังคงทำงานร่วมกับลูกค้าชาวแคนาดาของเราตามปกติต่อไป

    ในกรณีเกี่ยวกับ CFO ของเรา ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนทางกฎหมาย เราเชื่อมั่นว่าระบบกฎหมายของแคนาดาและสหรัฐอเมริกาจะเปิดกว้างและยุติธรรม และจะได้ข้อสรุปที่เป็นธรรม

  • Huawei ตอบสนองต่อการแบนอุปกรณ์เครือข่าย 5G ของ Huawei ในออสเตรเลียอย่างไร

    การตัดสินใจปิดกั้นไม่ให้ Huawei เปิดบริการ 5G ของรัฐบาลออสเตรเลียนี้มีแรงจูงใจทางการเมือง ไม่ใช่ผลจากกระบวนการตัดสินใจที่อิงตามข้อเท็จจริง โปร่งใสและยุติธรรม ซึ่งไม่สอดคล้องกับผลประโยชน์ระยะยาวของชาวออสเตรเลีย รวมทั้งเป็นการลิดรอนสิทธิของธุรกิจและผู้บริโภคในการเลือกเทคโนโลยีการสื่อสารที่ดีที่สุดที่มีอยู่ในออสเตรเลีย

    ตลาดที่ไม่เป็นการแข่งขันจะทำให้ต้นทุนในการสร้างเครือข่ายสูงขึ้นและส่งผลกระทบยาวนานต่อการเปลี่ยนผ่านเป็นเศรษฐกิจแบบดิจิทัลของออสเตรเลีย ในท้ายที่สุด ธุรกิจและผู้บริโภคทั่วไปจะเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการดำเนินการของรัฐบาล

    อันที่จริง หลักฐานนั้นเป็นที่ประจักษ์แล้ว จากการยกเลิกเครือข่ายโทรศัพท์มือถืออันดับที่สี่ของประเทศ TPG Telecom กล่าวโทษรัฐบาลอย่างหนักแน่นว่าการแบน Huawei เป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้ต้นทุนของการใช้ผู้จำหน่ายรายอื่นสูงขึ้น เช่นเดียวกับการทำให้สถานการณ์ซับซ้อนขึ้น

    ไม่ว่าในประเทศใด การแข่งขันในตลาดอย่างเป็นธรรมและตรงไปตรงมานั้นถือเป็นส่วนสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง การดำเนินการของรัฐบาลออสเตรเลียได้บั่นทอนหลักการแข่งขันและการไม่เลือกปฏิบัติทางการค้า เนื่องจากรัฐบาลไม่ได้ระบุถึงความกังวลเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับการบริหาร การรักษาความปลอดภัยหรือความเหมาะสมของ Huawei ต่อการดำเนินธุรกิจอย่างปลอดภัยในออสเตรเลีย ดังนั้น เราจึงไม่ทราบว่าจะตอบสนองได้อย่างไร

  • หัวเว่ย มีท่าทีอย่างไรต่อการตัดสินใจของ HSBC และ Standard Chartered ที่จะระงับบริการทางธนาคารหรือเงินทุนใหม่ๆ

    ธุรกิจของ หัวเว่ย มีความแข็งแกร่ง การดำเนินกิจการเป็นไปอย่างปกติ และเรายังคงได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากพันธมิตรทางการเงินของเราทั่วโลก

    หัวเว่ย ให้ความสำคัญกับพันธมิตรของเราทุกราย เราพยายามทุกวิถีทางเพื่อสร้างความมั่นใจว่าความร่วมมือของเรา รวมถึงความร่วมมือกับพันธมิตรทางการเงินของเรา จะสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนและเป็นประโยชน์ร่วมกัน

  • หัวเว่ย ทำอย่างไรบ้างเพื่อตอบข้อกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย

    เป็นงานที่ท้าทายที่จะพิสูจน์แย้งคำกล่าวอ้างที่ไม่มีหลักฐานรองรับ ตลอด 30 ปีของธุรกิจ ไม่เคยเกิดการละเมิดทางความปลอดภัยครั้งใหญ่เลย แต่ถ้ามีใครที่สามารถแสดงหลักฐานค้านเราได้ เราจะออกมาโต้ตอบโดยตรง จนถึงปัจจุบันนี้ยังไม่มีหลักฐานใดๆ เลย

    เราได้สร้างศูนย์ทดสอบที่สหราชอาณาจักร แคนาดา และเยอรมนี และเรากำลังวางแผนที่จะสร้างอีกแห่งที่เบลเยี่ยมในช่วงต้นปี 2019 ศูนย์เหล่านี้ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านการดักสัญญาณและความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์สามารถประเมินอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ของเราได้ ตลอดระยะเวลาที่เปิดศูนย์เหล่านี้ ไม่เคยพบหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่ามี "ช่องโหว่" ที่พูดถึงกันเลย

    เมื่อปลายปีที่แล้วเราได้ประกาศลงทุน 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (19 ธันวาคม 2018) เพื่อปรับปรุงซอฟต์แวร์ของเราและเพื่อให้สามารถตรวจสอบอุปกรณ์ของเราได้ละเอียดมากขึ้น เงินจำนวนนี้จะนำมาใช้สร้างห้องปฏิบัติการเพิ่มขึ้นและจ้างพนักงานเพิ่มขึ้น และบวกกับการทดสอบภายนอก ในไม่ช้าอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ของเราก็จะกลายเป็นสินค้าจากบริษัทเทคโนโลยีที่ถูกทดสอบอย่างละเอียดที่สุดในโลก เราไม่ต้องการเหลือช่องว่างให้สงสัยว่าอุปกรณ์ของเราก่อให้เกิดภัยคุกคามด้านความมันคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และเรายินดีที่จะดำเนินการอย่างโปร่งใสที่สุด

  • Vodafone ตัดสินใจที่จะยุติความสัมพันธ์กับ หัวเว่ย แล้วหรือไม่

    Vodafone ตัดสินใจหยุดการนำอุปกรณ์ของ หัวเว่ย มาใช้ในเครือข่ายหลักของยุโรปเป็นการชั่วคราว นี่ไม่ได้หมายความว่าความสัมพันธ์ของ Vodafone กับ หัวเว่ย ได้สิ้นสุดลงแล้ว เราขอแจ้งให้ทราบว่า เครือข่ายหลักเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของเครือข่าย 5G ของ Vodafone และ หัวเว่ย ยังคงสนับสนุนการเปิดตัวระบบ 5G ของ Vodafone อยู่

    Vodafone เป็นพันธมิตรด้านกลยุทธ์ และเป็นพันธมิตรระยะยาวของ หัวเว่ย มาตั้งแต่ปี 2007 และเรารู้สึกขอบคุณที่บริษัทให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง

    และยังรู้สึกขอบคุณที่บริษัทเล็งเห็นถึงบทบาทของเราในตลาดโทรคมนาคมในภูมิภาคยุโรป และนั่นเป็นการพูดคุยหารือโดยอิงกับข้อเท็จจริงที่มากกว่า ซึ่งควรเกิดขึ้นในแวดวงซัพพลายเออร์ 5G Nick Read CEO ของ Vodafone ได้กล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่า: “แน่นอนว่าคงจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเราหากมีการแบนโดยสมบูรณ์ในระดับสัญญาณ แต่คงจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับภาคโทรคมนาคมทั้งหมดของยุโรป…สิ่งที่ทำได้ ณ ตอนนี้คือการพูดคุยกับหน่วยงานด้านความปลอดภัย กับนักการเมืองและกับ หัวเว่ย เพื่อให้ทุกคนมีความเข้าใจที่ดียิ่งขึ้น”

  • กฎหมายข่าวกรองแห่งชาติฉบับใหม่ของจีนที่เริ่มใช้เมื่อปีที่แล้วบีบบังคับให้ Huawei และบริษัทสัญชาติจีนอื่นๆ ร่วมมือกับชุมชนข่าวกรองของจีน เราจะไว้ใจคุณได้อย่างไร

    แม้จะมีรายงานที่คลาดเคลื่อนจำนวนมากจากสื่อ เพื่อความกระจ่างชัดเจน กฎหมายของจีนไม่ได้กำหนดให้ Huawei ต้องติดตั้ง “ช่องโหว่” (Backdoor) ในเครือข่ายหรืออุปกรณ์ ประเด็นนี้ได้รับการชี้แจงจากกระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐประชาชนจีนแล้ว เรายังได้ตรวจสอบยืนยันเรื่องนี้ด้วยตนเองกับสำนักงานกฎหมายชั้นนำของจีน Zhong Lun และมุมมองของ Zhong Lun ก็ได้รับการตรวจสอบและยืนยันโดย Clifford Chance หนึ่งในสำนักงานกฎหมายชั้นนำของโลก ความเห็นของพวกเขายืนยันว่าบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายการต่อต้านการจารกรรม กฎหมายต่อต้านการก่อการร้าย กฎหมายความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ กฎหมายข่าวกรองแห่งชาติ และกฎหมายความมั่นคงแห่งรัฐไม่ได้ให้อำนาจแก่เจ้าหน้าที่รัฐของจีนในการฝังช่องโหว่ อุปกรณ์แอบฟัง หรือสปายแวร์ไว้ในอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคม

    Huawei ไม่เคยได้รับคำร้องขอเช่นนี้และเราจะปฏิเสธการให้ความร่วมมืออย่างเด็ดขาดหากรัฐบาลร้องขอ Huawei เป็นบริษัทอิสระ และเราคำนึงถึงลูกค้าเป็นหลักในทุกสิ่งที่เราทำ เราจะไม่ประนีประนอมหรือทำอันตรายต่อประเทศ องค์กร หรือบุคคลใดก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยในโลกไซเบอร์และการปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้

  • Huawei ทำอะไรบ้างเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของฉัน Huawei มีมุมมองอย่างไรต่อการปกป้องความเป็นส่วนตัว

    Huawei ยึดมั่นที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใดก็ตามที่ใช้ผลิตภัณฑ์และบริการของเรา การปกป้องความเป็นส่วนตัวเป็นสิ่งสำคัญต่อเราเช่นเดียวกับความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์

    “Huawei พยายามอย่างเต็มที่ที่จะขยายและปรับปรุงระบบการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่แข็งแกร่งอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น เราปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่มีผลบังคับใช้ทุกข้อในประเทศและภูมิภาคที่เราดำเนินกิจการ รวมถึงกฎหมายและข้อบังคับว่าด้วยการควบคุมการส่งออกและคว่ำบาตรของสหประชาชาติ สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นทั้งนโยบายขององค์กรและหลักการดำเนินงานขั้นพื้นฐานที่สุดของเรา”

    หน่วยธุรกิจทั้งหมดของ Huawei มีสำนักงานรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์และสำนักงานปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ จึงมั่นใจได้ว่าการปกป้องความเป็นส่วนตัวคือส่วนหนึ่งของการดำเนินงานในแต่ละวันของเรา การปกป้องความเป็นส่วนตัวของลูกค้าและเสรีภาพในการสื่อสารคือส่วนสำคัญของแนวทางปฏิบัติในการดำเนินธุรกิจ (BCG) ของพนักงาน Huawei พนักงาน Huawei ทุกคนทั่วโลกต้องเรียนรู้ ลงชื่อ และปฏิบัติตามแนวทางเหล่านี้

  • ใครเป็นเจ้าของ Huawei

    Huawei เป็นบริษัทอิสระที่มีเอกชนเป็นเจ้าของ เราไม่ได้มีเจ้าของเป็น หรือถูกควบคุมโดย หรืออยู่ในสังกัดของรัฐบาลหรือบริษัทบุคคลที่สามอื่นๆ

    ในความเป็นจริง Huawei มีเจ้าของเป็นพนักงานของเราผ่านโครงการเสนอขายหุ้นต่อพนักงาน (ESOP) ที่มีมาตั้งแต่ช่วงแรกของบริษัท ในปี 2018 มีพนักงานที่ถือหุ้น 96,768 คน ไม่มีผู้ใดที่สามารถถือครองได้แม้แต่หุ้นเดียวโดยไม่ต้องทำงานที่ Huawei Ren Zhengfei ผู้ก่อตั้งของเราถือหุ้น 1.14% ในบริษัท

    การมีพนักงานเป็นเจ้าของนั้นเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราเติบโตอย่างรวดเร็ว ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทได้มอบสิ่งจูงใจให้แก่พนักงานที่ภักดีของเรา และได้ช่วยเราดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถ การตัดสินใจของ Huawei ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความต้องการผลตอบแทนรายไตรมาสและเงินปันผลประจำปี ซึ่งต่างจากบริษัทมหาชนอื่นหลายแห่ง

  • Huawei มีความสัมพันธ์อย่างไรกับรัฐบาลจีน

    Huawei เป็นบริษัทเอกชนที่ถือครองโดยพนักงานแต่เพียงอย่างเดียว ไม่มีบุคคลภายนอกรวมถึงรัฐบาลจีนถือหุ้นใดๆ ในบริษัท

    เราเป็นบริษัทที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วโลก เราดำเนินกิจการอย่างโปร่งใส่ร่วมกับรัฐบาลของประเทศที่เราดำเนินกิจการอยู่ และเราก็มีการสื่อสารแบบเปิดกับรัฐบาลต่างๆ รวมถึงรัฐบาลจีนด้วย

    เช่นเดียวกับหลายๆ บริษัท เรามีข้อตกลงทางการค้ากับรัฐบาลในประเทศที่เราดำเนินกิจการอยู่ รวมถึงประเทศจีนด้วย เราขายผลิตภัณฑ์สื่อสารสำหรับพลเรือนให้กับรัฐบาลจีน และขอบเขตความสัมพันธ์ของเราก็มีเพียงเท่านี้

  • Huawei มีความสัมพันธ์กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน (CPC) หรือไม่

    กฎหมายของประเทศจีนระบุว่าบริษัทจีนและบริษัทต่างชาติที่ดำเนินกิจการในประเทศจีนจะต้องจัดตั้งคณะกรรมการ CPC Huawei จึงได้จัดตั้งคณะกรรมการ CPC ขึ้นตามกฎหมายนี้ คณะกรรมการ CPC ของเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการตัดสินใจในการดำเนินงานหรือธุรกิจใดๆ

    Ren Zhengfei ผู้ก่อตั้งของเราเป็นสมาชิกของ CPC แต่สถานะสมาชิกของเขาไม่ได้มีผลกระทบต่อธุรกิจ บริบททางประวัติศาสตร์เป็นประโยชน์ต่อการอธิบายว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ในตอนที่ Ren Zhengfei ยังเป็นชายหนุ่ม คุณต้องเป็นสมาชิก CPC เพื่อรับตำแหน่งหน้าที่ใดๆ ก็ตาม แม้กระทั่งหัวหน้าทีมประกอบอาหารในกองทัพ

  • Huawei หรือ Ren Zhengfei มีความสัมพันธ์กับ PLA หรือไม่

    Ren Zhengfei ผู้ก่อตั้งของเราเป็น CEO ผู้ที่รับราชการทหารในสมัยหนุ่มๆ เช่นเดียวกับผู้นำในธุรกิจอื่นๆ ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ Ren เข้าร่วมหน่วยทหารช่างของกองทัพปลดแอกประชาชนในปี 1974 และเกษียณในอีกเก้าปีต่อมาในปี 1983

  • เพราะเหตุใด Ren Zhengfei ถึงหันมาเดินในเส้นทางอาชีพด้านเทคโนโลยี

    ในฐานะช่างเทคนิคในกองทัพ Ren ได้รับมอบหมายให้ช่วยสร้างโรงงานให้กับบริษัทฝรั่งเศสที่ชื่อ Technip Speichim โรงงานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เหลียวหยาง และผลิตเส้นใยสังเคราะห์สำหรับเสื้อผ้า ซึ่งได้มอบประสบการณ์เทคโนโลยีที่ใช้ระบบอัตโนมัติขั้นสูง ซึ่งไม่มีที่อื่นอีกในประเทศจีนให้แก่ Ren

    โรงงานขาดเครื่องมือที่ใช้ในการทดสอบอุปกรณ์การผลิต Ren จึงใช้การอนุมานทางคณิตศาสตร์เพื่อออกแบบเครื่องมือ และนั่นทำให้เขาเป็นที่รู้จักในอุตสาหกรรมและได้รับเชิญให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกการประชุมวิทยาศาสตร์แห่งชาติ อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีของ Huawei ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้นกับประสบการณ์ที่ผ่านมาของคุณ Ren ในหน่วยทหารช่าง